เนื้อหาวันที่ : 2011-02-07 10:08:39 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 795 views

คต.ชี้ช่องผู้ประกอบการอีสาน ลดต้นทุนด้วย ถิ่นกำเนิดสินค้า

กรมการค้าต่างประเทศเตรียมติดอาวุธให้ผู้ส่งออกอีสานเปิดช่องทางขยายโอกาสทางการค้าและลดต้นทุน ในการค้าชายแดน โดยกำหนดจัดสัมมนา เรื่อง “ถิ่นกำเนิดสินค้า...ผลประโยชน์ที่ต้องปกป้องในการค้าชายแดน”ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2554 ณ โรงแรมรอยัล แม่โขง จังหวัดหนองคาย ฟรี

นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ(คต.) กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ในปัจจุบันการค้าชายแดนเป็นเรื่องที่ความสำคัญและเป็นปัจจัยสนับสนุนภาคการส่งออกของไทย โดยในปีที่ผ่านมา (2553) การค้าชายแดนของไทยมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยมีมูลค่าการค้ารวม 778,069 ล้านบาท

ซึ่งไทยเป็นฝ่ายได้ดุลจากการค้าชายแดนสูงถึง 194,919 ล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการไทยที่จะขยายโอกาสทางการค้าควรให้ความสนใจและจับตามองเป็นพิเศษ สำหรับเครื่องมือที่ผู้ประกอบการควรนำมาใช้ในการขยายโอกาสทางการค้าในการค้าชายแดน คือการใช้ประโยชน์จาก “ถิ่นกำเนิดสินค้า”

ดังนั้นเพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของการใช้ประโยชน์จากถิ่นกำเนิดสินค้า ป้องกันการถูกแอบอ้าง ปกป้องผลประโยชน์ต่อภาคการส่งออก และภาคการผลิตของไทยในการค้าชายแดน คต.จึงได้จัดสัมมนาดังกล่าวขึ้นโดยมีหัวข้อสัมมนาที่สำคัญ ดังนี้
          1 .การเพิ่มรายได้จากการส่งออกด้วยการค้าชายแดน
          2.จะค้าจะขายต้องเข้าใจถิ่นกำเนิด
          3. ลดต้นทุนทางการค้าด้วยหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า
          4.การป้องกันการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้า: ผลประโยชน์ที่ต้องปกป้อง นอกจากนี้ยังเปิดคลินิกให้คำปรึกษา วิธีปฏิบัติ ขั้นตอนต่างๆในการขอหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าและการทำการค้าชายแดนอีกด้วย

สำหรับผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ผู้ส่งออก หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่สนใจเข้าร่วมสัมมนาสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักบริหารการนำเข้ากรมการค้าต่างประเทศ โทร 025475084 โทรสาร 02 5474807 www.dft.go.th / สำนักงานการค้าต่างประเทศ เขต 5 (หนองคาย) โทร. 0 42413373 โทรสาร.042413376 www.oftnk@moc.go.th โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ถิ่นกำเนิดสินค้า และการค้าชายแดน เป็นเรื่องที่ผู้เกี่ยวข้อง มิอาจละเลย จะต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจควบคู่กันไปเพื่อจะได้นำไปปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และลดต้นทุนทางการค้าในการค้าชายแดนให้แก่ผู้ประกอบการไทยได้