เนื้อหาวันที่ : 2010-02-24 10:40:05 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1625 views

"เพาเวอร์เซเว่น"’ ชิพรุ่นใหม่สำหรับเซิร์ฟเวอร์

ไอบีเอ็ม เปิดตัว ‘เพาเวอร์เซเว่น’ ชิพรุ่นใหม่สำหรับเซิร์ฟเวอร์ เพาเวอร์ ซิสเต็มส์ ช่วยองค์กรไทยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจแบบก้าวกระโดด

ไอบีเอ็มต่อยอดความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและส่วนแบ่งตลาดเซิร์ฟเวอร์ในไทย เปิดตัว ‘เพาเวอร์เซเว่น’ ชิพรุ่นใหม่สำหรับเซิร์ฟเวอร์ เพาเวอร์ ซิสเต็มส์ ช่วยองค์กรไทยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจแบบก้าวกระโดด

.

.

ชิพ เพาเวอร์เซเว่น (POWER7) มาพร้อมกับเทคโนโลยีเหนือชั้น เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะ ประสิทธิภาพและความสามารถอันโดดเด่นพร้อมช่วยธุรกิจไทยลดค่าใช้จ่าย เพิ่มผลผลิต ประสิทธิภาพการทำงาน และขีดความสามารถในการแข่งขันได้แบบก้าวกระโดด

.

บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด ต่อยอดความเป็นผู้นำทั้งในด้านเทคโนโลยีและส่วนแบ่งตลาดเซิร์ฟเวอร์ในประเทศไทย เปิดตัวชิพ ‘เพาเวอร์เซเว่น’ (POWER7) ไมโครโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ รวมทั้งเซิร์ฟเวอร์ เพาเวอร์ ซิสเต็มส์ รุ่นล่าสุด ซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ และความสามารถมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความเสถียร สมรรถนะ ประสิทธิภาพ ความเร็วและความคุ้มค่า ตลอดไปจนถึงความสามารถในการประมวลผลแบบคู่ขนาน (Massive Parallel Processing)

.

การบริหารจัดการเวิร์คโหลดได้หลากหลายประเภท (Optimized for Workload Performance) ความสามารถอันโดดเด่นในด้านเวอร์ชวลไลเซชันและการประหยัดพลังงาน หรือแม้กระทั่งความสามารถด้านการผนวกควบรวมเซิร์ฟเวอร์ (Server Consolidation) เป็นต้น

.

ทั้งนี้เพื่อรองรับความต้องการอันหลากหลายขององค์กรยุคใหม่ที่ต้องการโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอทีอันทรงพลังในการขับเคลื่อนระบบงานในสายธุรกิจประเภทตาง ๆ ที่ต้องการพลังแห่งการประมวลผลมากกว่าเดิม แต่ใช้พลังงานน้อยกว่า และคุ้มค่าต่อการลงทุน

.

ในปัจจุบัน ธุรกิจหลายแห่งต้องเผชิญกับความท้าทายและความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นความจำเป็นในด้านการบริหารจัดการข้อมูลมหาศาลในองค์กรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและทำให้ข้อมูลดังกล่าวเกิดประโยชน์สูงสุด ความต้องการพลังแห่งประมวลผลขั้นสูงเพื่อตอบสนองระบบงานต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนธุรกิจให้สามารถเอาชนะความท้าทายและการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

.

ความต้องการขับเคลื่อนนวัตกรรมในองค์กรและปรับเปลี่ยนธุรกิจให้เหมาะสมกับรูปแบบหรือโมเดลทางธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อหาโอกาสในการลดค่าใช้จ่าย เพิ่มผลผลิต ประสิทธิภาพการทำงาน รวมไปถึงความสามารถในการบริหารจัดการความเสี่ยง และสร้างแต้มต่อให้กับองค์กร เป็นต้น ความต้องการต่าง ๆ เหล่านี้เอง ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีของไอบีเอ็มเพื่อตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรยุคใหม่

.

หนึ่งในนวัตกรรมล่าสุดของไอบีเอ็ม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว คือ ไอบีเอ็ม เพาเวอร์เซเว่น เทคโนโลยีที่มาพร้อมกับเซิร์ฟเวอร์ เพาเวอร์ ซิสเต็มส์ รุ่นใหม่ล่าสุดของไอบีเอ็ม ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจที่ต้องการขับเคลื่อนระบบงานบนระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นยูนิกซ์ ลินุกซ์ หรือไอ โอเอส ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงมากมายเพื่อช่วยองค์กรลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การบริการลูกค้า ความสามารถในการบริหารจัดการความเสี่ยง ตลอดจนโอกาสในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันและสร้างแต้มต่อให้กับธุรกิจขององค์กร

.

.

