1. ก.พาณิชย์ตั้งเป้าส่งออกปีหน้าขยายตัวร้อยละ 10
- นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กำหนดเป้าหมายการส่งออกปี 2554 ให้ขยายตัวร้อยละ 10 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 207,910-209,586 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใต้ค่าเงินบาทอยู่ในระดับ 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และราคาน้ำมันดิบระดับ 76-77 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
โดยมีมีปัจจัยหนุนจากภาวะเศรษฐกิจ การค้าของโลก และตลาดส่งออกสำคัญมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องและสินค้าจากจีนมีปัญหาเรื่อง ของคุณภาพ ทำให้สินค้าไทยมีโอกาสในตลาดโลกมากขึ้น รวมถึงผู้ประกอบการไทยได้รับการยอมรับในด้านมาตรการสินค้า และความได้เปรียบจากการจัดทำสิทธิเสรีการค้า
- สศค. วิเคราะห์ว่า การส่งออกในปี 54 มีแนวโน้มขยายตัวได้ดี แม้ว่าจะชะลอลงจากปี 53 เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจเริ่มกลับสู่ภาวะปกติหลังจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปี 51 อย่างไรก็ตาม การส่งออกในปี 54 มีความเสี่ยงหลายปัจจัย ได้แก่ เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวอย่างเปราะบาง ค่าเงินบาทที่แข็งค่า และการส่งออกทองคำเพื่อเก็งกำไร
ทั้งนี้ จึงควรติดตามอย่างใกล้ชิดไม่ว่าจะเป็นการส่งออกในเชิงปริมาณ รวมถึงราคาสินค้าส่งออก สำหรับการส่งออกของไทยในปี 54 สศค. คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 12.0 ต่อปี โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 11.0 - 13.0 ต่อปี ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับกระทรวงพาณิชย์
2. ราคาบ้านใหม่ปี 54 คาดว่าปรับขึ้นร้อยละ 5 - 10
- กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย เปิดเผยว่าแนวโน้มราคาที่อยู่อาศัยในปี 54 มีโอกาสจะปรับขึ้นร้อยละ 5 - 10 ตามต้นทุนวัสดุราคาก่อสร้างที่เตรียมปรับขึ้นทั้งราคาปูน เหล็ก และราคาน้ำมัน รวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่การปรับขึ้นค่าจ้างงานแรงงาน ไม่ได้มีผลกระทบต่อธุรกิจการก่อสร้าง เนื่องจากที่ผ่านมามีการจ่ายค่าจ้างงานสูงกว่าที่รัฐกำหนดอยู่แล้ว
- สศค. วิเคราะห์ว่า แนวโน้มภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 54 คาดว่าจะขยายตัวชะลอลงจากปี 53 เนื่องจากปัจจัยด้านต้นทุนที่สูงขึ้น ประกอบกับปัจจัยฐานที่สูงในปี 53 ที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวในอัตราเร่ง โดยเฉพาะตลาดอาคารชุด (คอนโด) ที่ในช่วง 9 เดือนแรกปี 53 ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 39.7 ต่อปี
ในขณะที่ราคาอยู่อาศัยในปี 54 คาดว่าจะปรับขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากการปรับขึ้นของราคาที่ดิน ราคาวัสดุก่อสร้าง และราคาน้ำมันเป็นสำคัญ (โดย 11 เดือนแรกปี 53 ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างขยายตัวร้อยละ 2.2 ต่อปี)
3. เกาหลีใต้ประกาศจะจัดเก็บภาษีสำหรับเงินกู้ที่เป็นสกุลเงินตราต่างประเทศของธนาคาร
- กระทรวงการคลังเกาหลีใต้ประกาศมาตรการเก็บภาษีธนาคารพาณิชย์ทั้งธนาคารในประเทศและที่เป็นสาขาของธนาคารต่างประเทศ สำหรับเงินกู้ที่เป็นสกุลเงินตราต่างประเทศที่เกินกว่ามูลค่าเงินฝากของธนาคารนั้นๆ โดยมาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ในปลายปี 54 เพื่อป้องกันการไหลออกอย่างกระทันหันของเงินทุน
ถึงแม้ว่าเงินกู้ที่เป็นสกุลเงินตราต่างประเทศที่เกินกว่ามูลค่าเงินฝากในเดือน ต.ค. 53 อยู่ที่ 2.74 แสนล้านดอลลาร์ สรอ. ขณะที่เงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ 2.90 แสนล้านดอลลาร์ สรอ. เนื่องจากปัญหาเงินทุนไหลเข้าของเกาหลีใต้เกิดจากหนี้ที่เป็นเงินตราสกุลต่างประเทศเพื่อรองรับธุรกรรมเงินตราต่างประเทศของผู้ส่งออก
- สศค. วิเคราะห์ว่า ประเทศในภูมิภาคเอเชียต้องเตรียมการรับมือปัญหาเงินทุนไหลเข้าอย่างรวดเร็วซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตาม การประกาศมาตรการควบคุมเงินทุนเคลื่อนย้ายอาจกระทบต่อนักลงทุนต่างชาติในการตัดสินใจเข้ามาลงทุน ในส่วนของประเทศไทยนั้น เสถียรภาพทางเศรษฐกิจภายนอกประเทศของไทยยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี
เนื่องจากระดับของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศยังคงอยู่ในระดับสูงถึง 1.7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และสัดส่วนเงินทุนระหว่างประเทศต่อหนี้ต่างประเทศระยะสั้นยังสูงถึงเกือบ 4 เท่า อย่างไรก็ตาม หากมีการไหลเข้าออกของเงินทุนเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็ว และส่งผลกระทบในด้านลบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม ก็อาจมีความจำเป็นที่จะต้องพิจารณามาตรการที่จะมาบริหารจัดการเงินทุนดังกล่าวต่อไป
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
Thailandindustrycom_official
