เนื้อหาวันที่ : 2010-10-04 14:56:22 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 583 views

ก.อุตฯ เดินหน้าหนุนแท็กซี่เปลี่ยน LPG เป็น NGV

กระทรวงพลังงานย้ำเดินหน้าโครงการสนับสนุนรถแท็กซี่ LPG เปลี่ยนเป็น NGV เชื่อมั่นจะติดตั้งล็อตแรกจำนวน 15,000 คัน ได้ภายใน 3 เดือน พร้อมยืนยันเป็นนโยบายอันดับต้นของกระทรวงฯ เพื่อช่วยเหลือกลุ่มแท็กซี่และลดการนำเข้า LPG ของประเทศ

.

นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีที่มีกลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่เดินทางเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเพื่อสอบถามความคืบหน้าถึงการติดตั้งอุปกรณ์ NGV ให้กับรถแท็กซี่นั้น ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล) ได้สั่งการให้ตนเร่งดำเนินเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน               

.

จากที่กระทรวงพลังงานได้ส่งเรื่องให้กรมบัญชีกลางตีความเรื่องการประมูลในโครงการเปลี่ยนเชื้อเพลิงให้แท็กซี่ฟรีจาก LPG เป็น NGV จำนวน 30,000 คัน เกี่ยวกับระบบการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออคชั่น) ในการประมูลล็อตแรกจำนวน 15,000 ชุดนั้น 

.

ในการนี้ ทางกรมบัญชีกลางได้แจ้งให้ทางกระทรวงพลังงานดำเนินการประมูลใหม่ ตนจึงได้เร่งนัดประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง และได้ความคืบหน้าโครงการติดตั้งเอ็นจีวีในรถแท็กซี่ จำนวน 30,000 คัน ว่า ขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการประกวดราคาจัดซื้อถัง NGV และอุปกรณ์ส่วนควบชุดใหม่แล้ว                

.

โดยมีนายชุมพล ฐิตยารักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรงพลังงานเป็นประธาน ซึ่งกำหนดให้วันที่ 8 ตุลาคม 2553 ดำเนินการเปิดเสนอราคาครั้งใหม่ คาดว่าประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน 2553 จะได้ผู้ดำเนินการ และสามารถเริ่มดำเนินการติดตั้ง NGV ล็อตแรกให้กับรถแท็กซี่ จำนวน 15,000 คัน คาดว่าไม่เกิน 3 เดือนนับจากนี้ 

.

“ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงาน ได้เร่งรัดและติดตามการดำเนินงานโครงการฯ นี้อย่างจริงจัง เมื่อมีข้อเรียกร้องมาถึงหน่วยงาน ตามระเบียบก็จำเป็นต้องมีการชี้แจง เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจกับทุกฝ่าย รวมถึงผู้เกี่ยวข้อง จึงส่งผลให้เกิดความล่าช้าบ้าง ดังนั้นอยากขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจการดำเนินงานตามระเบียบราชการจำเป็นต้องยึดถือด้านความโปร่งใส เป็นธรรม และถูกต้องที่สุด” นายณอคุณกล่าว 

.

ทั้งนี้ การเปิดประมูลประกวดราคาอุปกรณ์ติดตั้งเอ็นจีวีจะเริ่มล็อตแรก 15,000 คัน หลังจากนั้นจะทยอยในส่วนที่เหลืออีก อีก 10,000 คัน และ 5,000 คัน ตามลำดับ ซึ่งประโยชน์จากการเปลี่ยนแท็กซี่ให้มาใช้ NGV จำนวน 30,000 คัน จะสามารถช่วยลดการนำเข้าก๊าซหุงต้มได้ถึง 30,000 ตันต่อเดือน คิดเป็นเงินที่สามารถช่วยลดภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากการชดเชยการนำเข้าก๊าซ LPG ได้ประมาณ 300 ล้านบาทต่อเดือน