ไทยจับมือโอมานเตรียมสำรวจพื้นที่ก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบในประเทศที่ 3  นำร่องประเทศพม่า ประเดิม ปตท.สผ. เริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติครั้งแรกจากแหล่งชามส์ ในโอมานอย่างเป็นทางการแล้ว มั่นใจอนาคตคนไทยน่าจะใช้น้ำมันถูกลง ระบุสาเหตุร่วมมือกับโอมานเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันทั้งการค้าและการลงทุน

นายปิยสวัสดิ์  อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน  กล่าวว่า  หลังจากบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ.เริ่มการผลิตก๊าซธรรมชาติและคอนเดนเสทจากแหล่งชามส์ (Shams) ในรัฐสุลต่านโอมาน ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป ประเทศไทยได้มีการหารือร่วมกับ นายโมฮัมมัด ฮาเมด ซาอิฟ อัล รัมมี (Dr.Mohammed Hamed Saif Al-Rumhy) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันและก๊าซแห่งโอมาน

ซึ่งเห็นตรงกันว่าจะร่วมทำธุรกิจด้านสำรวจก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบร่วมกัน โดยมีเป้าหมายที่จะทำการสำรวจแหล่งก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบในกลุ่มประเทศที่ 3 ให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มตะวันออกกลางหรือประเทศอื่น ๆ โดยในเร็ว  ๆ  นี้มีแผนที่จะเข้าไปสำรวจแหล่งก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบที่ประเทศพม่าก่อน หลังจากนั้นจะเริ่มทำการสำรวจในกลุ่มประเทศต่าง ๆ ต่อไป

ถือเป็นก้าวสำคัญทั้งของประเทศไทยและโอมาน ซึ่งประเทศโอมานถือเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย และมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยปัจจุบันไทยนำเข้าน้ำมันจากประเทศตะวันออกกลางมากสุด ได้แก่  สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นำเข้าน้ำมันต่อวันสูงถึง 280,000 บาร์เรล โอมาน 120,000  บาร์เรลต่อวันและในจำนวนนี้เป็นการนำเข้าโดย ปตท.สูงถึงกว่า 80,000 บาร์เรลต่อวัน

ประกอบกับประเทศโอมาน ไม่มีปัญหาทางการเมืองแม้จะเกิดความวุ่นวายสงครามกลางเมืองในตะวันออกกลางถึงขั้นปิดอ่าวก็ตาม ทำให้โอมานเหมาะสมที่จะเป็นประเทศที่ไทยน่าจะขยายความสัมพันธ์ทั้งการค้าและการลงทุน โดยเฉพาะการเป็นพันธมิตรที่จะร่วมกันออกไปสำรวจแหล่งก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบในกลุ่มประเทศที่  3 ได้อีกมาก นายปิยสวัสดิ์ กล่าว

นายปิยสวัสดิ์  กล่าวอีกว่า ความร่วมมือที่ทาง ปตท.สผ.เริ่มการผลิตก๊าซธรรมชาติและคอนเดนเสทจากแหล่งชามส์ ถือเป็นส่วนหนึ่งของแปลงโอมาน 44 ตั้งอยู่ในทะเลทรายในเขตชูไนน่า (Suneinah) ห่างจากกรุงมัสกัต นครหลวงของโอมาน ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 300 กิโลเมตร ปตท.สผ. เป็นผู้ดำเนินการและถือสัดส่วน 100%  โดยในระยะแรกแหล่งชามส์จะผลิตก๊าซธรรมชาติในอัตรา 50 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และคาดว่าภายใน 1-2  เดือนน่าจะผลิตก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นได้เป็น 100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

.

ส่วนคอนเดนเสทหรือน้ำมันดิบที่มีคุณภาพสูงเริ่มแรกจะผลิตได้ในอัตรา 4,000 บาร์เรลต่อวัน และคาดว่าภายใน 1-2  ปี น่าจะเพิ่มกำลังการผลิตได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 บาร์เรลต่อวัน และภายในช่วง 2  เดือนนี้ ปตท.สผ.จะสามารถส่งน้ำมันดิบกลับมาประเทศไทยได้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายังเป็นปริมาณสัดส่วนที่น้อยอยู่  แต่จากความร่วมมือกับโอมานน่าจะทำให้อนาคตการส่งน้ำมันดิบที่ ปตท.สผ.เป็นผู้ผลิตเองกลับมาประเทศไทยได้เพิ่มมากขึ้น  ซึ่งคนไทยน่าจะใช้น้ำมันได้ถูกลงบ้าง ส่วนก๊าซฯ ที่ผลิตได้ทั้งหมดขายให้กับกระทรวงน้ำมันและก๊าซแห่งโอมานตามสัญญาซื้อขายก๊าซฯ โดยเป็นการขายก๊าซฯ จากแหล่งที่คนไทยเป็นผู้ดำเนินการเองให้กับประเทศในตะวันออกกลางเป็นครั้งแรก

นายปิยสวัสดิ์  กล่าวว่า ปัจจุบัน ปตท.สผ. ได้รับสัมปทานเป็นผู้สำรวจและผลิตก๊าซธรรมชาติและคอนเดนเสทจากแหล่งชามส์ ในรัฐสุลต่านโอมานจำนวน 10 หลุม ซึ่งแต่ละหลุมใช้เงินลงทุนขุดเจาะสำรวจหลุมละ 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นเงินกว่า  60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  โดยใช้เงินลงทุนทั้งขุดเจาะสำรวจและผลิตแล้วในขณะนี้ไม่ต่ำกว่า 145  ล้านดอลลาร์สหรัฐ  และคาดว่าน่าจะได้ผลตอบแทนกลับมาในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน และแม้ว่าโอมานยังไม่มีนโยบายที่จะขยายพื้นที่สำรวจและขุดเจาะเพิ่มเติม 

โดยไม่เปิดสัมปทานใหม่ ๆ ให้กับรายใดเพิ่มเติมนั้น ในส่วนนี้ประเทศไทยจะรอดูแหล่งอื่น ๆ ในพื้นที่โอมาน ซึ่งบริษัทอื่น ๆ มีการสำรวจอยู่แล้วหากบริษัทนั้น ๆ เห็นว่าไม่คุ้มทุนหรือไม่ได้การดำเนินการต่อ ทางไทยจะขอโอมานเพื่อเป็นผู้สำรวจอีกครั้ง หากเห็นว่ายังสามารถดำเนินการได้ก็จะดำเนินการต่อรองกับทางโอมานเพื่อขอสัมปทานดำเนินการต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างวันที่ 8-12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตนได้นำผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพลังงาน เพื่อเยือนกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง ได้แก่ ประเทศรัฐสุลต่านโอมาน ประเทศกาตาร์ และประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยกระทรวงพลังงานจะกระชับความสัมพันธ์และติดตามความก้าวหน้าของโครงการความร่วมมือด้านพลังงานต่าง  ๆ เพื่อแสวงหาลู่ทางในการพัฒนาแหล่งน้ำมันและแหล่งก๊าซธรรมชาติในต่างประเทศ รวมทั้งการผลิตน้ำมันดิบที่ประเทศไทยสามารถผลิตได้และจะนำกลับมาใช้ในประเทศเพื่อบรรเทาสถานการณ์ราคาน้ำมันแพง.