เนื้อหาวันที่ : 2010-06-10 09:50:12 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1101 views

"ชัยวุฒิ" ชูนโยบายฟื้นความเชื่อมั่น ตั้งเป้ายอดลงทุนห้าแสนล้าน

“ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์” มอบนโยบายหลังเข้ารับตำแหน่งรมต.กระทรวงอุตสาหกรรม มุ่งสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน และส่งเสริมนักลงทุนไทยไปลงทุนต่างประเทศ เร่งคลี่คลายปัญหาสิ่งแวดล้อมมาบตาพุด มั่นใจเป้าหมายการลงทุนที่ 500,000 ล้านบาท

นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ชูนโยบายดึงความเชื่อมั่นการลงทุนในประเทศ เตรียมเรียกผู้บริหารคลี่คลายปัญหาสิ่งแวดล้อมมาบตาพุด

.

นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

.

“ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์” มอบนโยบายหลังเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมวันแรก  มุ่งสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน และส่งเสริมนักลงทุนไทยไปลงทุนต่างประเทศ เร่งคลี่คลายปัญหาสิ่งแวดล้อมมาบตาพุด  มั่นใจเป้าหมายการลงทุนที่ 500,000 ล้านบาท

.

นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเข้ารับตำแหน่งในวันแรกพร้อมสักการะพระนารายณ์ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงอุตสาหกรรมว่า  นโยบายที่จะต้องมุ่งเน้นในการเข้ามาบริหารกระทรวงอุตสาหกรรม สิ่งสำคัญจะต้องเร่งดึงความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นหลังจากที่ผ่านมาประเทศไทยเผชิญกับปัญหาการเมือง 

.

ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น และมั่นใจว่าไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างไรในการดึงเม็ดเงินลงทุนให้ได้ตามเป้าหมาย 500,000 ล้านบาท เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เป็นหน่วยงานที่มีศักยภาพในการส่งเสริมการลงทุน พร้อมทั้งจะมุ่งเน้นในการนำนักลงทุนไทยไปลงทุนยังต่างประเทศ ไม่ใช่การดึงนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทยเพียงอย่างเดียว

.

“จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง  โดยเฉพาะในกฎหมายที่เกี่ยวข้องของกระทรวงอุตสาหกรรม  เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาต่างๆในภาคอุตสาหกรรม อาทิ กรณีก๊าซรั่วไหลในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชเมื่อเร็วๆนี้  หากมีการบังคับใช้กฎหมายที่ป้องกันได้  จะทำให้โฮกาสในการเกิดปัญหาดังกล่าวมีน้อยลง” นายชัยวุฒิ กล่าว

.

นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของการเข้ามาแก้ไขสิ่งแวดล้อมในพื้นที่มาบตาพุด โดยจะเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่น โดยเฉพาะในด้านกฎเกณฑ์ต่างๆที่จะต้องมีความคืบหน้าพอสมควร  โดยหลังจากนี้จะมีการเรียกประชุมผู้บริหารที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางการแก้ไขร่วมกัน และเชื่อว่าปัญหาน่าจะใกล้จบเร็วๆนี้

.

สำหรับแนวทางการส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมนั้น  จำเป็นที่จะต้องเร่งพัฒนาผู้ประกอบการปรับตัวได้อย่างยั่งยืน  เนื่องจากข้อมูลที่ได้รับทราบตัวเลขการปิดกิจการ SMEs มีจำนวนมากขึ้น  เฉลี่ยใกล้เคียงกับตัวเลขที่ผู้ประกอบการเปิดธุรกิจใหม่ ดังนั้นจำเป็นต้องเร่งหาแนวทางในการสร้างผู้ประกอบการ SMEs ใหม่ให้เกิดขึ้นและมีการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ 

.

ขณะที่ความคืบหน้าของโครงการเหล็กต้นน้ำคุณภาพสูง  จะพยายามผลักดันให้เกิดขึ้นภายในประเทศ  เนื่องจากอุตสาหกรรมดังกล่าวนับว่าเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมต่อเนื่องทั้งระบบ      ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการคัดเลือกพื้นที่เหมาะสม และจะต้องให้เกิดการยอมรับของชุมชนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อการอยู่ร่วมกันระหว่างภาคอุตสาหกรรมกับชุมชนในพื้นที่

.

อย่างไรก็ดี  ตนจะนำนโยบายเดิมที่ใช้ในกระทรวงศึกษาธิการ  ในเรื่องของพัฒนาบุคลากรภาคอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดมากขึ้น เนื่องจากในภาคอุตสาหกรรมยังขาดแคลนบุคลากรที่มีศักยภาพและตรงสายงานผลิต  รวมทั้งการให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบเทคโนโลยีเพื่อตรวจสอบมลภาวะทั่วประเทศ  และการให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาที่ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก

.

นอกจากนี้  ในสัปดาห์หน้าตนและคณะผู้บริหารจะมีการตรวจเยี่ยมหน่วยงานต่างๆในสังกัดของกระทรวงอุตสาหกรรม  เพื่อรับฟังแผนการดำเนินงานและมอบนโยบายให้กับคณะผู้บริหารในการปฎิบัติงานต่างๆร่วมกันต่อไป 

.
ที่มา : กระทรวงอุตสาหกรรม