"วิฑุรย์" ตั้งคณะทำงานตรวจเข้มโรงงานทิ้งของเสีย หลังพบตัวเลขปริมาณกากอุตสาหกรรมไม่ตรงกับที่ผู้ประกอบการขออนุญาตไว้ หวั่นเกิดปัญหาลักลอบนำกากของเสียไปทิ้งนอกระบบส่งผลกระทบชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียง
|
ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งคณะทำงานประสานความร่วมมือด้านการจัดการกากอุตสาหกรรม หลังพบตัวเลขปริมาณกากอุตสาหกรรมไม่ตรงกับที่ผู้ประกอบการขออนุญาตไว้ หวั่นเกิดปัญหาลักลอบนำกากของเสียไปทิ้งนอกระบบส่งผลกระทบชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียง มั่นใจเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบข้อมูลนำส่งปริมาณกากอย่างถูกต้อง |
| . |
|
|
| . |
|
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้มีการตั้งคณะทำงานประสานความร่วมมือด้านการจัดการกากอุตสาหกรรม ประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมจังหวัด การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย |
| . |
|
โดยมีพื้นที่เป้าหมาย 15 จังหวัด เนื่องจากในปัจจุบันมีปัญหาการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมในหลายพื้นที่ อาจก่อให้เกิดมลพิษและมลภาวะในชุมชน ประกอบกับยังมีโรงงานจำนวนมากที่ไม่เข้าระบบการจัดการกากอุตสาหกรรมที่ถูกต้อง ดังนั้น จึงมีการตั้งคณะทำงานดังกล่าวฯ ขึ้นเพื่อเป็นการเร่งรัดติดตามการจัดการกากอุตสาหกรรมให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ |
| . |
|
“ปัจจุบันมีโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศที่เข้าระบบจัดการกากของเสียจากภาคอุตสาหกรรมประมาณ 11,000 รายทั่วประเทศ คิดเป็นปริมาณ 80-90% ของปริมาณกากของเสียทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นพบว่าตัวเลขสถิติปริมาณกากของเสียจากโรงงานบำบัดกากอุตสาหกรรมไม่ตรงกับตัวเลขที่ผู้ประกอบการขออนุญาตินำออกกากอุตสาหกรรมของโรงงาน |
| . |
|
ซึ่งเกรงว่าอาจจะมีการลักลอบนำกากของเสียไปทิ้งในแหล่งอื่นที่อาจส่งผลกระทบต่อชุมชน เนื่องจากกากของเสียนั้นจะมีทั้งกากที่อันตรายและไม่อันตราย หากมีการกำจัดของเสียที่ผิดวิธีจะเกิดความไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพของประชาชนได้” นายวิฑูรย์ กล่าว |
| . |
|
ทั้งนี้ พื้นที่เป้าหมายที่จะดำเนินการตรวจติดตามการจัดการกากอุตสาหกรรมจะนำร่อง ใน 15 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี ปทุมธานี นครปฐม นครราชสีมา นนทบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา สงขลา ราชบุรี สระบุรี ขอนแก่น เชียงใหม่ และพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม โดยพื้นที่เหล่านี้มีโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก โดยจัดเป็นโรงงานอุตสาหกรรม |
| . |
|
ประเภทผลิตปุ๋ย หรือสารป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืช ประเภทการทำผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ ประเภทการพ่นสี หรือสารพ่นเคลือบ ประเภทหมัก ชำแหละ อบ ป่น หรือ บด เป็นต้น |
| . |
|
สำหรับอำนาจหน้าที่ของคณะทำงานดังกล่าว จะดำเนินการร่วมกันแบบบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้อุตสาหกรรมจังหวัดตรวจสอบปริมาณกากของเสียอุตสาหกรรมของโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ภายในระยะเวลา 1 เดือน เพื่อรวบรวมตัวเลขและข้อเท็จจริงทั้งในส่วนของปริมาณกากของเสีย ที่อันตรายและไม่อันตรายทั้งหมดจากโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการขออนุญาตนำของเสียออก |
| . |
|
เพื่อนำมาสู่การจัดประเภทโรงงานที่ปฏิบัติตามกฎหมาย และโรงงานที่อาจเข้าข่ายไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยจะมีการเข้มงวดในการตรวจสอบและจะมีการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายตามพระราชบัญญัติกรมโรงงานอุตสาหกรรมว่าด้วยบทลงโทษปรับไม่เกิน 200,000บาท และระงับการดำเนินกิจการชั่วคราวเพื่อให้ปรับปรุงแก้ไขต่อไป |
| . |
|
นายวิฑูรย์กล่าวว่า ในการตรวจสอบปริมาณกากของเสียอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมจะมีแนวทางการตรวจสอบอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษโดยเฉพาะการกำจัดกากขยะอันตราย |
| . |
|
นอกจากนี้ในส่วนของการอนุญาตสร้างโรงงานกำจัดกากที่คาดว่าอาจจะมีการขยายเพิ่มนั้น คงต้องดูความเหมาะสมหรือความเป็นไปได้ในการอนุญาตตั้งโรงงานกำจัดกากของเสีย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการตัดราคาค่าบริการแก่โรงงานอุตสาหกรรมที่จะใช้บริการกำจัดกากของเสีย และสร้างมาตรฐานในการวางระบบกำจัดกากอุตสาหกรรมให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ |
| . |
|
ส่วนโรงงานอุตสาหกรรมที่มีกากของเสียและยังไม่เข้าระบบ กรมโรงงานอุตสาหกรรมจะทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวกับกากอุตสาหกรรมภายใน 1 เดือน จากนั้นจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง |
| . |
| ที่มา : กระทรวงอุตสาหกรรม |
Thailandindustrycom_official
.gif)
