เนื้อหาวันที่ : 2010-08-11 15:27:38 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2424 views

อยู่อย่างไร ใจเป็นสุข

คุณเคยรู้สึกไหมว่าทุกวันนี้ชีวิตของเราช่างสับสน วุ่นวาย และซับซ้อน ลองกลับมาดูซิว่าเราจะอยู่อย่างไรให้ใจเป็นสุข

ประพาฬรัตน์  ยงมานิตชัย (prapanrat@live.com)

.

.

ทุกวันนี้ชีวิตของเราสับสน วุ่นวาย และซับซ้อนยิ่งกว่าในอดีตมาก ดูได้จากขั้นตอนการดำเนินชีวิต และวิธีแสวงหาความสุขของเราที่มักจะต้องอิงอาศัยผู้อื่นและสิ่งอื่นแทนที่เป็นจะตัวเอง ในอดีตบรรพบุรุษของเราสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการแลกเปลี่ยนข้าวปลาอาหารและสิ่งของที่จำเป็นต่อกัน โดยไม่ต้องใช้เงินเป็นสื่อกลางแลกซื้อ

.

ปู่ย่าของเราดื่มน้ำฝนสะอาด ๆ เย็นชื่นใจ โดยไม่ต้องใช้ตู้เย็นหรือใส่น้ำแข็ง ส่วนคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ก็นอนหลับอย่างเป็นสุข โดยไม่ต้องอาศัยการทำงานของเครื่องปรับอากาศ หรือแม้แต่ตัวเราเองที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่ปี ก็สามารถติดต่อสื่อสารหรือติดตามข้อมูลข่าวสารได้ โดยไม่ต้องใช้โทรศัพท์มือถือหรืออินเทอร์เน็ต

.

แต่เรากลับเพิ่มขั้นตอนการดำเนินชีวิตของทั้งตัวเองและคนรอบข้างให้ซับซ้อนขึ้นโดยไม่จำเป็น โดยคิดไปเองว่าสิ่งต่าง ๆ ที่เพิ่มเข้ามาเหล่านี้จะทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น สะดวกสบายขึ้น แต่หากพิจารณาให้ดีจะพบว่า สิ่งที่ดูเหมือนจะเพิ่มความสะดวกสบายให้ชีวิตนั้นก็มาพร้อมกับความยุ่งยาก เพราะกลายเป็นว่าเราต้องอาศัยปัจจัยภายนอกเกือบทุกอย่างแทนที่จะพึ่งพาตัวเราเองได้

.

การหาความสุขทางใจก็เช่นเดียวกัน หลายคนปล่อยให้ความสุขทางใจของตนเองขึ้นอยู่กับสิ่งภายนอก ไม่ว่าจะเป็นความสุขที่ได้จากการได้ชอปปิง การได้กินอาหารนอกบ้านดี ๆ ราคาแพง ๆ การได้ไปเที่ยวตามสถานบันเทิงต่าง ๆ หรือแม้แต่การได้รับความรัก ความสนใจจากผู้อื่น โดยที่ไม่เคยตระหนักเลยว่า ความสุขที่เกิดจากการอิงอาศัยนั้นไม่ยั่งยืนและจะหมดไปได้อย่างรวดเร็ว

.

เพราะถ้าวันใดเราไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ หรือหมดความพึงพอใจในสิ่งที่ได้มา ความสุขก็จะกลับกลายเป็นความทุกข์ ที่หมุนเวียนตามกัดกินหัวใจเราไม่สิ้นสุด ด้วยเหตุนี้จะดีกว่าหรือไม่ หากเราจะหันมาสร้างความสุขให้ตนเอง ด้วยการลดขั้นตอนและความยุ่งยากในชีวิตลง และหันมาทำสิ่งที่เรียบง่าย ทว่ามีความหมายต่อเราอย่างแท้จริง

.

โดยอาจเริ่มอย่างง่าย ๆ จากการปรับกิจวัตรประจำวันเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น กินอาหารแบบง่ายๆ ไม่ต้องเสาะแสวงหาตามกระแส โดยเน้นที่ความสะอาดและถูกหลักโภชนาการ แทนหน้าตาและราคาของอาหาร  ลดการใช้จ่ายเกินกำลังและเกินความจำเป็นเพียงเพราะความพึงพอใจชั่วครู่  ทำชีวิตในช้าลงด้วยการสื่อสารกับตนเองมากขึ้น เพราะการหยุดฟังเสียงเล็ก ๆ ภายในใจของตัวเอง จะทำให้เรามีเวลาคิดใคร่ครวญ และรู้ว่าความต้องการที่แท้จริงของเราคืออะไร

.

ที่สำคัญลองหันมามองความสุขที่มีอยู่แล้วรอบตัว แต่เราอาจไม่เคยเหลียวมอง ไม่ว่าจะเป็นความรักและความปราถนาดีจากคนในครอบครัว รอยยิ้มของเพื่อนบ้านและเพื่อนร่วมงาน ความมีน้ำใจบนท้องถนน การได้สัมผัสอากาศสดชื่นในยามเช้า การพักจิบชากาแฟหอมกรุ่นในตอนบ่าย และการเห็นว่าตัวเองมีคุณค่าและทำประโยชน์ให้ผู้อื่นได้ เพียงเท่านี้เราก็จะรู้จักความสุขบนความเรียบง่าย ซึ่งเป็นความสุขแท้ที่สร้างได้จากตัวเราเอง

.

“Nothing can bring you happiness, but yourself”
ไม่มีสิ่งใดทำให้เรามีความสุขได้ นอกจากตัวเราเอง