ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวลาออก หลังถูกสื่อบางแห่งมีอิทธิพลกดดันอย่างหนัก  ภาครัฐ-เอกชน ชี้กระทบต่อความเชื่อมั่นในรัฐบาลและเศรษฐกิจ ร้องแต่งตั้งบุคคลคุณภาพแทน ตลาดหุ้นไทยดิ่งฮวบทันที              

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะลาออกจากตำแหน่ง ได้เรียกประชุมผู้บริหารกระทรวงการคลังในช่วงเย็นวันนี้(28 ก.พ.50)  เพื่อหารือเศรษฐกิจภาพรวม ซึ่งอาจรวมถึงการสั่งลาข้าราชการเกี่ยวกับการทำงานก่อนที่จะลาออก บรรยากาศกระทรวงการคลัง ข้าราชการกระทรวงการคลังหลายคนตกใจเกี่ยวกับการลาออกดังกล่าว

ขณะที่  พลเอกบุญรอด  สมทัศน์   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  รู้สึกเสียดายที่  หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร  ลาออก เนื่องจากเป็นผู้ที่ทุ่มเทและเสียสละ ทำงานให้รัฐบาลและประเทศชาติ   อย่างไรก็ตาม  เชื่อว่าจะไม่ส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ  เนื่องจากยังมี  นายโฆสิต  ปั้นเปี่ยมรัษฎร์  รองนายกรัฐมนตรี ดูแลงานด้านเศรษฐกิจ และเชื่อว่า นายกรัฐมนตรีคงไม่ยับยั้งการลาออก

พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบกและประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ให้ความเห็นเพียงสั้น ๆ ทันทีที่ หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล  ประกาศลาออกจากตำแหน่ง โดยระบุว่า เป็นเรื่องของรัฐบาล ไม่เกี่ยวกับ คมช.

ส่วนนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมเศรษฐกิจที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชักชวนมาทำงานด้วย กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องมาก่อน และในส่วนตัวจะทำงานต่อไปไม่ลาออก ทั้งนี้ รู้สึกเสียดายมาก เพราะเป็นบุคคลที่ขยัน มีผลงานมาก กล้าตัดสินใจในหลายเรื่อง โดยเฉพาะการแก้ไขกฎหมาย 3 ฉบับ เช่น กฎหมาย ก.ล.ต. กฎหมายธนาคารแห่งประเทศไทย การลาออกครั้งนี้กระทบต่อความเชื่อมั่นเชิงเศรษฐกิจ โดยหวังว่า นายกรัฐมนตรี จะทาบทามบุคลลที่มีความรู้ความสามารถเป็นคนดี มีความเข้าใจด้านเศรษฐกิจและการเงิน เป็นคนกล้าติดสินใจ กล้าผลักดันเรื่องต่าง ๆ เข้ามาทำงาน

ด้านนายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ตกใจและเสียดายที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ลาออก เพราะขณะนี้ความเชื่อมั่นของรัฐบาลกำลังฟื้นตัวดีขึ้น ภาคเอกชนไม่แน่ใจว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นกับรัฐบาล กระทบต่อความมั่นใจของทั้งนักลงทุนไทยและต่างชาติ ว่าทำไมบุคคลระดับรองนายกรัฐมนตรีดูแลเศรษฐกิจต้องลาออก รัฐบาลต้องชี้แจงให้ประชาชน นักลงทุนมีความเข้า และต้องทาบทามบุคคลที่มีความสามารถและสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนมาทำงานแทนเพื่อให้เกิดความสบายใจ และต้องให้หลักประกันต่อบุคคลนั้นด้วยว่า ปลอดการแทรกแซง หรือให้อำนาจในการทำงานมากน้อยแค่ไหน

นายมาริษ ท่าราบ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บลจ.ไอเอ็นจี กล่าวว่า คงต้องดูว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่จะเป็นที่ยอมรับของนักธุรกิจมากน้อยเพียงใด และต้องดูว่า จะมีการสานต่อนโยบายของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ถือเป็นแกนนำทางเศรษฐกิจและดูแลโครงการเมกะโปรเจกต์ นอกจากนี้ยังต้องติดตามว่า รัฐมนตรีคลังคนใหม่จะประสานงานกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มากน้อยเพียงใด เนื่องจากนโยบายการเงินการคลังจะต้องเดินคู่กันไป โดยเฉพาะขณะนี้ภาพเศรษฐกิจภาพรวมยังต้องรอการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2550 มากระตุ้นเพราะภาคอื่น ๆ ชะลอตัวลงหมด

นายปีเตอร์ จอห์น แวน ฮาเรน ประธานหอการค้าต่างประเทศในไทย กล่าวว่า ทุกคนย่อมมีเหตุผลในการตัดสินใจของตัวเอง ซึ่งควรต้องเคารพการตัดสินใจของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร แม้ว่าจะยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นสิ่งเหนือความคาดหมาย และส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อประเทศไทย เนื่องจากยิ่งการเมืองไม่มีเสถียรภาพมากขึ้นเท่าใด ก็จะทำให้เกิดความรู้สึกไม่มั่นใจ ไม่แน่ใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะยาว ที่นักลงทุนต้องการเห็นเสถียรภาพของการเมือง เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการทำธุรกิจ

แม้ว่าการลาออกของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร จะไม่มีผลกระทบกับการแก้ไข พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว หรือกรณีอื่น ๆ เนื่องจากเป็นการทำงานในลักษณะเป็นทีม แต่ต้องยอมรับว่า ภายใต้การทำงานของรัฐมนตรีคลังคนนี้ ทำให้งานต่าง ๆ มีความคืบหน้าอย่างมาก และได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายอย่างมาก ขณะเดียวกันรัฐบาลก็จะต้องหาคนที่มีความรู้ ความสามารถเข้ามาแทนที่ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลจะต้องมีความนิ่ง มีเสถียรภาพ เพื่อทำให้นักธุรกิจ นักลงทุนเดินหน้างานของตัวเองต่อไปได้ นายปีเตอร์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นไทยดิ่งลงทันทีหลัง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ประกาศลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลัง โดยตลาดหุ้นไทย ถูกข่าวร้ายซ้ำเติม 2 เด้ง โดยช่วงเปิดตลาดหุ้นลดลงกว่า16 จุด จากเหตุผลตลาดหุ้นทั่วโลกได้ลดลง ตามตลาดหุ้นจีนและสหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นตลาดหุ้นฟื้นตัวดีขึ้นลดลงเหลือประมาณ 10 จุด แต่หลังจากนั้นเมื่อช่วงเวลา 11.30 น. เริ่มมีการประกาศลาออกของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ทำให้นักลงทุนไทยตื่นตระหนกและเทขายหุ้นอีกครั้ง ทำให้ดัชนีหล่นลงไปถึงจุดต่ำสุดเกือบ 19 จุด.