เนื้อหาวันที่ : 2010-12-28 11:19:05 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 644 views

ภาวะเศรษฐกิจประจำวันที่ 28 ธ.ค. 2553

 1. พลังงานไฟเขียวลดค่าเอฟที

-  นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติปรับลดค่าเอฟที  5.67 สตางค์ต่อหน่วย หรือจากหน่วยละ 92.55 สตางค์ เหลือหน่วยละ 86.58 สตางค์ ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าลดลงเฉลี่ยหน่วยละ 3.11 บาท โดยจะมีผลตั้งแต่งวดเดือนม.ค.-เดือนเม.ย.2554 ทั้งนี้ การปรับลดค่าเอฟทีเป็นผลจากต้นทุนราคาก๊าซปรับลดลงเหลือ 229.2 บาทต่อล้านบีทียู. จากเดิม 234.58 บาทต่อล้านบีทียู. ประกอบกับเงินบาทแข็งค่าขึ้น

-  สศค. วิเคราะห์ว่า ปัจจุบันดัชนีราคาค่าไฟฟ้า เชื้อเพลิงและแสงสว่าง ในเดือน พ.ย. 53 อยู่ที่ระดับ 84.78 ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 5.1 ของตระกร้าเงินเฟ้อ จากการประกาศลดค่าเอฟทีจะทำให้ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าลดลง และส่งผลให้ค่าไฟฟ้าลดลง ซึ่งอาจจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในหมวดค่าไฟฟ้า เชื้อเพลิงและแสงสว่าง ในปี 54  ปรับตัวลดลง ทั้งนี้ สศค. คาดการณ์ว่า ในปี 54 อัตราเงินเฟ้อ จะขยายตัวที่ร้อยล่ะ 3.5 ต่อปี (โดยมีช่วงคาการณ์ที่ 3.0 – 4.0 ต่อปี)

2. ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร เดือน พ.ย. 53 หดตัวร้อยละ -4.2 ต่อปี

-  สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) รายงานสถานการณ์ด้านการเกษตรในเดือน พ.ย. 53 ว่า ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญ ในเดือน พ.ย. 53 หดตัวร้อยละ -4.2 ต่อปี ตามการลดลงของผลผลิตข้าว และมันสำปะหลัง เป็นสำคัญ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม และโรคระบาด ในขณะที่ดัชนีราคาสินค้าเกษตรที่เกษตรกรขายได้ในเดือน พ.ย. 53 ขยายตัวที่ร้อยละ 27.5 ต่อปี ตามการขยายตัวในระดับสูงของราคายางพารา มันสำปะหลัง  และปาล์มน้ำมัน

-  สศค.วิเคราะห์ว่า แม้ว่าดัชนีผลผลิตในเดือนพ.ย. 53 ผลผลิตหดตัวลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โรคระบาดและศัตรูพืช  แต่จากการที่ราคาสินค้าเกษตรยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามปัจจัยด้านอุปทานที่ปรับตัวลดลงจากภาวะอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก

รวมถึงอุปสงค์ที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งเพื่อการบริโภคจริงและเก็งกำไร ส่งผลให้รายได้เกษตรกรในเดือน พ.ย. 53 ขยายตัวร้อยละ 22.1 ต่อปี โดยเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 ติดต่อกัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกในการสนับสนุนการบริโภคภาคเอกชนในระยะต่อไป

3. ตลาดหุ้นสหรัฐลดลง 16.81 จุด ขณะทีน้ำมันดิบไนเม็กซ์ ลดลง 51 เซนต์

-  สำนักข่าวต่างประเทศราบงานปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ เมื่อ 27 ธ.ค.53 ดัชนีปรับตัวกระจายในกรอบแคบๆ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ ลดดลง 51 เซนค์ ไปปิดที่ 91 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลให้หลังปิดตลาด ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ 11,554.88 จุด ลดลง 16.81 จุด นาสแดค ปิดที่ 2,667.27 จุด เพิ่มขึ้น 1.67 จุด และ เอสแอนด์พี ปิดที่ 1,257.55 จุด เพิ่มขึ้น 0.78 จุด

-  สศค. วิเคราะห์ว่า ปัจจัยสำคัญที่ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวในกรอบแคบๆ และดัชนีลดลง เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนต่อสถานการณ์ที่รัฐบาลจีนอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อเป็นสำคัญ เนื่องจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 28 เดือนที่ระดับ 5.1% ในเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ อาจส่งผลต่อการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศที่จะมาเพื่อแลกเงินหยวน และลงทุนในจีน ซึ่งจะส่งผลให้หยวนแข็งค่าขึ้นและกดดันให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง และอาจก่อปัญหาการขาดดุลของสหรัฐที่มีต่อจีนให้เพิ่มขึ้นไปอีก

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง