เนื้อหาวันที่ : 2010-07-20 10:11:39 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1302 views

พาณิชย์เดินหน้ายกระดับโลจิสติกส์ไทย เตรียมรับการแข่งขันรุนแรง

พาณิชย์เตรียมจัดแสดงสินค้าโลจิสติกส์ 2553 พร้อมยกระดับโลจีสติกส์ไทยสู่อาเซียน สานความร่วมมือเครือข่ายโลจีสติกส์อาเซียน เตรียมรับเปิดเสรีทางการค้า

พาณิชย์เตรียมจัดแสดงสินค้าโลจิสติกส์ 2553 พร้อมยกระดับโลจีสติกส์ไทยสู่อาเซียน สานความร่วมมือเครือข่ายโลจีสติกส์อาเซียน เตรียมรับเปิดเสรีทางการค้า

.

.

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2553 ณ ห้องประชุม 30410 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (TNSC) และสมาคมผู้ประกอบธุรกิจวัตถุอันตราย (HASLA) ร่วมจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวงานแสดงสินค้าโลจิสติกส์ 2553 หรือ The 7th Thailand International Logistic Fair 2010 (TILOG 2010) โดยได้รับเกียรติจาก นายอลงกรร์  พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในการแถลงข่าว

.

นายอลงกรณ์  พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า งานแสดงสินค้าโลจิสติกส์ 2553 (The 7th Thailand International Logistic Fair 2010 : TILOG 2010) จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ASEAN LOGISTICS NETWORK >>> Gateway to the World โดยการจัดงานในครั้งนี้ถือว่าเป็นอีกเวทีหนึ่งที่มีความสำคัญในการยกระดับไปสู่การเป็ฯศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับการเปิดเสรีทางการค้าของ AEC (ASEAN Economic Community) ซึ่งจะเกิดขึ้นในปี 2558

.

รวมถึงการสร้างพันธมิตรทางการค้าต่างประเทศโดยใช้เครือข่ายโลจิสติกส์ ระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียน และกลุ่ม ASEAN+3 (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้) และ ASEAN+6 (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์) อีกทั้งยังเป็นการใช้เวทีดังกล่าวเป็นโอกาสในการเผยแพร่ และแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์การพัฒนาการเชื่อมโยงของ LSPs ในภูมิภาคอาเซียน

.

“เป็นที่ทราบกันดีว่ารายได้ของประเทศไทยมาจากการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะจากการส่งออกสินค้าและบริการที่มีสัดส่วนสูงถึง 70% ของจีดีพีเป็นตัวบ่งชี้ว่าไทยเป็น “Trading Nation” หรือชาติแห่งการค้า ไม่ใช่ประเทศเกษตรกรรมพื้นฐานอีกต่อไป แต่เมื่อหันกลับมามองต้นทุนโลจิสติกส์ของไทยพบว่ามีสัดส่วนสูงถึง 20% ของจีดีพี ดังนั้นโลจิสติกส์ไทยวันนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการแข่งขันในตลาดโลกของไทย 

.

ดังนั้นรัฐบาลไทยจึงได้เน้นนโยบายการค้าแบบ 3 วงแหวน 5 ประตู ว่าด้วยการกำหนดให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางและแวดล้อมด้วยประเทศคู่ค้าโดยกำหนดเป็น 3 วงแหวน ได้แก่ วงแหวนที่ 1 คือ อาเซียน วงแหวนที่ 2 คือ อาเซียน +3 และวงแหวนที่ 3 คือ อาเซียน+6 ซึ่งต้องกำหนดเป้าหมายพัฒนาโลจิสติกส์ให้ครอบคลุมการค้าในพื้นที่สำคัญและทั่วถึง

.

ส่วนนโยบาย 5 ประตูจะว่าด้วยการสร้างเส้นทางการค้าใหม่ New Trade Lane และ New Trade Gateway ที่จะเชื่อมไทยเชื่อมโลก โดยผ่านประเทศที่มีพรมแดนติดกัน โดยพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษตามชายแดนรองรับ ได้แก่ การสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษตามชายแดน ใน 5 ทิศทาง ได้แก่ ประตูสู่ทางเหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้ ตะวันตก  ที่จะเชื่อมการค้า 4 ประเทศ ได้แก่ พม่า ลาว กัมพูชา มาเลเซีย ซึ่งมีมูลค่าการค้าชายแดนปีละประมาณ 8 แสนล้านบาท

.

