เนื้อหาวันที่ : 2011-01-21 12:55:52 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 668 views

ภาวะเศรษฐกิจประจำวันที่ 21 ม.ค. 2554

1.  ยอดผลิตรถในไทยทุบสถิติ 50 ปี แตะ1.6ล้านคัน
-  สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า ยอดการผลิตยานยนต์ไทยในปี 2553 อยู่ที่ระดับ 1.64 ล้านคัน สูงสุดในประวัติศาสตร์ในรอบ 50 ปี โดยยอดขายในประเทศทั้งปีอยู่ที่ 8 แสนคัน ด้านการผลิตเพื่อส่งออกทั้งปี 53 อยู่ที่ 8.95 แสนคัน เพิ่ม 67.27%  หรือสูงสุดในรอบ 24 ปี หรือตั้งแต่มีการส่งออกรถยต์เมื่อปี 2531 เป็นต้นมา โดยมีคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นในทุกตลาด โดยเฉพาะ ตลาดอาเซียน ออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง
 
-  สศค. วิเคราะห์ว่า การเพิ่มขึ้นของยอดผลิตรถยนต์ในปี 2553 นั้น เป็นผลมาจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศจีนและออสเตรเลีย จากเศรษฐกิจที่เติบโตได้ดีในประเทศดังกล่าว สำหรับยอดขายในประเทศที่เพิ่มขึ้นนั้น เป็นผลจากรายได้เกษตรกรที่เพิ่มขึ้นตามราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้น   อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่อยู่ในระดับต่ำในปีที่ผ่านมา และการที่ผู้ผลิตได้ออกรถยนต์ขนาดเล็ก ประหยัดพลังงาน และมีโปรโมชั่นใหม่ๆ เพื่อจูงใจผู้บริโภค
 
2.   ยอดสร้างบ้านใหม่สหรัฐฯ เดือน ธ.ค. 53 ลดลงต่ำสุดในรอบ 14  เดือน
-  ยอดก่อสร้างบ้านใหม่ (Housing Starts) เดือน ธ.ค. 53 ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 14 เดือนมาอยู่ระดับ 529,000 หลัง (Annualized unit) หรือหดตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 4.3 ในขณะที่ยอดอนุมัติสร้างบ้านใหม่เดือน ธ.ค 53 (Housing Permits) ปรับตัวมาอยู่ที่ระดับ 635,000 หลัง (Annualized unit) หรือขยายตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 16.7 ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 51 สะท้อนถึงแนวโน้มการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นในระยะต่อไป
 
-  สศค.วิเคราะห์ว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในสภาวะซบเซา ถึงแม้ตัวเลขล่าสุดยอดของสร้างบ้านใหม่ ซึ่งเป็นดัชนีบ่งชี้การขยายตัวของการลงทุนในภาคดังกล่าว จะขยายตัวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความต้องการในอนาคตที่มีทิศทางเพิ่มขึ้นก็ตาม ทั้งนี้หากดูจากยอดก่อสร้างบ้านใหม่จะเห็นได้ว่าอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ โดยมีระดับต่ำกว่าช่วงก่อนหน้าวิกฤตถึง 2 เท่า

โดยภาคอสังหาริมทรัพย์น่าที่จะยังมีแนวโน้มซบเซาต่อเนื่องในระยะต่อไป อันเนื่องมาจากอัตราการว่างงานที่ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ระดับร้อยละ 9.4 ของกำลังแรงงานรวม ซึ่งจะเป็นแรงกดดันอำนาจการซื้อของประชาชนสหรัฐฯ ต่อไป 
 
3.   เศรษฐกิจจีนไตรมาสที่ 4 ปี 53 ขยายตัวที่ 9.8 ต่อปีส่งผลทั้งปีขยายตัวที่ 10.3 ต่อปี
-  เศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่ 4 ของปี 53 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ 9.8  ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยกลางที่สำนักข่าว Bloomberg คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 9.4 ส่งผลให้อัตราการขยายตัวทั้งปี 53 อยู่ในระดับที่ร้อยละ 10.3 สอดคล้องกับตัวเลขภาคอุตสาหกรรม (Industry output) และภาคการค้าปลีก (Retail sales) ในเดือน ธ.ค. 53 ที่ยังสามารถขยายตัวได้ในระดับที่สูงที่น้อยละ 13.5 และ 19.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่ามูลค่าการส่งออกในเดือน ธ.ค. 53 จะขยายตัวในอัตราชะลอลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ 17.9  ซึ่งชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวที่ร้อยละ 34.9
 
-  สศค. วิเคราะห์ว่า ความเสี่ยงของเศรษฐกิจจีนในระยะต่อไปอาจมาจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง และอาจส่งผลให้อุปสงค์ภายนอกประเทศของจีนลดลงด้วย ในขณะเดียวกัน ดัชนีราคาผู้บริโภคของจีนยังคงอยู่ในระดับที่สูงอย่างต่อเนื่องโดยในเดือน ธ.ค. 53 อยู่ในระดับที่ 4.6 ต่อปีสะท้อนว่าความเสี่ยงทางด้านเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ ซึ่งรัฐบาลจีนอาจจำเป็นต้องคงมาตรการการเงินเพื่อดูแลในเรื่องดังกล่าวต่อไป

ทั้งนี้ สศค.คาดการณ์ว่าในปี 2554  เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวร้อยละ 9.0 หรือในช่วงคาดการณ์ร้อยละ 8.5 – 9.5 ชะลอลงจากปีก่อนหน้า ส่วนหนึ่งจากปัจจัยฐานสูง และการคาดการณ์ว่ารัฐบาลจีนอาจออกมาตรการเพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อต่อเนื่องจากปี 2553

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง