เนื้อหาวันที่ : 2010-11-08 11:15:15 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 525 views

ภาวะเศรษฐกิจประจำวันที่ 8 พ.ย. 2553

1.  ธุรกิจกระเตื้องยอดตั้งโรงงานเดือนต.ค.พุ่ง 300 ราย

-  แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเผยว่าในเดือน ต.ค. 53 มีโรงงานที่ได้รับใบอนุญาต ประกอบกิจการจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม 326 ราย วงเงินลงทุน 1.28 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเดือนก่อนเล็กน้อย แต่เป็นมูลค่าการลงทุนที่อยู่ในระดับสูง

.

แม้ว่าประเทศไทยจะประสบปัญหาการแข็งของค่าเงินบาท จนส่งผลกระทบต่อรายได้ผู้ส่งออกและปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่เนื่องจากเศรษฐกิจยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ พบว่าผู้ประกอบการเข้าไปลงทุนในจ.ตากมากที่สุด สำหรับการลงทุนในช่วง 10 เดือนของปี 2553 ยอดตั้งโรงงานลดลง 40 ราย แต่มูลค่าเพิ่มขึ้น 2.7 หมื่นล้านบาท

.

-  สศค. วิเคราะห์ว่า สถานการณ์การลงทุนในไทยในไตรมาส 3 ของปี 53 ขยายตัวได้ดี โดยในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร พบว่าปริมาณการนำเข้าสินค้าทุนในไตรมาส 3 ขยายตัวร้อยละ 27.8 ต่อปี สะท้อนถึงการตั้งโรงงานใหม่และการขยายกำลังการผลิต รวมถึงการส่งออกและการบริโภคภายในประเทศที่ขยายตัวได้ดี ทำให้การลงทุนเติบโตอย่างต่อเนื่อง

.

ทั้งนี้ อัตราการว่างงานในเดือนส.ค. 53 ที่อยู่ในระดับต่ำร้อยละ 0.9 ของกำลังแรงงานรวม ทำให้โรงงานมีแนวโน้มย้ายเข้าใกล้แรงงานมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การลงทุนในไตรมาส 4 ยังคงมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน อาจทำให้อุปสงค์ที่มีต่อสินค้าส่งออกไทยชะลอลง และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น อาจทำให้การลงทุนจากต่างประเทศชะลอลง

.

2.  ท่องเที่ยวคาดน้ำท่วม 2 ภาคเสียหายกว่า 9 พันล้านบาท

-  ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า หลังจากปัญหาน้ำท่วมในเขตพื้นที่ในภาคอีสานและภาคใต้ทำให้คาดว่าการสูญเสียจากอุทกภัยทั้ง 2 ภาคนั้นไม่น่าจะต่ำกว่า 9 พันล้านบาท ซึ่งยังไม่ร่วมนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่จะเข้ามาเที่ยวในพื้นที่แล้วมาไม่ได้

.

ซึ่งจากที่ได้ประเมินเบื้ยงต้นที่หาดใหญ่และบริเวณใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบคาดว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศน่าจะหายไปเกินกว่าครึ่งหนึ่ง เพราะฉะนั้นการท่องเที่ยวจากต่างประเทศก็จะสูญเสียรายได้ไปกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งรวมแล้วประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท

.

-  สศค. วิเคราะห์ว่า ปัญหาอุทกภัยได้ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคเกษตรกรรมเป็นหลัก ในขณะที่ภาคบริการและการท่องเที่ยวคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในระดับที่รองลงมา เนื่องจากคาดว่าจะส่งผลให้สถานบริการในพื้นที่ที่ประสบภัย  เช่น โรงแรม โรงพยาบาล ต้องหยุดให้บริการ

.

ทั้งนี้ คาดว่าความเสียหายด้านการท่องเที่ยวไม่มากนัก หากสภาพน้ำท่วมเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ทั้งนี้ ปัญหาน้ำท่วมจะเริ่มส่งผลกระทบต่อ GDP ในไตรมาส 4 โดยสศค.ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในปี 53 จะลดลงร้อยละ -0.13 ถึง -0.29 ต่อปี (การประเมินดังกล่าวได้รวมมาตรการชดเชยของภาครัฐในภาคเหนือ และภาคอีสานไว้แล้ว)

.

3. Goldman Sachs เชื่อว่ามาตรการของ FED จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

-  Goldman Sachs ให้ความเห็นว่าในปี 2554 เศรษฐกิจสหรัฐฯจะฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการใช้มาตรการการเงินแบบผ่อนคลาย (Quantitative Easing) ประกอบกับแนวโน้มการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนกระเตื้องขึ้น นอกจากนี้การตัดสินใจใช้มาตรการในครั้งนี้ของ FED จะช่วยลดความเสี่ยงและความกังวลว่าเศรษฐกิจจะหดตัว

.

ถึงแม้ว่าจะมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการดำเนินมาตรการ QE นี้ จะทำให้ราคาสินค้าและบริการสูงขึ้น ทั้งนี้ ความแตกต่างของอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 10 ปี และ พันธบัตรเพื่อป้องกันเงินเฟ้อ ( Tresury Inflation Protected Securities) เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 2.13 จากเดิมอยู่ที่ 1.47 ในเดือน ส.ค. 53

.

-  สศค. วิเคราะห์ว่า มาตรการ QE ของ FED คาดว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาด้านอัตราเงินเฟ้อมากนัก แต่จะเป็นการลดความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดภาวะเงินฝืด เนื่องจากปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยล่าสุดเดือน ก.ย. 53 อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 1.1

.

นอกจากนี้ มาตรการ QE คาดว่าจะเป็นการเพิ่มสภาพคล่องในระบบ และจะส่งผลให้มีเงินทุนไหลออกนอกประเทศ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากการมีเงินทุนไหลเข้าสู่ประเทศมากขึ้น และจะส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่ามากขึ้น

.
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง