เนื้อหาวันที่ : 2011-02-03 09:02:12 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2168 views

ฮอนด้าเผยยอกส่งออกปี 53 พุ่งถึง 37%

ฮอนด้า เผยการส่งออกผลิตภัณฑ์ฮอนด้าจากไทยปี 2553 โตขึ้นถึง 37% มูลค่ากว่า 9.7 หมื่นล้านบาท คาดปี 2554 แตะแสนล้าน

ฮอนด้า เผยการส่งออกผลิตภัณฑ์ฮอนด้าจากไทยปี 2553 โตขึ้นถึง 37% มูลค่ากว่า 9.7 หมื่นล้านบาท คาดปี 2554 แตะแสนล้าน

บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด สำนักงานใหญ่ของฮอนด้าประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย เปิดเผยว่า การส่งออกผลิตภัณฑ์ฮอนด้าจากประเทศไทยในปี 2553 มีอัตราเติบโตขึ้น 37.4% เมื่อเทียบกับปี 2552 คิดเป็นมูลค่า 97,566 ล้านบาท มาจากการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วนเพื่อการประกอบรถยนต์ 60.5% คิดเป็นมูลค่า 59,021 ล้านบาท  ตามด้วยรถจักรยานยนต์ 23.3% คิดเป็นมูลค่า 22,768 ล้านบาท และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ 12.3% คิดเป็นมูลค่า 12,019 ล้านบาท พร้อมด้วยการส่งออกชิ้นส่วนอะไหล่ อุปกรณ์ตกแต่ง และแม่พิมพ์ อีก 3.9% คิดเป็นมูลค่า 3,758 ล้านบาท

นายฟูมิฮิโกะ อิเคะ ประธานกรรมการบริหาร และซีอีโอ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า การส่งออกของฮอนด้ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกๆปี ทั้งในแง่มูลค่าและปริมาณ ถึงแม้ว่าในช่วงปี 2552 เราจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์เศรษฐกิจโลก แต่ในปี 2553 ที่ผ่านมายอดส่งออกโดยรวมของฮอนด้ามีการฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ เป็นผลจากความแข็งแกร่งของฐานการดำเนินธุรกิจฮอนด้าในประเทศไทยและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ฮอนด้าที่ได้รับความเชื่อถือจากนานาประเทศ และมั่นใจว่าจากนี้ไปการส่งออกของฮอนด้าจะมีทิศทางที่ดียิ่งขึ้น โดยในปี 2554 คาดว่าจะมียอดส่งออกรวมทะลุ 100,000 ล้านบาท”

“ฮอนด้าได้เริ่มต้นปี 2554 ด้วยการขยายฐานการผลิตสำหรับรถรุ่นใหม่ๆ โดยทางด้านรถจักรยานยนต์ เราได้เริ่มส่งออกรถจักรยานยนต์สไตล์สปอร์ตระดับพรีเมี่ยมรุ่น CBR250R ในเดือนมกราคม 2554 นี้ และสำหรับรถยนต์ จากกระแสนิยมของผู้บริโภคทั่วโลกที่มีต่อรถยนต์นั่งขนาดเล็ก

อีกทั้งเป็นการตอบสนองต่อนโยบายอีโคคาร์ของรัฐบาลไทย ฮอนด้าวางแผนที่จะผลิตและส่งออกรถยนต์นั่งขนาดเล็กรุ่น BRIO ไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศในเขตอาเซียน และเชื่อมั่นว่าการผลิตและส่งออกรถรุ่นใหม่ๆเหล่านี้จะช่วยผลักดันยอดส่งออกของฮอนด้าในอนาคตอย่างแน่นอน” นายอิเคะกล่าว

รถยนต์
ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วนเพื่อการประกอบรถยนต์ของฮอนด้าเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2553 เติบโตขึ้น 37% หรือมีมูลค่ารวม 59,021 ล้านบาท เป็นผลมาจากการขยายตัวของตลาดในประเทศออสเตรเลียและประเทศต่างๆในทวีปเอเชีย ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปมีจำนวนทั้งสิ้น 57,985 คัน เติบโตขึ้น 52% คิดเป็นมูลค่ารวม 30,591 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 48%

