เนื้อหาวันที่ : 2010-08-03 10:01:02 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 500 views

ภาวะเศรษฐกิจประจำวันที่ 3 ส.ค. 2553

1. ก.พาณิชย์ เผยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) เดือนก.ค.53 ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 3.4 ต่อปี

-  กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือน ก.ค.53 อยู่ที่ระดับ 108.32 หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.4  จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.16 (%mom)  ส่งผลให้ CPI ช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ค.) ขยายตัวร้อยละ 3.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน  โดยดัชนีราคาผู้บริโภคเป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10

.

ทั้งนี้ ก.พาณิชย์คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั้งปีไว้ตามเดิมที่ร้อยละ  3.0-3.5 และคาดว่า แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อจะเริ่มปรับตัวลดลงตั้งแต่ช่วงต้นไตรมาส 3/53 เป็นต้นไป ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ไม่รวมหมวดสินค้าอาหารสดและพลังงานเดือน ก.ค.53 อยู่ที่ระดับ 103.67 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.04 (%mom) ขณะที่ Core CPI  ช่วง 7 เดือนแรก ขยายตัวที่ร้อยละ  0.8

.

-  สศค. วิเคราะห์ว่า การที่อัตราเงินเฟ้อในเดือนมิ.ย. 53 ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 สาเหตุสำคัญจากฐานคำนวณที่ต่ำในปีก่อนหน้า ประกอบกับราคาน้ำมันดิบโลกและราคาสินค้าในหมวดผัก-ผลไม้ปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนีราคาในหมวดที่สำคัญมีการเปลี่ยนแปลง คือ 1) ดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มขยายตัวร้อยละ 6.9 เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้ผลผลิตได้รับผลกระทบ และ

.

2) ดัชนีหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มขยายตัวร้อยละ 1.4 ทั้งนี้ สศค. คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 53 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 3.5 ต่อปี (คาดการณ์ ณ เดือนมิ.ย. 53) ปรับตัวลดลงจากเดิมที่ได้คาดการณ์ไว้ ณ เดือน มี.ค. 53 ที่ร้อยละ 4.0 ต่อปี

.

2. โตโยต้า ชัวร์ เชื่อยอดขายโต 100% เดินหน้าเปิดโชว์รูมเพิ่ม 20 แห่ง

-  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่าตลาดรถยนต์มือสองในปีนี้มีทิศทางการเติบโตที่ดี ซึ่งเป็นไปตามตลาดรถใหม่ที่เติบโตขึ้นอย่างชัดเจน  ในส่วนของธุรกิจ        โตโยต้า ชัวร์ นั้นในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา สามารถสร้างยอดจำหน่ายได้รวมทั้งสิ้น 8,000 คัน และเชื่อว่าปีนี้ บริษัทจะสามารถสร้างยอดขายได้รวม 2 หมื่นคัน เติบโต 100% จากปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 1 หมื่นคัน

.

โดยตั้งเป้าเติบโต 100% ในปีนี้ เนื่องจากเห็นว่าตลาดรถมือสองขยายตัวอย่างชัดเจน บวกกับการที่บริษัทเดินหน้าขยายโชว์รูมอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันสามารถเพิ่มขึ้นมาเป็น 50 แห่ง และมีแผนการเพิ่มให้ครบ 70 แห่งภายในปีนี้

.

-  สศค. วิเคราะห์ว่า ยอดขายธุรกิจรถมือสองของโตโยต้าที่มีแนวโน้มว่าจะขยายตัวสูงขึ้นถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ สะท้อนถึงแนวโน้มการบริโภคภาคเอกชนที่คาดว่าจะดีขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคล่าสุดในเดือนมิ.ย. 53 ที่ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 69.1 จากเดือนก่อนที่อยู่ที่ระดับ 67.6 โดยปัจจัยสนับสนุนสำคัญที่ช่วยการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชนคือกับรายได้เกษตรกรที่แท้จริงที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

.

โดยในเดือน มิ.ย. 53 ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 22.6 ต่อปี ต่อเนื่องจากเดือนก่อนที่ขยายตัวที่ร้อยละ 14.6 ต่อปี ซึ่งเป็นไปตามราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก ทั้งนี้ สศค. คาดว่า การบริโภคภาคเอกชนที่แท้จริงปี 53 จะขยายตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 3.6 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ ที่ร้อยละ 3.0 - 4.3 ต่อปี ประมาณการ ณ มิ.ย. 53)

.

3. ภาคอุตสาหกรรมจีนส่งสัญญาณเตือน หดตัวครั้งแรกในรอบกว่าปี

-  บริษัท HSBC และ Markit เปิดเผยตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคอุตสาหกรรมจีน เดือน ก.ค. 53 พบว่าลดลงมาอยู่ที่ระดับ 49.4 จากระดับ 50.4 ในเดือน มิ.ย. 53 และเป็นครั้งแรกในรอบ 15 เดือนที่ดัชนีนี้อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งเป็นเส้นชี้การหดตัวของภาคอุตสาหกรรม ขณะที่ดัชนีเดียวกันที่จัดทำโดยทางการจีนปรับตัวลดลงเช่นกันจากระดับ 52.1 ในเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 51.2 ในเดือน ก.ค. 53

.

-  สศค. วิเคราะห์ว่า สาเหตุที่ภาคอุตสาหกรรมจีนมีการชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด เกิดจาก 1) ผลจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มอ่อนกำลังลง โดยรัฐบาลจีนเริ่มใช้นโยบายการเงินและการคลังที่รัดกุมมากขึ้นเพื่อป้องกันภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ และ 2) อุปสงค์จากภายนอกยังคงฟื้นตัวไม่เต็มที่ โดยจะเห็นได้จากตัวเลขเบื้องต้นของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้

.

ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจจีนในช่วงครึ่งหลังของปี 53 จะชะลอตัวลงจากช่วงครึ่งปีแรกที่ขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ 11.1 ต่อปี โดยเศรษฐกิจจีนทั้งปี 53 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 10.4 ต่อปี (ประมาณการ ณ เดือนมิ.ย. 53)  ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมจีนที่ชะลอตัว ย่อมส่งผลถึงการส่งออกไทย ซึ่งมีจีนเป็นคู่ค้าใหญ่อันดับ 2 ด้วยสัดส่วนการส่งออกถึงร้อยละ 10.6 ของมูลค่าส่งออกรวมในปี 52

.
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง