อาร์เค บูมอสังหาฯ โซนกรุงเทพตะวันออก ตั้งเป้าโต 30% เตรียมเปิดทาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศ อีก 4 โครงการ ในปี 54
นายวิสิฐ กิตติอุดม ประธานบริษัทรุ่งกิจ เรียลเอสเตท จำกัด
อาร์เค บูมอสังหาฯ โซนกรุงเทพตะวันออก ตั้งเป้าโต 30% เตรียมเปิดทาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศ อีก 4 โครงการ ในปี 54
อาร์เค เปิดปีกระต่ายทอง ด้วยแกรนด์โอเพนนิ่ง 4 โครงการแนวราบย่านกรุงเทพฝั่งตะวันออกช่วงไตรมาสแรกของปี พร้อมมีแผนเตรียมเปิดอีก 4 โครงการใหม่ทาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศจับกลุ่มตลาดระดับกลาง ในช่วงปลายปี
นายวิสิฐ กิตติอุดม ประธานบริษัทรุ่งกิจ เรียลเอสเตท จำกัด หรือ อาร์เค กล่าวว่าปัจจุบัน บริษัทฯ มีโครงการแนวราบลักษณะทาวน์โฮมและโฮมออฟิศที่กำลังดำเนินการก่อสร้างและเตรียมโอนอยู่ 4 โครงการ ซึ่งจะแกรนด์โอเพนนิ่งทั้งหมดในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ได้แก่ 1) RK Office Park รามอินทรา-รามคำแหง บนถนนสุวินทวงศ์ 2) RK Biz Center มอเตอร์เวย์-แอร์พอร์ตลิงค์ 3) RK Park รามอินทรา-คู้บอน และ 4) RK Park รามอินทรา-รามคำแหง มูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 3 พันล้านบาท
นายวิสิฐ สรุปความเคลื่อนไหวของทั้ง 4 โครงการว่า “RK Office Park รามอินทรา-รามคำแหง เป็นโฮมออฟฟิศ จำนวน 267 ยูนิต ปัจจุบันเหลือเพียง 20% เท่านั้น ส่วนตัวบ้านจะสร้างเสร็จและพร้อมโอนทั้งหมดในไตรมาส 3 นี้ และคาดว่าจะปิดการขายได้ในช่วงกลางปีนี้
สำหรับ RK Biz Center มอเตอร์เวย์-แอร์พอร์ตลิงค์ ซึ่งเป็นโครงการ โฮมออฟฟิศที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว มีจุดเด่นตรงที่ทำเลอยู่ติดถนนใหญ่ พื้นที่ขนาด 20-140 ตารางวา ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 4-22 ล้านบาท มีพื้นที่จอดรถได้ทั้งสิ้น 200 กว่าคัน และสามารถเข้าออกได้สองทาง โดยทางถนนเลียบมอเตอร์เวย์และถนนร่มเกล้า 1 และอยู่ห่างจากแอร์พอร์ตลิงค์และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพียงแค่ 5 นาที
อีกทั้งโครงการฯ ยังได้จัดบริการเสริมพิเศษชัทเทิลบัสรับส่งลูกค้าโครงการฯ กับแอร์พอร์ตลิงค์และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีจำนวน 177 ยูนิต บริษัทฯ ตั้งเป้าว่าจะสามารถสร้างเสร็จและโอนให้ลูกค้าได้ราว 40% ในปีนี้
“RK Park รามอินทรา-คู้บอน มีทั้งทาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศ ตั้งอยู่โซนที่อยู่อาศัย เดินทางสะดวก อยู่ใกล้วงแหวนรอบถนน ใกล้แฟชั่นไอส์แลนด์และซาฟารีเวิลด์ ยิ่งมีกระแสการพัฒนารถไฟฟ้าสายสีชมพู มีนบุรี ทำให้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ตั้งแต่ช่วงเปิดตัวไปในช่วงครึ่งปีหลังปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันขายแล้วมากกว่า 70% และเริ่มทยอยโอนบ้านแล้ว คาดว่าจะขายหมดภายในปีนี้ ส่วน RK Park รามอินทรา-รามคำแหง บนเส้นหทัยราษฎร์ โครงการทาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งหมด 349 ยูนิต เปิดเฟสแรก 170 ยูนิตไปเมื่อต้นปี ปัจจุบันขายได้ราว 40%” นายวิสิฐ กล่าว
สำหรับแผนการลงทุนโครงการใหม่ในปี 2554 นี้ นายวิสิฐ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนจะเปิดอีก 4 โครงการ มีหลายรูปแบบ ทั้งทาวน์โฮม โฮมออฟิศ รวมถึงบ้านเดี่ยว โดยจะยังยึดทำเลในแถบพื้นที่กรุงเทพฝั่งตะวันออกเช่นเดิม เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญในพื้นที่โซนนี้ เข้าใจความต้องการของตลาดเป็นอย่างดี
อีกทั้งราคาที่ก็ไม่สูงมาก โดยทั้ง 4 โครงการจะตั้งอยู่บนถนนสายไหม ถนนหทัยราษฎร์ ถนนร่มเกล้า และถนนพัฒนาชนบท 4 โดยโครงการที่เริ่มดำเนินการแล้วในขณะนี้คือ RK Park วัชรพล-สายไหม ใช้เงินลงทุนกว่า 200 ล้านบาท และได้เริ่มเปิดพรีเซลแล้ว คาดว่าสิ้นปี 2554 น่าจะขายได้ไม่ต่ำกว่า 60% ส่วนอีก 3 โครงการจะเริ่มในช่วงครึ่งปีหลัง
RK Park วัชรพล-สายไหม พื้นที่ 18 ไร่ 66 ตารางวา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการถมที่และวางระบบสาธารณูปโภค และจะเริ่มก่อสร้างในเดือนเมษายน บ้านตัวอย่างพร้อมเสร็จให้เข้าชมได้ในช่วงกลางปีนี้ โครงการประกอบไปด้วยอาคาร 3 ประเภท ได้แก่ทาวน์โฮม 2 ชั้น และ 3 ชั้น และโฮมออฟฟิศ 3 ชั้น รวม 174 ยูนิต โครงการอยู่ติดถนนใหญ่ ใกล้แยกวัชรพล ห่างจากตลาดวงศกร เพียงแค่ 500 เมตร และอยู่ใกล้กับสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติสายไหม ราคาเริ่มต้นที่ 1.69 ล้านบาท ส่วนออฟฟิศราคาอยู่ที่ 3.29 ล้านบาท
นายวิสิฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกโครงการของอาร์เคจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งจากลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ เพราะชื่อเสียงในด้านงานก่อสร้าง ความแข็งแรงมั่นคง และความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับการลงทุนของลูกค้า ทำให้สินค้าของเราไม่แพ้โครงการของแบรนด์ใหญ่ๆ ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน
อีกทั้งเรายังมีหลักในการเลือกทำเลทำโครงการที่ว่าทุกโครงการต้องติดถนนใหญ่ เข้าออกสะดวก อยู่ในเขตชุมชนที่คับคั่ง และมีความพร้อมในด้านสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก ทำให้สินค้าของอาร์เคขายได้อย่างต่อเนื่อง และใช้เวลาไม่นานในการปิดโครงการ โดยกลุ่มลูกค้าของอาร์เคจะเป็นกลุ่มระดับกลาง หรือบีบวก ที่มองหาที่อยู่อาศัยที่คุ้มค่า และบริษัทธุรกิจ ทั้งขนาดย่อมและขนาดกลาง
“ในปี 2554 นี้ บริษัทฯ จะหันมาเน้นในเรื่องการสร้างแบรนด์อาร์เคให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ผ่านการใช้สื่อที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย รวมถึงสื่อออนไลน์ที่ช่วยให้เข้าถึงองค์กรธุรกิจ และกลุ่มคนและครอบครัวรุ่นใหม่ และกิจกรรมทางการตลาด สำหรับผลดำเนินการในปีนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะโตขึ้นจากปี 2553 ราว 30% จากโครงการที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม” นายวิสิฐ กล่าวสรุป
Thailandindustrycom_official