สำหรับยอดส่งออกชิ้นส่วนเพื่อการประกอบรถยนต์มีมูลค่าทั้งสิ้น 28,430 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากปีที่ผ่านมา โดยฮอนด้าแจ๊ซได้รับความนิยมสูงสุดด้วยยอดส่งออก 12,944 คัน ตามด้วยฮอนด้าซิตี้ 12,728 คัน และฮอนด้าซีวิค 12,695 คัน ซึ่งหากรวมทั้ง 3 รุ่นข้างต้น คิดเป็น 66.1% ของยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปทั้งหมด แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มความนิยมในรถยนต์นั่งขนาดเล็ก โดยอนาคตอันใกล้นี้ ฮอนด้ามีแผนจะส่งออกรถยนต์อีโคคาร์ รุ่นบริโอ้ ไปยังหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย

รถจักรยานยนต์
ยอดส่งออกรวมของรถจักรยานยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วนเพื่อการประกอบรถจักรยานยนต์ในปี 2553 เพิ่มขึ้น 40% คิดเป็นมูลค่ารวม 22,768 ล้านบาท โดยยอดส่งออกรถจักรยานยนต์สำเร็จรูปเติบโตขึ้นจากปี 2552 อย่างเห็นได้ชัด ด้วยปริมาณการส่งออกจำนวน 58,904 คัน หรือเพิ่มขึ้น 477% คิดเป็นมูลค่า 3,506 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 541%

ในขณะที่การส่งออกชิ้นส่วนเพื่อการประกอบรถจักรยานยนต์มีมูลค่าทั้งสิ้น 19,261 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22% ซึ่งปัจจัยหลักมาจากการขยายตัวของตลาดในประเทศเวียดนามและอินโดนีเซีย

ปัจจุบันฮอนด้ามีการส่งออกรถจักรยานยนต์สำเร็จรูปหลากหลายรุ่น อาทิ Innova, PCX, CBR125R, CBR150R และล่าสุด CBR250R ไปยังประเทศต่างๆ 40 กว่าประเทศทั่วโลก โดยความสำเร็จในปี 2553 มาจากรถจักรยานยนต์รุ่น PCX ซึ่งประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญและส่งออกรุ่นดังกล่าวไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก อาทิ อาเซียน ยุโรป ญี่ปุ่น รวมไปถึงสหรัฐอเมริกา

นอกจากนั้น ประเทศไทยยังเป็นฐานการผลิตรถจักรยานยนต์รุ่น CBR250R และในเดือนมกราคมปีนี้ ฮอนด้าได้เริ่มทยอยส่งออกรถรุ่นดังกล่าวไปยังประเทศต่างๆในอาเซียน ยุโรป อเมริกาเหนือ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย คาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดส่งออกของฮอนด้าในไตรมาสแรกนี้

เครื่องยนต์อเนกประสงค์
ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเครื่องยนต์อเนกประสงค์เพื่อส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของฮอนด้า โดยปัจจุบันส่งออกเครื่องยนต์อเนกประสงค์ไปจำหน่ายกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ซึ่งมีตลาดหลัก คือ ประเทศในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย สหรัฐอเมริกาและยุโรป

สำหรับปี 2553 ฮอนด้าส่งออกเครื่องยนต์อเนกประสงค์แบบสำเร็จรูปและชิ้นส่วนทั้งหมดจำนวน 2,053,469 เครื่อง หรือเพิ่มขึ้น 55% คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 12,019 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยปัจจัยหลักในการเติบโตมาจากการขยายตัวของตลาดในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียชิ้นส่วนอะไหล่ อุปกรณ์ตกแต่ง และแม่พิมพ์

นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่มหลักดังกล่าวข้างต้น ฮอนด้ายังได้ส่งออกชิ้นส่วนอะไหล่ อุปกรณ์ตกแต่ง และแม่พิมพ์จากประเทศไทยไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก โดยในปี 2553 ฮอนด้าส่งออกชิ้นส่วนอะไหล่ อุปกรณ์ตกแต่ง และแม่พิมพ์ เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3,758 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ฮอนด้านับเป็นผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำรายใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ซึ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย อีกทั้งยังเป็นผู้นำในด้านการผลิตเครื่องยนต์มลพิษต่ำ ประหยัดน้ำมัน และเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก ฮอนด้าเริ่มธุรกิจส่งออกในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2530 และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นปี 2553 ฮอนด้ามียอดส่งออกมูลค่าสะสมสูงถึง 723,402 ล้านบาท