เนื้อหาวันที่ : 2007-03-08 09:56:42 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1461 views

เน็ตเบย์ มุ่งขยายฐาน อี-โลจิสติกส์ เกตเวย์ เจาะตลาดอาเซียน

บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด เล็งขยายฐานเจาะตลาดอาเซียน นำร่องด้วยโครงการระหว่างฟิลิปปินส์กับไทย พร้อมจับมือและรองรับนโยบายกรมศุลกากร เข้าสู่ระบบ eCustoms-Paperless ครบวงจร

เน็ตเบย์ ผู้นำในการให้บริการด้าน  อี-โลจิสติกส์ เกตเวย์ (e-Logistics Gateway) เตรียมขยายฐาน เจาะตลาดอาเซียน รองรับ eASEAN Single Window 2008 นำร่องด้วยโครงการระหว่างประเทศฟิลิปปินส์กับไทย พร้อมจับมือและรองรับนโยบายกรมศุลกากร เข้าสู่ระบบ eCustoms-Paperless ครบวงจร ตามมาตรฐาน World Class Standard พร้อมแข่งขันกับภูมิภาคอาเซียน เสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทย แข่งขันในตลาดโลก

.

นายพิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด  เปิดเผยว่า ในปี 2008 ภูมิภาคอาเซียน จะเริ่มใช้ระบบ eASEAN Single Window ซึ่งจะทำให้เกิดธุรกรรมทางการค้าเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมหาศาล ระหว่างประเทศสมาชิกในภูมิภาคอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ซึ่งมี 6 ประเทศจะเริ่มก่อนเพื่อเข้าสู่ระบบ eASEAN 2008 ส่วนอีก 4 ประเทศที่ยังไม่พร้อมจะเริ่มในปี ค.ศ. 2012 ผู้ประกอบการที่ต้องการความรวดเร็ว ในการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศ จึงมีความจำเป็นต้องเร่งปรับตัว เพื่อรองรับการแข่งขันตั้งแต่บัดนี้  เน็ตเบย์ หนึ่งในผู้ให้บริการ เกตเวย์ ในการรับ-ส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์ เกี่ยวกับเอกสารทางการค้า Trade Documents หรือเรียกอีกชื่อหนึ่ง Shipping Documents อาทิ ใบขนสินค้าขาเข้า และขาออก ใบอนุญาต Certificate of Origins และเอกสารทางการค้าอื่นๆอีกมาก จึงได้เตรียมขยายการให้บริการด้านธุรกรรรมออนไลน์ของคนไทยเชื่อมโยงเข้าสู่ eASEAN Gateway ทั้งภูมิภาคอาเซียน โดยเริ่มจากประเทศฟิลิปปินส์ก่อน

.

ซึ่งขณะนี้ เน็ตเบย์ ได้ทำการเชื่อมโยงระบบ และทำการทดสอบการส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ว่าด้วยเรื่องเอกสารทางการค้าฟอร์มดี (Form D) ระหว่าง eASEAN Gateway ของกรมศุลกากรประเทศฟิลิปปินส์กับไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหลังจากทยอยทดสอบทุกระบบสมบูรณ์ จะช่วยผู้ประกอบการไทยได้รับประโยชน์ด้านสิทธิทางภาษีของแต่ละประเทศ

.

สำหรับตลาดในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2550 ที่ผ่านมา กรมศุลกากรไทยได้ผลักดัน eCustoms-Paperless ในการผ่านพิธีการนำเข้าและส่งออกทางอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสาร แทนระบบเดิมอีดีไอ (EDI) จากความสำเร็จในการให้บริการของ เน็ตเบย์ ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2550 ในการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบ ไร้เอกสาร ของกลุ่ม คาร์โก้ เทอร์มินัล ของบางกอกแอร์แวย์ (BFS) และการบินไทย ณ.สนามบินสุวรรณภูมิผ่านเกตเวย์ของเน็ตเบย์เข้าสู่ระบบ eCustoms ทำให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวกรวดเร็วเพิ่มขึ้น ลดเวลา, ลดขั้นตอน ระบบดังกล่าวสามารถทำงานและติดตามงานได้ทุกขั้นตอนจากทุกที่ทุกเวลา ที่สำคัญระบบนี้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับ Gateway ของต่างประเทศ ทำให้สามารถเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ทั่วโลก

.

นอกจากนี้ เน็ตเบย์ ยังได้สร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่ของโลก ซึ่งมีสาขาในประเทศไทย โดยเน็ตเบย์ได้เปิดให้บริการธุรกรรมออนไลน์ เพื่อรับส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ไร้เอกสารให้กับกลุ่มยักษ์ใหญ่ Big 4 ของโลกด้านคาร์โก้ เอ็กเพรส เช่น Fedex, TNT Express, UPS, และ DHL ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้มีความต้องการได้รับการบริการอย่างรวดเร็วในเรื่องของเวลา 7 วัน X 24 ชั่วโมง (Non Stop) เพื่อทำการเคลียร์สินค้านำเข้าและส่งออกในแต่ละวันให้รวดเร็วมากกว่าคาร์โก้อื่นทั่วไป

.

เน็ตเบย์ จึงมุ่งมั่นขยายฐานอี-โลจิสติกส์ เกตเวย์ อย่างครบวงจร โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจน เน้นการทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการทำธุรกรรมออนไลน์ในรูปแบบ National Single Window เพื่อเชื่อมโยงและให้บริการแก่หน่วยงานภาครัฐทุกแห่งที่เกี่ยวข้องกับเอกสารทางการค้า, ใบอนุญาตต่างๆ สำหรับผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออก รวมทั้งภาคเอกชน, กลุ่ม Freight Forwarder, กลุ่มชิปปิ้ง และอื่นๆ ตลอดจนการเชื่อมโยงกับ  eASEAN Single Window ในภูมิภาคอาเซียน