เนื้อหาวันที่ : 2010-12-14 15:19:49 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1219 views

มาร์ค จี้คลังเร่งหามาตรการช่วยน้ำมันแพง

อภิสิทธิ์ เชื่อแนวโน้มราคาน้ำมันจะลดลงในไม่ช้า จี้ก.คลังเร่งหามาตรการช่วยเหลือ หลังก.พลังงานใช้เงินกองทุนน้ำมันจนสุดแล้ว ยันไม่ยอมให้ภาคขนส่งขึ้นราคาในช่วงนี้แน่นอน


อภิสิทธิ์ เชื่อแนวโน้มราคาน้ำมันจะลดลงในไม่ช้า จี้ก.คลังเร่งหามาตรการช่วยเหลือ หลังก.พลังงานใช้เงินกองทุนน้ำมันจนสุดแล้ว ยันไม่ยอมให้ภาคขนส่งขึ้นราคาในช่วงนี้แน่นอน


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี  ให้สัมภาษณ์ถึง  ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ว่า แนวโน้มล่าสุดภาวะน้ำมันในตลาดโลกและตลาดซื้อขายล่วงหน้า น่าจะอยู่ในช่วงทรงตัว อาจจะมีลดลงเล็กน้อย แต่ต้องจับตาดูต่อไป ล่าสุดได้ให้กระทรวงการคลังเร่งหามาตรการช่วยเหลือ ส่วนกระทรวงพลังงานใช้เงินกองทุนน้ำมันไปเกือบจะถึงที่สุดแล้ว ซึ่งสถานะของกองทุนน้ำมันน่าจะติดลบอยู่ประมาณเดือนละ 500 ล้านบาท แต่ยังมีเก็บไว้อยู่มาก


ส่วนกรณีที่ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แสดงความไม่เห็นด้วยที่จะใช้กลไกของภาษีสรรพสามิตเนื่องจากเห็นว่าจะเป็นการฝืนกระแสทำให้ได้ไม่คุ้มเสียนั้น นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า กำลังพูดคุยกันอยู่ ในมุมมองของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมองว่าเราสามารถใช้มาตรการอื่น ๆ  เช่น ช่วยเหลือเฉพาะจงเจาะเป็นกลุ่ม ซึ่งตนก็เข้าใจเหตุผล แต่ได้ให้ข้อคิดไปว่าการไปทำอะไรที่มันซับซ้อน จะมีจุดอ่อนเหมือนกัน เช่น สมมติเราจะไปช่วยเป็นคูปอง ก็จะเกิดปัญหาอีกว่าใครได้คูปอง ปัญหาของปลอม เป็นต้น                


“เราต้องยอมรับว่าภาษีสรรพสามิต รัฐบาลนี้ขึ้นมาในช่วงปีที่เศรษฐกิจมีปัญหา แล้วเราก็ได้พูดชัดว่าเราเห็นว่าขึ้นได้ในช่วงนั้น เพราะราคาน้ำมันค่อนข้างต่ำ เก็บเงินไว้ในวันที่ราคาน้ำมันแพง เราจะได้มีเครื่องมือ เพราะฉะนั้น วันนี้เราต้องมาพิจารณาว่ามันถึงเวลาหรือยัง ตอนนี้ต้องประเมินแนวโน้มราคา เราคงไม่ทำอะไรไปกระทบกระเทือนโครงสร้างระยะยาว เพราะเราไม่ทราบว่าราคาน้ำมันดิบแนวโน้มจะเป็นอย่างไร ก็ต้องมาประเมินกัน” นายกรัฐมนตรีกล่าว


ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถ้าสามารถลดภาระบางส่วน เพื่อไม่ให้ราคาแตะ 30 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำให้ราคาอื่นๆ  มาขอขึ้นตาม มันก็น่าจะคุ้มค่า แต่หากราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นแบบยาวเลย ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง


ขณะที่ภาคขนส่งต่างตั้งท่าจะขึ้นราคา นายกรัฐมนตรียืนยันว่าจะไม่ให้เกิดขึ้น พร้อมแสดงความมั่นใจว่าจะสามารถยันอยู่ได้ เชื่อว่าแนวโน้มราคาจะลดลงในไม่ช้า “เราจะประเมินว่าภาระที่เกิดขึ้นกับกองทุนน้ำมันหรือรัฐบาล มีแค่ไหน แล้วดูความเหมาะสม ซึ่งขณะนี้ยังรับได้อยู่  การที่จะปล่อยให้ราคาขึ้นตามความเป็นจริงหรือไม่นั้น ความเป็นจริงมันตอบยาก เพราะราคาน้ำมันจริงๆ  เป็นการจัดเก็บเงินเข้าสู่ภาครัฐค่อนข้างมาก เราเก็บภาษีเยอะอยู่แล้ว


มันไม่ใช่ราคาที่บอกว่าเป็นไปตามราคาตลาดอย่างเดียว  เพราะฉะนั้น ก็อยู่ที่ความเหมาะสมที่เราจะดูว่าแนวโน้มราคาที่ขึ้นไปชั่วคราวหรือถาวร และสร้างความเดือดร้อนมากแค่ไหน แล้วต้องมาชั่งน้ำหนักเอา ถ้าเราปล่อยให้มันเป็นตามลูกโซ่ ขยายถึงค่าขนส่ง ค่าเดินทาง ย้อนเป็นราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นอีก มันจะเสียหายมากกว่า” นายกรัฐมนตรีกล่าว