เนื้อหาวันที่ : 2007-01-22 14:24:42 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1735 views

SECC มั่นใจปี 2550 รายได้โตพรวดหายห่วง พร้อมลุยธุรกิจ NGV

บริษัท เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) คุยพร้อมบุกจำหน่ายรถยนต์หรูที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เปิดธุรกิจรถยนต์มือสองระดับหรู ดันรายได้เติบโต

SECC คุยปี 2549 รายได้ขยายตัว 20% ทะลุ 2,700 ล้านบาท  หลังปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจให้สอดคล้องกับภาษีใหม่และนโยบายประหยัดพลังงาน สมพงษ์เปิดแผนงานปี 2550 พร้อมบุกจำหน่ายรถยนต์หรูที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เปิดธุรกิจรถยนต์มือสองระดับหรู และธุรกิจจัดจำหน่ายพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ NGV ที่  ริเริ่มไว้แล้วในปีนี้  มั่นใจดันรายได้เติบโตจากปี 2549 แม้ปัญหาการเมืองและราคาน้ำมันยังไม่นิ่ง

.

นายสมพงษ์  วิทยารักษ์สรรค์  ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) (SECC) กล่าวถึงธุรกิจจัดจำหน่ายรถยนต์หรูในปี 2549 ว่าช่วงที่ผ่านมาแม้ตลาดรถยนต์โดยรวม จะได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมือง ราคาน้ำมันแพง การชะลอตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งปัญหาน้ำท่วม ส่งผลให้ยอดขายสินค้ารถยนต์และสินค้าที่เกี่ยวข้องในหลายๆ บริษัทชะลอตัวลง แต่ในส่วนของธุรกิจจัดจำหน่ายรถยนต์หรูกลับไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าว โดยยอดขายของ SECC มีการขยายตัวในอัตราที่สูงกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากลูกค้าของบริษัทเป็นกลุ่มที่มีความสามารถในการใช้จ่ายอยู่ในระดับสูง การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าไม่ได้อิงกับสภาพเศรษฐกิจ อีกทั้งบริษัทอยู่ในตลาดมากว่า 15 ปี จึงสามารถปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ได้ดี

.

ในปี 2549 แม้ตลาดรถยนต์โดยรวมจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบหลายประการจนทำให้ยอดขายชะลอตัวลง แต่สำหรับ SECC  แทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าว เพราะลูกค้าของเรามีกำลังซื้อสูง การซื้อ รถยนต์จึงไม่ได้อิงกับภาวะเศรษฐกิจ และประการสำคัญในปี 2549 บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ใหม่ โดยหันมาจัดจำหน่ายรถยนต์รุ่นและขนาดที่มีเครื่องยนต์เล็กลง ให้สอดคล้องกับอัตราภาษีใหม่ของรัฐบาล รวมทั้งรถยนต์ในกลุ่ม เอนกประสงค์และกลุ่มประหยัดพลังงานที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ายุคน้ำมันแพงและลูกค้าที่ต้องการใช้รถยนต์อย่างคุ้มค่าทุกรูปแบบ จึงทำให้ในปีที่ผ่านมาธุรกิจของ SECCประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีทำให้     คาดว่ารายได้จะขยายตัว 20% ทะลุ 2,700 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้

.

เขากล่าวต่อถึงแนวโน้มธุรกิจในปี 2550 ว่าธุรกิจจัดจำหน่ายรถยนต์มีโอกาสปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2549 เนื่องจากปัจจัยลบในหลายประการได้คลี่คลายลง โดยเฉพาะปัจจัยการเมือง และราคาน้ำมัน ถึงแม้ว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะยังไม่นิ่งและมีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้ แต่ก็ถือว่ามีความชัดเจนมากกว่าปีที่ผ่านมา ดังนั้นเชื่อว่าธุรกิจจัดจำหน่ายรถยนต์ระดับหรูจะได้รับผลดีไปในทิศทางเดียวกัน โดยในปีนี้ SECC บริษัทจะให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจในส่วนของการจัดจำหน่ายรถยนต์ และการขยายธุรกิจในส่วนอื่นๆ ที่ได้ริเริ่มไว้ในปี 2549 อาทิ ธุรกิจจัดจำหน่ายและติดตั้งอุปกรณ์ก๊าซ NGV ที่ใช้ในรถยนต์ รวมทั้งการเปิดธุรกิจรับซื้อและขายรถยนต์พรีเมี่ยม หรือรถยนต์ระดับหรูมือสอง เนื่องจากในปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่กว่าหมื่นรายให้ความเชื่อถือในคุณภาพรถยนต์  ที่บริษัทจัดจำหน่าย ซึ่ง การเจาะตลาดดังกล่าวถือเป็นการให้บริการลูกค้าเดิมที่ต้องการเปลี่ยนรถยนต์ใหม่ และขยายฐานลูกค้าใหม่ที่ต้องการใช้รถยนต์หรูแต่ราคาย่อมเยากว่ารถยนต์ใหม่

.

ในปี 2550 การจัดจำหน่ายรถยนต์หรูจะเน้นทำตลาดรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับการประหยัดพลังงานเต็มตัว ทั้งการนำเข้ารถยนต์รุ่นประหยัดพลังงานเข้ามาจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเภทไฮบริด ที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดคาดว่าจะนำเข้ารถยนต์ประเภทดังกล่าวเข้ามาจำหน่ายอีกกว่า 10 รุ่น รวมทั้งรถยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์เล็กลง และรถยนต์เอนกประสงค์ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างกว้างขวางในปี 2549 ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้รายได้ในส่วนของการจัดจำหน่ายรถยนต์ของบริษัทขยายตัวไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หรือมียอดขายอยู่ที่สัดส่วน 85% เมื่อเทียบกับยอดขายรวมของบริษัท โดย 15% จะมาจากรายได้ในธุรกิจอื่นๆ  แต่อนาคต    เมื่อ SECC ขยายธุรกิจอื่นๆ เพิ่มขึ้น คาดว่าสัดส่วนรายได้ระหว่างการจัดจำหน่ายรถยนต์และธุรกิจอื่นๆ จะอยู่ที่สัดส่วน 50:50 ซึ่งธุรกิจอื่นๆ ก็คงจะอยู่ในกลุ่มยานยนต์ที่สามารถส่งเสริมกันได้"นายสมพงษ์กล่าวในที่สุด