อย่างไรก็ตาม การจะเป็น “ชาติแห่งการค้า” ที่สมบูรณ์ ไทยต้องมียุทธศาสตร์โลจิสติกส์ที่ชัดเจน โดยต้องสร้างศูนย์กระจายสินค้าในภูมิภาคต่าง ๆ รองรับ มีกาบริหารภายใต้แนวทาง International and Logistics Hub ที่เชื่อมต่อการขนส่งหลายรูปแบบไว้ด้วยกัน มีศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าขนาดใหญ่ นำสินค้าจากภาคเหนือลงแม่น้ำเจ้าพระยาก่อนไปสู่ท่าเรือ

.

ดังนั้นการพัฒนาศักยภาพ และยกระดับอุตสาหกรรมของไทยจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องรีบเร่งดำเนินการเพื่อก้าวสู่การยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชียเพื่อรองรับต่อนโยบายดังกล่าวแล้วต่อไป”

.

สำหรับงานแสดงสินค้าโลจิสติกส์จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 โดยปีนี้จะมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7- 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553 นี้ ณ อาคาร 101-102 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา คาดว่า จะมีผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ชั้นนำทั้งในประเทศ และจากต่างประเทศทั่วโลกกว่า 200 บริษัท จำนวน 400 คูหา เข้าร่วมงานแสดงสินค้า และนำเสนอบริการต่าง ๆ ที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ อาทิ ธุรกิจบริการโลจิสกติกส์และผุ้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจร ซอผแวร์ และเทคดนโลยีสารสนเทศ เครื่องมือ สินค้าและอุปกรณ์โลจิสติกส์ เป็นต้น

.

ทั้งนี้จากการสำรวจความคิดเห็นผู้เข้าร่วมงานในปีที่ผ่านมา และการลงทะเบียนเข้าร่วมชมงานล่วงหน้า พบว่า การจัดงานแสดงสินค้าโลจิสติกส์ 2553 จะได้รับความสนใจและมีผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมากกว่าปีที่ผ่านมา  

.

โดยในปีนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 10,000 คน จากผู้ประกอบการขนาดกลางและใหญ่ ผู้ส่งออก ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ในประเทศ และต่างประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง อินเดีย รวมทั้งผู้เข้าร่วมประชุม FIATA World Congress 2010 ซึ่งปีนีถือเป็นครั้งแรกของการร่วมมือในการยกระดับการจัดงานโลจิสติกส์ไทยสู่อาเซียน

.

สำหรับกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจซึ่งจะจัดขึ้นภายในงานประกอบด้วย ASEAN Pavilion ซึ่งเป็นโซนจัดแสดงเทคโนโลยีด้านโลจิสติกส์อันทันสมัยของประเทศในภูมิภาคอาเซียน การจัดแสดงนิทรรศการการเชื่อมโยงโครงข่าย โลจิสติกส์ของประเทศในกลุ่ม ASEAN + 3 และ ASEAN + 6 การเสวนา Logistics Symposium ที่น่าสนใจจากผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ชั้นนำระดับนานาชาติที่จะมาให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีและระบบการจัดการโลจิสติกส์ รูปแบบใหม่ให้กับผู้เข้าชมงาน

.

การให้บริการจัด Business Matching กับผู้เข้าร่วมประชุม FIATA World Congress 2010 นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงผลงนจากการประกวด Logistics Model Awards และการจัดประกวด Green Logistics Contest รวมทั้งโครงการรับสมัครงาน (Job Fair) ในธุรกิจโลจิสติกส์อีกด้วย

.

“กระทรวงพาณิชย์อยากเชิญชวนให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดงานครั้งนี้ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาระบบการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ของไทยอย่างยั่งยืน และก้าวไปสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจโลจิสติกส์ที่ครบวงจร และมีประสิทธิภาพสูงสุดในภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง สมดั่งแนวคิดในการจัดงนครั้งนี้ต่อไปครับ” นายอลงกรณ์ กล่าวในตอนท้าย