เนื้อหาวันที่ : 2011-02-11 08:50:58 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1543 views

โรงงานปรับเป้าปริมาณน้ำตาล ยันปีนี้เพียงพอแน่นอน

โรงงานน้ำตาลเปิดหีบอ้อยผ่านมากว่าครึ่งทางแล้ว ได้น้ำตาลเกือบ 40 ล้านกระสอบ ปรับเป้าปีนี้ได้น้ำตาลไม่ต่ำกว่า 70 ล้านกระสอบ ชี้เพราะผลผลิตดีทั้งที่ประสบภัยแล้งและน้ำท่วม

นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี
ประธานคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ บริษัทไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด

โรงงานน้ำตาลเปิดหีบอ้อยผ่านมากว่าครึ่งทางแล้ว ได้น้ำตาลเกือบ 40 ล้านกระสอบ ปรับเป้าปีนี้ได้น้ำตาลไม่ต่ำกว่า 70 ล้านกระสอบ ชี้เพราะผลผลิตดีทั้งที่ประสบภัยแล้งและน้ำท่วม

โรงงานน้ำตาลเปิดหีบอ้อยผ่านมากว่าครึ่งทางแล้ว ได้น้ำตาลเกือบ 40 ล้านกระสอบ สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ยิลด์ขยับขึ้นมาถึง 97.93% เพิ่มเป้าปริมาณน้ำตาลหลังปิดหีบเป็น 70 ล้านกระสอบ ชี้ปริมาณน้ำตาลในตลาดเพียงพอต่อการบริโภค เผยคุณภาพผลผลิตฤดูการผลิตปี 53/54 ดีกว่าปีก่อน ทั้งๆ ที่เจอปัญหาสภาวะอากาศแปรปรวนทั้งภัยแล้งและภาวะน้ำท่วม เพราะโรงงานร่วมกับชาวไร่อ้อยพัฒนาความรู้และทักษะในการเพาะปลูกตลอดเวลา

นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี ประธานคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ บริษัทไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด หรือ TSMC เปิดเผยว่า การหีบอ้อยประจำฤดูการผลิตปี 2553/2554 ขณะเดินทางมาเกินครึ่งทางแล้ว จากวันที่โรงงานน้ำตาลทรายโรงแรกเปิดหีบอ้อยเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2553 จนถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2554 รวมระยะเวลาหีบอ้อย 70 วัน ส่วนที่เหลือจนถึงวันปิดหีบจะเหลือเวลาอีกไม่ถึง 70 วัน (จะปิดหีบอ้อยประมาณช่วงเทศกาลสงกรานต์) พบว่า

โรงงานรับผลผลิตอ้อยเข้าหีบแล้ว 40.41 ล้านตันอ้อย ผลิตน้ำตาลได้ทั้งสิ้น 39.57 ล้านกระสอบ มีอัตราผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อย (ยิลด์) เฉลี่ย 97.93 กิโลกรัมต่อตันอ้อย ซึ่งถือว่า ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่ผลิตน้ำตาลทรายได้ 34.69 ล้านกระสอบ จากปริมาณอ้อยเข้าหีบ 36.78 ล้านตันอ้อย และมียิลด์อยู่ที่ 94.32 กิโลกรัมต่อตันอ้อย

ทั้งนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ยิลด์สูงสุด เฉลี่ยอยู่ที่ 103.40 กิโลกรัมต่อตันอ้อย จากปริมาณหีบอ้อย 16.62 ล้านตัน ผลิตได้น้ำตาล 17.19 ล้านกระสอบ รองลงมาได้แก่ ภาคตะวันออก มียิลด์เฉลี่ย 96.26 กิโลกรัมต่อตันอ้อย ภาคกลางได้ยิลด์ 94.38 กิโลกรัมต่อตันอ้อย และภาคเหนือได้ยิลด์ 93.27 กิโลกรัมต่อตันอ้อย ขณะที่ค่าความหวานผลผลิตอ้อยโดยเฉลี่ยก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วย มาอยู่ที่ระดับ 11.33 ซี.ซี.เอส. เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ค่าความหวานอยู่ที่ 10.99 ซี.ซี.เอส.

“จากข้อมูลดังกล่าว คาดว่า หลังจากโรงงานน้ำตาลทรายทุกแห่งปิดหีบอ้อยในช่วงกลางเดือนเมษายนนี้ จะมีปริมาณอ้อยเข้าหีบสูงถึงประมาณ 72 ล้านตัน ผลิตน้ำตาลได้ประมาณ 70 ล้านกระสอบ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดว่า จะได้น้ำตาล 68 ล้านกระสอบ” นายสิริวุทธิ์ กล่าว

สำหรับสัดส่วนของอ้อยไฟไหม้นั้น ในช่วงแรกๆ ของการหีบอ้อยจะมีอ้อยไฟไหม้เข้ามามาก เพราะอ้อยที่ถูกไฟไหม้ไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน หากเก็บไว้จะไม่สามารถผลิตน้ำตาลได้ ดังนั้น สัดส่วนอ้อยไฟไหม้ในช่วงแรกๆ จะสูงกว่า 60% ของปริมาณอ้อยที่เข้าหีบทั้งหมด แต่เมื่อหีบผ่านไปครึ่งทาง สัดส่วนอ้อยไฟไหม้ลดลงต่ำกว่า 60% แล้ว มาอยู่ที่ 59.62% ซึ่งต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีสัดส่วน 60.08%

ประธานคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ บริษัทไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด กล่าวอีกว่า ในฤดูการผลิตปี 53/54 นี้ มีน้ำตาลขึ้นกระดานสัปดาห์ละ 480,769 กระสอบ ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคภายในประเทศ และปริมาณน้ำตาลที่ผลิตได้ก็ทำให้คลายความกังวลได้ว่า ในปีนี้ปริมาณน้ำตาลในตลาดไม่ควรจะมีปัญหาการขาดแคลน

ทั้งนี้ ปริมาณผลผลิตอ้อยที่เพิ่มสูงขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทย หลังจากที่ผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลทรายได้ร่วมกันให้องค์ความรู้การเพาะปลูกอ้อยและการเก็บเกี่ยวผลผลิตอ้อยแก่ชาวไร่อ้อย ทำให้คุณภาพและปริมาณผลผลิตอ้อยต่อไร่สูงขึ้น แม้ว่า ช่วงที่ผ่านมา ชาวไร่อ้อยต้องประสบกับปัญหาภาวะอากาศแปรปรวน ทั้งอากาศร้อนจัดและน้ำท่วมที่ส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูกอ้อยก็ตาม

ดังนั้น ผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลจะยังคงส่งเสริมให้ความรู้การเพาะปลูกอ้อยที่ถูกวิธีตั้งแต่การเตรียมดินจนถึงกระบวนการตัดอ้อยให้แก่ชาวไร่อ้อย ซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทยให้มีความเข้มแข็ง และมีผลผลิตที่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคภายในประเทศต่อไป