เนื้อหาวันที่ : 2011-02-07 10:03:32 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 827 views

คต. เตรียมความพร้อมผู้ส่งออกเข้าระบบรับรองสินค้าด้วยตัวเอง

อาเซียนผลักดันให้ประเทศสมาชิกนำระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองมาใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนที่มีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น

นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผลจากการประชุมคณะทำงานระดับสูงว่าด้วยการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียน (High-Level Task Force on ASEAN Economic Integration: HL TF-EI) เมื่อวันที่ 8 – 9 มีนาคม 2552 ณ จังหวัดเชียงใหม่ ที่ประชุมมีมติให้ประเทศสมาชิกอาเซียนจัดทำระบบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง

โดย ผู้ส่งออก (Self-Certification: SC) เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนให้เกิดการเคลื่อนย้ายสินค้าที่มีถิ่นกำเนิดภายในอาเซียนอย่างเสรี (Free Flow of ASEAN Origination Goods) รองรับการขยายตัวทางการค้าระหว่างกัน ทั้งนี้ โดยมีเป้าหมายว่าจะนำระบบดังกล่าวมาใช้ในการปฏิบัติจริงในปี 2555

โดยในระยะแรกจะใช้ควบคู่ไปกับระบบการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form D ให้แก่สินค้าที่มีคุณสมบัติที่จะได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรตามความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ASEAN Trade in Goods Agreement หรือ ATIGA) ซึ่งการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองหรือ Self-Certification

เป็นการอนุญาตให้ผู้ทำการค้าหรือผู้ส่งออกที่มีความน่าเชื่อถือ (Trusted trader/exporter) และมีความรู้ในเรื่องหลักเกณฑ์ถิ่นกำเนิดสินค้าของสินค้าที่จะทำการส่งออกเป็นอย่างดี ซึ่งได้ผ่านการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ส่งออกรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง (Certified Exporter) ไว้กับกรมการค้าต่างประเทศ สามารถรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองในใบกำกับสินค้า (Invoice) หรือในเอกสารทางการค้าอื่นๆ แทนการใช้หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าที่เรียกว่า Form D ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ/ผู้ส่งออก ที่จะเข้าร่วมโครงการการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ส่งออกรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง (Certified Exporter) ซึ่งจะได้รับความสะดวกในการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าส่งออกสินค้าไปยังอาเซียน

กรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะหน่วยงานรับขึ้นทะเบียนเป็น Certified Exporter ได้จัดให้มีโครงการให้ความรู้เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ถิ่นกำเนิดสินค้าและข้อกำหนดในการขอขึ้นทะเบียนเป็น Certified Exporter ซึ่งกำหนดจะเปิดตัวโครงการให้ความรู้ครั้งแรกประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2554 นี้

รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดอาเซียนเป็นตลาดส่งออกที่มีศักยภาพของไทย เห็นได้จากมูลค่าการค้าระหว่างกันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าจากอาเซียน โดยในปี 2553 ที่ผ่านมาการส่งออกของไทยไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนมีมูลค่ารวม 44,333.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีมูลค่า 32,491.10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ร้อยละ 36.45 และในปี 2553 ไทยได้ดุลการค้าจากอาเซียนสูงถึง 14,006.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ/ผู้ส่งออก ที่จะทำการค้ากับอาเซียนและไม่ต้องการพลาดโอกาสดีๆ ที่จะได้เป็น Certified Exporter ต้องติดตามและเข้าร่วมสัมมนาตามโครงการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองกับกรมการค้าต่างประเทศ