เนื้อหาวันที่ : 2007-03-14 10:36:33 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2002 views

ไทย ซัมมิท เลือกอินเตอร์เมคพัฒนาระบบบาร์โค้ด

บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ชั้นนำได้สร้างมาตรฐานการทำงานด้วยการใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ด แบบคอมพิวเตอร์พกพา เพื่อใช้ในการจัดการสินค้าคงคลังและวัตถุดิบ

บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด ผู้ผลิตชิ้นส่วนรายใหญ่ในไทยให้กับอุตสาหกรรมประกอบรถยนต์ อุตสาหกรรมประกอบรถจักรยานยนต์ เครื่องจักรกลทางการเกษตรและเครื่องใช้ไฟฟ้า ได้สร้างมาตรฐานให้กับระบบบาร์โค้ดเพื่อติดตามและบันทึกข้อมูลวัตถุดิบและสินค้าพร้อมขายของบริษัทโดยใช้ระบบบาร์โค้ดร่วมกับคอมพิวเตอร์พกพาของบริษัท อินเตอร์เมค รุ่น 730 และสแกนเนอร์ของบริษัท อินเตอร์เมค รุ่น VT1800 ในการอ่านระบบบาร์โค้ด

.

ด้วยการดำเนินธุรกิจที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว กลุ่มบริษัทไทยซัมมิทจึงต้องการให้ระบบติดตามที่มีประสิทธิภาพเพื่อใช้ในการจัดการสินค้าคงคลังและวัตถุดิบที่สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด โดยก่อนหน้าที่จะนำระบบบาร์โค้ดของบริษัท อินเตอร์เมคมาใช้งาน กลุ่มบริษัทไทยซัมมิทใช้พนักงานติดตามและเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเองด้วยสัดส่วนสูงสุดถึง 95%

.

หลังจากทำการตรวจสอบข้อเสนอมากมาย ในที่สุดกลุ่มบริษัทไทยซัมมิทก็ตัดสินใจนำระบบบาร์โค้ดของบริษัท อินเตอร์เมคมาใช้งานนำร่อง การทดลองใช้ดังกล่าวประสบความสำเร็จทั้งในส่วนของบริษัทเองและพนักงาน โดยระบบบาร์โค้ดของบริษัท อินเตอร์เมค ได้แก้ไขปัญหา ชั้นวางสินค้าจำนวนมาก (เช่น ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเมื่อพนักงานป้อนข้อมูลด้วยตนเอง) และ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือระบบนี้ได้ช่วยพนักงานเพิ่มความสามารถในการผลิตและยังปรับปรุงการดำเนินงานให้รวดเร็วขึ้นด้วย

.

กลุ่มบริษัทไทยซัมมิทนำระบบบาร์โค้ดของบริษัท อินเตอร์เมคมาใช้ในสองโครงการ ได้แก่ โครงการบาร์โค้ดสำหรับสินค้าพร้อมขาย (Finished Goods Bar Code Project) และโครงการ   บาร์โค้ดสำหรับวัตถุดิบ (Raw Material Bar Code Project) ทั้งสองโครงการใช้คอมพิวเตอร์พกพารุ่น 730 และสแกนเนอร์ VT1800  ของบริษัท อินเตอร์เมคในการอ่านและบันทึกข้อมูล

.

ทั้งสองโครงการช่วยติดตามการดำเนินการในโรงงานที่เกี่ยวข้องกับการเส้นทางเดินของวัตถุดิบที่สามารถแบ่งออกเป็นส่วนส่วน ได้แก่ กระบวนการนำเข้า กระบวนการผลิต และกระบวนการส่งออก ปัจจุบันโครงการบาร์โค้ดสำหรับสินค้าพร้อมขายที่ใช้ติดตามกระบวนการส่งออกของสินค้าพร้อมขาย และโครงการบาร์โค้ดสำหรับวัตถุดิบที่ใช้ติดตามกระบวนการนำเข้าของวัตถุดิบที่นำเข้ามาจากซัพพลายเออร์กว่า 300 ราย ประสบความสำเร็จในการใช้งานอย่างดี ขณะที่ส่วนของกระบวนการผลิตยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการออกแบบและกำหนดจุดควบคุมอยู่

.

