เนื้อหาวันที่ : 2010-02-26 10:59:36 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1872 views

SUSCO เดินหน้าปรับภาพลักษณ์สถานีบริการน้ำมัน

SUSCO มุ่งปรับปรุงภาพลักษณ์สถานีบริการ หวังเพิ่มยอดขาย พร้อมเตรียมแผนบริหารจัดการทรัพย์สินให้เกิดประโยชน์สูงสุด เปิดตัว “ธุรกิจให้เช่าบริการคลังเก็บน้ำมัน(Storage Tank)” เพื่อเสริมรายได้และกำไรของบริษัท

SUSCO มุ่งปรับปรุงภาพลักษณ์สถานีบริการ เพื่อเพิ่มยอดขายต่อสถานีให้สูงขึ้นและมีแผน บริหารจัดการทรัพย์สินให้เกิดประโยชน์สูงสุด เปิดตัว “ธุรกิจให้เช่าบริการคลังเก็บน้ำมัน(Storage Tank)” เพื่อเสริมรายได้และกำไรของบริษัท พร้อมเปิดสถานีบริการพลังงานทดแทน NGV 7 แห่งครบตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2552

.

.

นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามสหบริการ จำกัด (มหาชน) หรือ SUSCO กล่าวว่า “ภาพรวมของธุรกิจพลังงานของ SUSCO นั้น บริษัทฯ ได้แบ่งแยกสัดส่วนการดำเนินธุรกิจออกเป็น ธุรกิจการขายน้ำมัน คิดเป็นร้อยละ50(%) ธุรกิจการขายก๊าซ LPG และ NGV คิดเป็นร้อยละ30(%) และธุรกิจการให้เช่าทรัพย์สิน เช่น คลังเก็บน้ำมันคิดเป็นร้อยละ20(%)

.

ซึ่งในปลายปี 2552 ที่ผ่านมา เราได้ขยายและเปิดสาขาสถานีบริการพลังงานทดแทน หรือ NGV แห่งที่ 7 คือ สถานีบริการ NGV พระราม 9 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่เราได้ตั้งไว้ ถึงแม้ยอดจำหน่าย NGV จะน้อยเมื่อเทียบกับน้ำมันแต่คิดเป็นประมาณร้อยละ 30(%) ของกำไรของบริษัท คาดว่ายอดจำหน่าย NGV จะเพิ่มขึ้นจาก 15,000 ตัน ในปี 2552 เป็น 30,000 ตัน ในปี 2553

.

นอกจากนี้เรายังเปิดตัวธุรกิจการให้เช่าบริการคลังเก็บน้ำมันเพื่อเสริมรายได้ให้บริษัทฯ โดยมีแนวคิดที่ว่า เราต้องการใช้ทรัพย์สินที่มีอยู่มาบริหารและจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่องค์กร เนื่องจากบริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลงระบบการจัดส่งและระบบจัดการสินค้าคงคลัง ทำให้มีที่ว่างเหลือเพื่อพัฒนาให้เกิดประโยชน์ ดังนั้นบริษัทฯ จึงดำเนินธุรกิจการให้เช่าถังน้ำมันเพื่อกักเก็บน้ำมันหรือสินค้าประเภทของเหลว          

.

เช่น น้ำมันพืช น้ำมันหล่อลื่น อีกทั้งภาพรวมของเศรษฐกิจในปัจจุบันมีการขยายตัวมากขึ้น ประกอบกับการเปิดเสรีทางการค้า ทำให้ไทยได้ประโยชน์จากสถานที่ตั้งที่ได้เปรียบ ทำให้มีความต้องการในเรื่องของคลังเก็บน้ำมันเพื่อขนถ่ายและจัดเก็บสินค้าประเภทของเหลวมากขึ้น บริษัทฯ จึงเล็งเห็นความต้องการที่เพิ่มขึ้นในจุดดังกล่าวจึงเริ่มพัฒนาธุรกิจการให้เช่าบริการคลังเก็บน้ำมันขึ้นมานั่นเอง” 

.

นายชัยฤทธิ์ กล่าวต่อไปว่า “สำหรับในปัจจุบัน ธุรกิจการให้เช่าบริการคลังเก็บน้ำมัน ของบริษัทฯ แบ่งออกเป็น คลังน้ำมันที่จังหวัดกรุงเทพฯ จำนวน 15 ล้านลิตร คลังน้ำมันที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 28 ล้านลิตร และคลังน้ำมันที่จังหวัดสงขลา จำนวน 14 ล้านลิตร ซึ่งเรามีบริการจัดเก็บและจัดส่งสินค้าประเภทของเหลวต่าง ๆ เนื่องจากเรามีพาหนะขนส่ง คือเรือและรถขนส่งอย่างครบครัน

.

ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการรับบริการด้านการฝากเก็บสินค้าประเภทของเหลวแต่ไม่ต้องการการลงทุนสร้างคลังเก็บน้ำมันเอง รวมทั้งต้องการผู้มีความรู้ความเข้าใจและมีบริการที่ครบวงจรมาช่วยดูแลจัดการงานทางด้านนี้ให้แทน ซึ่งจากการเปิดให้บริการที่ผ่านมาถือว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง          

.

ทั้งนี้เราจึงพยายามที่จะพัฒนางานด้านการให้เช่าบริการคลังเก็บน้ำมันของเราให้มีมาตรฐาน และมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นเพื่อขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มใหม่ๆ ให้เพิ่มขึ้นตามเป็นการเสริมรายได้ให้บริษัทฯ  

.

นอกจากนี้บริษัทฯ จะเดินหน้าปรับปรุงภาพลักษณ์ของสถานีบริการซึ่งยึดหลักการว่า “สถานีบริการของ SUSCO จะไม่เน้นหรูหรา แต่ต้องสะอาดและสะดวกในการใช้บริการ” โดยมีเป้าหมายเพิ่มยอดขายต่อสถานีบริการให้สูงขึ้นประมาณ 10% และเชื่อว่าธุรกิจของ SUSCO จะมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต”