เนื้อหาวันที่ : 2010-10-21 10:21:28 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 8811 views

TPOLY ตั้งกิจการร่วมค้าดัน Backlog ทะลุ 4 พันลบ.

TPOLY เสริมเขี้ยวตั้งสองกิจการร่วมค้ารองรับงานประมูล มั่นใจดันBacklog ทะลุ 4 พันลบ.ได้ตามเป้า ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าคาดขออนุญาตก่อสร้างได้ในสิ้นปี

นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล
อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน)

.

TPOLY ตั้งสองกิจการร่วมค้าเสริมเขี้ยวรับงานประมูลแบบมีคุณสมบัติเฉพาะทั้งภาครัฐและเอกชน เผยพันธมิตรมีความเชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะด้าน ช่วยงานประมูลราบรื่นยิ่งขึ้น เชื่อสิ้นปีดัน Backlog ทะลุ 4 พันลบ.ได้ตามเป้า จากปัจจุบันกอดรอแล้ว 3.9 พันลบ. ทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 2555 ส่วนปีนี้มั่นใจปั๊มรายได้เข้าวินแตะ 2 พันลบ.แบบไร้ปัญหา ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลคาดขออนุญาตก่อสร้างได้ภายในสิ้นปีนี้

.

นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPOLY เปิดถึงการจัดตั้งกิจการร่วมค้า 2 กิจการ ซึ่งประกอบด้วย กิจการร่วมค้า ไทยโพลีคอนส์ เอส แอนด์ วี และกิจการร่วมค้า ทีพีซี-เอสเค ว่า วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกิจการร่วมค้าดังกล่าวเพื่อประมูลงานโครงการต่างๆ จากเจ้าของโครงการ ซึ่งเป็นหน่วยงานของภาครัฐและภาคเอกชน ที่เป็นงานเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารที่มีระบบสารสนเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง

.

และงานก่อสร้างศูนย์กีฬา ที่กำหนดให้ผู้ยื่นประมูลต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการก่อสร้างงานงานดังกล่าวครบถ้วนตามที่ผู้ว่าจ้างกำหนด ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ยังมีคุณสมบัติด้านงานดังกล่าวไม่ครบถ้วน ดังนั้นการจัดตั้งกิจการร่วมค้าจึงเข้ามาช่วยเสริมให้คุณสมบัติของบริษัทฯ ครบถ้วนเพื่อสามารถเข้าประมูลงานก่อสร้างได้ตามที่เจ้าของงานกำหนด

.

“สารสนเทศของภาครัฐ ซึ่งกำหนดให้ผู้ประมูลต้องมีความเชี่ยวชาญในงานด้านนี้ด้วย TPOLY จึงร่วมกับพันธมิตรคือเอส แอนด์ วี คอมมิวนิเคชั่น เซอร์วิส ที่มีความเชี่ยวชาญในงานประเภทดังกล่าวเป็นอย่างดีเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ และจะเป็นส่วนที่เข้ามาช่วยเสริม ในงานที่เตรียมจะเข้าไปประมูลแบบเฉพาะเจาะจงหรืองานที่มีลักษณะพิเศษต่อไป

.

ส่วนกิจการร่วมค้า ทีพีซี-เอสเค จัดตั้งเพื่อรับงานก่อสร้างศูนย์กีฬา ซึ่งต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงเชื่อว่าหลังจากนี้จะทำให้การประมูลงานในลักษณะดังกล่าวมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น”

.

นายเชิดศักดิ์กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) อยู่ที่ 3,900 ล้านบาท แบ่งเป็นงานภาครัฐ 43% และอีก 57% เป็นงานภาคเอกชนโดยจะทยอยรับรู้เป็นรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2555 ส่วนในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ เตรียมจะเข้าร่วมประมูลงานอีกคิดเป็นมูลค่าประมาณ 5,500 ล้านบาท

.

ซึ่งคาดว่าจะได้รับงานดังกล่าวในสัดส่วน 25-30% ซึ่งหากเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้จะช่วยสนับสนุนให้งานในมือในสิ้นปีนี้เพิ่มขึ้นทะลุ 4,000 ล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้ เช่นเดียวกับรายได้ที่คาดว่าจะทำได้ 2,000 ลบ. ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้เช่นเดียวกัน โดยสัดส่วนรายได้หลักยังคงมาจากธุรกิจ

.

รับเหมาก่อสร้าง ที่ปัจจุบันยังคงเน้นรับงาน 6 กลุ่มหลัก ซึ่งประกอบด้วย 1. คอนโดมิเนียมและช้อปปิ้งมอลล์ 2. โรงพยาบาล 3. ปิโตรเคมี 4. โรงไฟฟ้า 5. สถาบันการศึกษา และ 6. งานปรับปรุงอาคารต่างๆ แบ่งเป็นการรับงานในภาครัฐ 43% และ 57 % เป็นงานภาคเอกชน ส่วนในปี 2554 คาดว่าจะผลักดันให้รายได้เติบโตจากในปีนี้ในอัตรา 20% จากการรับรู้รายได้จากงานในมือที่มีอยู่ และการประมูลงานใหม่เข้ามาเพิ่มขึ้น 

.

เขากล่าวต่อถึงความคืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล กำลังการผลิตขนาด 9.5 เมกะวัตต์ มูลค่าเงินลงทุนรวมอยู่ที่ 700 ล้านบาท โดยมีที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คาดว่าจะทำความเข้าใจหรือทำรายงานประชาคมกับชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยและขออนุญาตก่อสร้างได้ภายในสิ้นปีนี้

.

ส่วนการก่อสร้างคาดว่าจะเสร็จเรียบร้อยภายในไตรมาส 3/2555 และทยอยรับรู้รายได้เข้ามาปีละ 100 ล้านบาท จากการขายไฟฟ้าคืนให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)