เนื้อหาวันที่ : 2011-02-14 10:12:58 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 641 views

ภาวะเศรษฐกิจรายสัปดาห์ 7-10 ก.พ. 2554

Economic Indicators: This Week

หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือน ธ.ค.53 มีจำนวนทั้งสิ้น 4,279.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 113.6 พันล้านบาท  คิดเป็นร้อยละ 42.5 ของ GDP  ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นสุทธิของหนี้สาธารณะที่สำคัญเกิดจากหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงและหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน  โดยเพิ่มขึ้นสุทธิ 97.9 และ 18.7 พันล้านบาท ตามลำดับ สะท้อนว่าสถานะหนี้สาธารณะของไทยยังคงมีความมั่นคง จากสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ที่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ตั้งไว้ไม่เกินร้อยละ 60 ของ GDP

ปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ในเดือน ม.ค. 54 ขยายตัวร้อยละ 5.8  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ชะลอลงจากเดือน ธ.ค. 53 ที่ขยายตัวร้อยละ 9.5 (หรือหดตัวเล็กน้อยร้อยละ     -0.9 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า) เนื่องจากปัจจัยฐานที่เริ่มปรับตัวเป็นปกติ แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะยังขยายตัวได้ดี โดยได้รับปัจจัยบวกจาก 1) แนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง และ 2) กำลังซื้อของประชาชนยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะรายได้เกษตรกรที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดีตามราคาสินค้าเกษตรที่ยังคงทรงตัวในระดับสูง

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในเดือน ม.ค. 54  อยู่ที่ระดับ 72.6 ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนที่ระดับ 71.9 โดยได้รับปัจจัยบวกจาก 1) การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอุปสงค์ในประเทศ

2) รายได้ภาคครัวเรือนอยู่ในเกณฑ์ดี จากราคาสินค้าเกษตรที่ยังคงทรงตัวในระดับสูง และ 3) ความต่อเนื่องของนโยบายรัฐบาล เช่น การต่อมาตรการลดค่าครองชีพ รวมถึงมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซล อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยที่กดดันให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลง ได้แก่ แนวโน้มราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น และผู้บริโภคกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในประเทศ

Economic Indicators: Next Week

ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือน ม.ค. 54 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 18.0  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน ชะลอลงจากเดือนธ.ค.53 ที่ขยายตัวในระดับสูงร้อยละ 28.2 เนื่องจากปัจจัยฐานที่เริ่มปรับสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ถือได้ว่ายังขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี

โดยได้รับปัจจัยบวกจาก 1) กำลังซื้อของประชาชนเพิ่มขึ้น ตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ  และรายได้เกษตรกรที่ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น และ 2) ผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงความนิยมจากรถที่มีขนาดใหญ่ มาเป็นรถที่มีขนาดกลางและเล็กมากขึ้น