เนื้อหาวันที่ : 2010-11-18 13:55:24 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 673 views

CIG ตั้งเป้าปีหน้าโตเท่าตัว ลูกค้าส่งออเดอร์เข้าเพียบ

ผู้บริหาร “ซี.ไอ.กรุ๊ป” คาดยอดขายปี’54 เติบโตกว่าเท่าตัวจากปีนี้ที่ตั้งเป้าว่าจะทำได้ 1.5 พันล้านบาท เหตุมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าเข้ามาจำนวนมาก ประกอบกับมีแผนจะสร้างโรงงานแห่งใหม่เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต ส่วนผลประกอบการช่วง 9 เดือนแรก มียอดขายแล้ว 916 ล้านบาท เติบโต 28% มั่นใจปีนี้ตัวเลขเข้าเป้า 1.5 พันล้านบาท

.

นายอารีย์ พุ่มเสนาะ ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.ไอ.กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ CIG ผู้ประกอบธุรกิจผลิตคอยล์ สำหรับเครื่องทำความเย็นและเครื่องถ่ายเทความร้อน เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2554 ตั้งเป้าหมายว่าจะมีรายได้เติบโตมากกว่าปีนี้กว่า 1 เท่าตัว เนื่องจากขณะนี้มีลูกค้าส่งคำสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมาก และคาดว่าจะสามารถส่งสินค้าได้ตามความต้องการของลูกค้าในปี 2554 นี้

.

“จริงแล้วออเดอร์ที่เข้ามานั้น ได้เริ่มเข้ามาตั้งแต่ปีนี้แล้ว แต่เนื่องจากเรามีปัญหาด้านกระบวนการผลิตเล็กน้อย ทำให้ส่งออเดอร์ให้ไม่ทัน แต่ในปีหน้ามั่นใจว่าจะไม่มีปัญหา และเริ่มส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้”

.

นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีแผนการลงทุนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าตอบสนองความต้องการของตลาดให้ทัน โดยกำลังพิจารณาอยู่ว่า จะใช้พื้นที่เช่าหรือสร้างโรงงานแห่งใหม่ขึ้นมา ซึ่งหากแล้วเสร็จจะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น และสามารถส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้ตามออเดอร์

.

สำหรับอุตสาหกรรมคอยล์แอร์ในปี 2554 นั้น นายอารีย์ กล่าวว่าจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยมีสาเหตุมาจากเศรษฐกิจยังฟื้นตัวต่อเนื่องจากปีนี้ ประกอบกับปัจจุบันโลกได้เผชิญกับปัญหาการแปรปรวนของอากาศ อุณหภูมิปรับสูงขึ้น ทำให้ความต้องการใช้คอยล์แอร์มีมากขึ้นในอนาคต

.

นายอารีย์ กล่าวถึงความร่วมมือกับ บริษัท ZHONGSHAN OMS INDUSTRIAL จำกัด หรือ OMS ซึ่งเป็นพันธมิตรจากประเทศจีนว่า ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา อย่างไรก็ดี ยืนยันว่าทาง OMS อยากร่วมงานกับบริษัทมาก เนื่องจากค่าเงินหยวนเริ่มแข็งค่าขึ้น และค่าแรงงานก็ปรับสูงขึ้น

.

ส่วนผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรก(มกราคม-กันยายน 2553) นั้น บริษัท(งบการเงินเฉพาะกิจการ)มีรายได้จำนวน 916 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 718 ล้านบาท เติบโตคิดเป็น 28% และมีผลขาดทุนสุทธิ 11.8 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 11.1 ล้านบาท

.

ทั้งนี้ ช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านั้น จริงแล้วบริษัทมีผลขาดทุนกว่า 50 ล้านบาท แต่ได้มีการบันทึกกำไรพิเศษเข้ามาประมาณ 60 ล้านบาท จากการขายที่ดินออกไปทำให้มีพลิกมีผลกำไรเข้ามา 11.1 ล้านบาท

.

อย่างไรก็ดี การขาดทุนในปีนี้นั้น สาเหตุหลักมาจากการเข้าลงทุนในบริษัทย่อย คือบริษัท เดอ ละไม จำกัด ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ ร้อยละ 99.97 ของทุนจดทะเบียนที่ออกและเรียกชำระแล้ว โดยบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจโรงแรมบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ภายใต้ชื่อ โรงแรมสมญาบุรา (Samaya Bura Hotel) 

.

นายอารีย์ กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการในสิ้นปีนี้นั้น ยังมั่นใจว่า จะมีรายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.5 พันล้านบาท โดยขณะนี้ยังคงมีคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่องทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยที่ผ่านมายอดขายในประเทศคิดเป็น 70% และต่างประเทศอีก 30% แต่หากผลิตสินค้าส่งให้กับผู้ประกอบการที่ประเทศสิงค์โปร์ได้ในช่วงไตรมาส 4 นี้ สัดส่วนรายได้ต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 40%