เนื้อหาวันที่ : 2010-05-13 09:07:37 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2370 views

แสนสิริ เปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุด รุกตลาดคอนโดฯ ระดับพรีเมียม

แสนสิริ รุกตลาดคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม ช่วงไตรมาส 2 เปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุด ‘KEYNE by Sansiri’ มูลค่ากว่า 1,900 ลบ.

แสนสิริ รุกตลาดคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม ช่วงไตรมาส 2 เปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุด ‘KEYNE by Sansiri’ มูลค่ากว่า 1,900 ลบ.

.

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)

.

แสนสิริสานต่อความเป็นผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมระดับบน เปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุด “KEYNE by Sansiri” (คีน บาย แสนสิริ) พรีเมียมคอนโดมิเนียมแบบไฮไรซ์สูง 28 ชั้น จำนวน 208 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 1,900 ล้านบาท ชูจุดขายเน้นความเป็นส่วนตัวสูงในสุดยอดทำเลที่อยู่อาศัยที่นับเป็น Prime Area ของสุขุมวิทอย่างแท้จริง เพียง 10 เมตรจากทางขึ้น BTS ทองหล่อ เตรียมจัดงานเปิดตัวการขายอย่างเป็นทางการต้นเดือนมิถุนายนนี้ คาดได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีเช่นเดียวกับ PYNE by Sansiri 

.

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะเปิดตัวโครงการใหม่ที่ชื่อว่า “KEYNE by Sansiri” (คีน บาย แสนสิริ) โครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมใหม่ล่าสุดของแสนสิริ ที่มีจุดเด่นในด้านทำเลที่ตั้งเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากอยู่ติดถนนสุขุมวิทซึ่งเป็น Prime Area ใจกลางย่านธุรกิจการค้าที่สำคัญของเมืองไทย และอยู่ห่างจากทางขึ้น BTS ทองหล่อเพียง 10 เมตรเท่านั้น

.

รวมทั้งยังเป็นทำเลที่อยู่บนเส้นทางคมนาคมที่สะดวกสบายที่สุด นอกจากนี้ยังมีความโดดเด่นในด้านสังคมการอยู่อาศัยที่มีความเป็นส่วนตัวสูง เนื่องจากประกอบด้วยจำนวนยูนิตพักอาศัยเพียง 208 ยูนิตที่สามารถตอบรับกับความต้องการอยู่อาศัยในชีวิตเมืองและสะท้อนการใช้ชีวิตที่พิเศษเหนือใคร มูลค่าโครงการขายประมาณ 1,900 ล้านบาท 

.

“ในปีนี้ แสนสิริมีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมไปแล้วในช่วงต้นปี คือโครงการ PYNE by Sansiri ที่ประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของลูกค้าระดับบนที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์คุณภาพอย่างแสนสิริที่เหนียวแน่น ในฐานะที่เป็นผู้นำในด้านการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมมายาวนานกว่า 20 ปี สำหรับโครงการ KEYNE by Sansiri นี้ 

.

บริษัทฯมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมที่มีความพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกทำเลที่ตั้งที่ถือว่าเป็นที่สุดสำหรับการอยู่อาศัยในใจกลางเมือง การเลือกชื่อโครงการที่สะท้อนการใช้ชีวิตที่พิเศษเหนือใครรวมทั้งการออกแบบดีไซน์ภายในโครงการในมุมมองที่แตกต่าง

.

ดังนั้นจึงเชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีและประสบความสำเร็จในการขายอย่างสูงเช่นเดียวกับโครงการที่ผ่านมา” นายเศรษฐา กล่าว 

.

โครงการ KEYNE by Sansiri ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ระหว่างซอยสุขุมวิท 34 – 36 ซึ่งเป็นทำเลที่อยู่ใจกลางย่านสุขุมวิท อยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าดิ เอ็มโพเรียม, เจ อเวนิว, มาร์เก็ตเพลส, เค วิลเลจ, วิลล่า มาร์เก็ตและร้านอาหารชื่อดังมากมายที่เป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์การกิน ดื่ม เที่ยว ช้อปปิ้ง โดดเด่นด้วยทำเลที่ตั้ง ซึ่งอยู่ห่างจากทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสทองหล่อเพียง 10 เมตร          

.

ประกอบด้วยการดีไซน์ Landscape ที่ทันสมัย สร้างมุมมองใหม่ของกรุงเทพฯ ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถสัมผัสทัศนียภาพของความเป็นเมืองที่สวยงามได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ KEYNE by Sansiri เป็นคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมแบบ High-Rise สูง 28 ชั้น มีจำนวนยูนิตทั้งสิ้น 208 ยูนิต ประกอบด้วยห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน เริ่มต้น 35 ตร.ม. ประเภท 2 ห้องนอน เริ่มต้น 74 ตร.ม. และประเภท 3 ห้องนอน ขนาด 135 ตร.ม. 

.

โดยทุกห้องเน้นการตกแต่งด้วยวัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานสูง นอกจากนี้ยังออกแบบให้พื้นที่ทั้งชั้นเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่รวมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน อาทิ สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ห้องอบไอน้ำ เป็นต้น รวมทั้งระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ราคาขายเริ่มต้นที่ 5 ล้านบาท 

.

“ตลาดคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมในย่านใจกลางเมือง (CBD) เป็นการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่เพียงไม่กี่ราย เนื่องจากสภาวะตลาดปัจจุบัน ผู้ประกอบการที่จะแข่งขันในตลาดนี้ ต้องมีฐานเงินทุนที่มั่นคงจากราคาที่ดินที่สูงขึ้นอย่างมาก จากการที่ ที่ดินที่เหมาะสมกับการพัฒนาโครงการระดับพรีเมียมใจกลางเมืองหายากมากขึ้น

.

ดังนั้นสินค้าใหม่ ๆ ในตลาดนี้จึงมีอยู่ไม่มากขณะที่ความต้องการสินค้าระดับบนยังคงมีอย่างต่อเนื่อง การที่แสนสิริพัฒนาสินค้าในทำเลที่มีศักยภาพสูง มีจุดเด่นที่ชัดเจน สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าระดับบนอย่างแท้จริง รวมถึง การส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพให้กับลูกค้าได้ตามกำหนด ทำให้เชื่อมั่นว่าลูกค้ากลุ่มนี้จะสามารถตัดสินใจซื้อโครงการที่มีคุณภาพเช่นนี้ได้รวดเร็ว อย่างแน่นอน” นายเศรษฐา กล่าว