โครงการบาร์โค้ดสำหรับสินค้าพร้อมขายอยู่ในระยะแรกของการพัฒนาและนำระบบบาร์โค้ดของบริษัท อินเตอร์เมคไปใช้งาน เนื่องจากมูลค่าของกระบวนการส่งออกหรือสินค้าพร้อมขายได้รับการจัดอันดับให้มีมูลค่าสูงสุดเหนือกระบวนการอื่น ๆ ทั้งหมด ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้วางในคลังสินค้าที่แบ่งพื้นที่ออกเป็น 7 ส่วนตามชนิดของผลิตภัณฑ์หรือลูกค้าโออีเอ็ม เช่น อีซูซุ มิตซูบิชิ โตโยต้า และนิสสัน คลังสินค้าเหล่านี้ใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ดที่ติดตั้งอยู่ในคอมพิวเตอร์พกพาของบริษัท อินเตอร์เมค รุ่น 730 ในการจัดการเส้นทางเดินของวัตถุดิบนำเข้าและส่งออกจากสินค้าคงคลัง โดยใช้สแกนเนอร์แบบพกพาอ่านป้ายบาร์โค้ดที่อยู่บนตู้สินค้าและส่งผ่านข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นฐานข้อมูลด้วยระบบไร้สาย เพื่ออัพเดทเข้าสู่ระบบอีอาร์พีที่เป็นระบบประมวลผลกลางของบริษัทฯ ส่วนบัตรบันทึกข้อมูลสินค้าจะติดตั้งไว้ที่จุดปลายทางของผู้ใช้และสแกนด้วยสแกนเนอร์ของบริษัท อินเตอร์เมค รุ่น VT1800

.

โครงการบาร์โค้ดสำหรับวัตถุดิบถูกนำไปใช้ติดตามวัตถุดิบที่นำมาจากซัพพลายเออร์กว่า 300 รายแล้ว โดยกลุ่มบริษัทซัมมิทได้ใช้เครื่องสแกนบาร์โค้ดของ อินเตอร์เมค VT1800 สแกนรหัสบาร์โค้ดที่ติดอยู่กับใบกำกับภาษีของซัพพลายเออร์ที่ส่งมาพร้อมสินค้าทุกรายการ เพื่อยืนยันข้อมูลที่ระบุไว้ในใบสั่งซื้อก่อนหน้าที่จะมีการส่งมาจากแผนกจัดซื้อของกลุ่มบริษัทซัมมิท

.

เราต้องการเครื่องอ่านบาร์โค้ดที่มีความทนทานสูง สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมในโรงงานของเราได้ จากการพิจารณา ประเมิน และวิจัยหลายๆ ข้อเสนอ เราพบว่าบริษัท อินเตอร์เมคสามารถเติมเต็มความต้องการของเราได้ และผลิตภัณฑ์ก็ใช้งานง่าย สะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์พกพารุ่น 730 เพื่อการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็ว และสแกนเนอร์ รุ่น VT1800 สำหรับการอ่านบาร์โค้ดในใบส่งมอบสินค้า นายปรีชา พัวสุทธิ ผู้จัดการฝ่ายวัโครงการอีอาร์พี บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด กล่าว และว่า เครื่องอ่านบาร์โค้ดของบริษัท อินเตอร์เมคช่วยลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากแรงงานคนให้เหลือน้อยที่สุด เพิ่มประสิทธิภาพในรวบรวมข้อมูลและมีความแม่นยำสูง พร้อมทั้งเร่งกระบวนการทำงานของบริษัทให้รวดเร็วขึ้น โดยถ้าโปรแกรมการตรวจสอบข้อมูลได้รับการออกแบบอย่างเหมาะสมแล้ว บริษัทสามารถข้ามขั้นตอนการตรวจสอบด้วยสายตาไปใช้ระบบการสแกนด้วยโปรแกรมอัตโนมัติได้