เนื้อหาวันที่ : 2010-09-30 11:12:25 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 485 views

บีโอไอตั้งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุนคนที่ 11

บีโอไอตั้งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุนคนที่ 11 ดึงผู้บริหารซีเกทย้ำภาพลักษณ์ส่งเสริมการลงทุนในไทย

.

นายกฯ อภิสิทธิ์ ตั้งผู้บริหาร ซีเกท เทคโนโลยี เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุน คนที่ 11 หวังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศในฐานะแหล่งรองรับการลงทุนที่มีศักยภาพ และสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติต่อภาพรวมลงทุนในประเทศไทย 

.

นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลัง นำนายดักลาส เจ ดีฮาน (Douglas J. DeHaan) รองประธานอาวุโส ดูแลฐานการผลิตและการจัดการวัตถุดิบทั่วโลก (Senior Vice President, Worldwide Operations & Materials) บริษัทซีเกท เทคโนโลยี จากสหรัฐอเมริกา เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่า                     

.

รัฐบาลได้แต่งตั้งให้นายดักลาส เจ ดีฮาน รองประธานอาวุโส บริษัทซีเกท เทคโนโลยี เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุน (Honorary Investment Advisor - HIA) ของบีโอไอ เพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะแหล่งรองรับการลงทุน รวมทั้งให้ความเห็นและคำแนะนำเรื่องยุทธศาสตร์การชักจูงการลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจระหว่างประเทศและการลงทุนในประเทศไทยเป็นอย่างดี 

.

โดยนายดักลาส เจ ดีฮาน จะเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุนของบีโอไอ คนที่ 11 ต่อจาก นายโรเจอร์ คูเปอร์ รองประธานอาวุโสของบริษัท ฟิชเชอร์ แอนด์ พายเคิล แอพพลายแอนเซส จำกัด (Fisher & Paykel Appliances Ltd.) นายโจเซฟ อาร์ ไฮนริกส์ รองประธานบริหารของฟอร์ด และนายชิเกโน นางาโมริ ประธานบริษัทนิเด็ค ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุนมาแล้วในช่วงต้นปี 2553 ที่ผ่านมา 

.

สำหรับ บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี จำกัด เป็นบริษัทผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (Hard Disk Drive) และชิ้นส่วน รายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลที่มีความหลากหลายที่สุดในตลาด ปัจจุบัน มีฐานการผลิตใน 6 ประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา ไอร์แลนด์ จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย โดยมีการจ้างงานทั่วโลกประมาณ 53,000 คน 

.

ทั้งนี้ บริษัทได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปี พศ. 2526 จนถึงปัจจุบันได้รับการส่งเสริมผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ และชิ้นส่วนประกอบ รวมทั้งสิ้น 17 โครงการ สำหรับการผลิตของสองโรงงาน ในจังหวัดสมุทรปราการ และ จังหวัดนครราชสีมา รวมจ้างแรงงานไทย 13,000 คน