เทคโนโลยีเพาเวอร์เซเว่นมาพร้อมกับความสามารถ สมรรถนะ และจุดเด่นมากมาย อาทิเช่น
- หน่วยประมวลผล เพาเวอร์เซเว่นสามารถบรรจุจำนวนหน่วยประมวลผล (โปรเซสเซอร์คอร์) ได้สูงสุดถึง 8 คอร์ต่อซ็อคเก็ต (ความเร็วสูงสุดถึง 4.14 จิกะเฮิร์ซ) ซึ่งสูงกว่าหน่วยประมวลผลเพาเวอร์ ซิกส์รุ่นก่อนหน้านี้ถึง 4 เท่า

.

นอกจากนั้นความสามารถของแต่ละคอร์ยังเพิ่มขึ้นกว่าเดิมด้วยการทำงานได้สูงสุดถึง 4 หน่วยการทำงาน (threads) พร้อมกัน ซึ่งหมายถึงสมรรรถนะโดยรวมของเพาเวอร์เซเว่นที่สามารถทำงานได้สูงสุดถึง 32 หน่วยการทำงานพร้อมกันต่อซ็อคเก็ต (สูงกว่าเพาเวอร์ซิกส์ถึง 8 เท่า)

.

นอกจากนั้น เทคโนโลยีเพาเวอร์เซเว่นยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนโหมดการทำงานได้ระหว่าง ‘เทอร์โบคอร์’ หรือ ‘แม๊กซ์คอร์’ ซึ่งทางเลือกในด้านโหมดการทำงานของเครื่องนี้เองช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับให้ตรงกับความต้องการหรือรูปแบบค่าใช้จ่ายทางด้านซอฟต์แวร์เฉพาะขององค์กรได้

.

ในส่วนของการอัพเกรด เพาเวอร์เซเว่นเปิดโอกาสให้ผู้ใช้เทคโนโลยีเพาเวอร์ ซิกส์รุ่นก่อนหน้าสามารถอัพเกรดเป็นเพาเวอร์เซเว่นได้อีกด้วย
- เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่มาพร้อมกับพลังการประมวลผลที่เหนือชั้น เพาเวอร์เซเว่นมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่อันทรงพลังมากมาย อาทิเช่น การใช้งาน on-chip L3 แคชที่ยืดหยุ่นได้ (Intelligent Cache)

.

เทคโนโลยีใหม่ทางด้านการประมวลผลแบบขนาน (Intelligent Threads) เพื่อ‘ทรูพุธ’คอมพิวติ้ง ฯลฯ ที่ออกแบบมาเพื่อความสามารถในการรองรับเวิร์คโหลดได้หลากหลายประเภท เช่น เวิร์คโหลดด้านอินเทอร์เน็ต ด้านการประมวลผลหรือบริหารจัดการฐานข้อมูล หรือแอพพลิเคชันด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจ (Smart Analytics) ขององค์กร เป็นต้น                    

.

นอกจากนั้น ในด้านประสิทธิภาพการประมวลผล เพาเวอร์เซเว่น (เช่น เซิร์ฟเวอร์ เพาเวอร์ 755 สำหรับ High Performance Computing ยังสามารถประมวลผลคำสั่งทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ได้สูงถึง 8.4 เทอราฟลอบส์ (TeraFlops – ล้านล้านหน่วยคำสั่ง floting point) ที่จำนวน 10 โหนดในหนึ่งแหรค (10-node rack) ตอบสนองความต้องการของแอพพลิเคชันหลากหลายที่ต้องการพลังแห่งการคำนวณและประมวลผลที่ฉับไว แม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงในปัจจุบัน 

.

- ความสามารถเหนือชั้นด้านเทคโนโลยีเสมือนหรือเวอร์ชวลไลเซชัน ด้วยเทคโนโลยีที่มาพร้อมเพาเวอร์ ซิสเต็มส์ เช่น ซอฟต์แวร์เพาเวอร์ วีเอ็ม (IBM PowerVM) เซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมเพาเวอร์เซเว่นจึงมีความสามารถในด้านเวอร์ชวลไลเซชันอันโดดเด่น พิสูจน์ได้จากการทดสอบเบนช์มาร์คชั้นนำทั่วโลกภายใต้ virtual machine ซึ่งความสามารถดังกล่าวสูงกว่าเทคโนโลยีเพาเวอร์ ซิกส์ถึง 4 เท่า 

.

- ความสามารถในด้านการประหยัดพลังงาน เพาเวอร์เซเว่นมาพร้อมกับเทคโนโลยีและฟังก์ชันอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน (Intelligent Energy Optimization) ได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นความสามารถที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกเปิด ปิดการทำงานบางส่วนของเครื่องได้ หรือความสามารถในการปรับเพิ่มหรือลดความเร็วของคล็อกสปีดให้ช้าหรือเร็วขึ้นตามอุณหภูมิของหน่วยประมวลผลหรือปริมาณงานของระบบในขณะนั้น

.

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลพวงมาจากเทคโนโลยีชั้นนำใหม่ ๆ มากมายที่มาพร้อมกับเพาเวอร์เซเว่น เช่น เทอมัล เพาเวอร์ แมเนจเมนท์ ดีไวซ์ (Thermal Power Management Device) ไอบีเอ็ม แอคทีฟ เอเนอร์จี แมเนเจอร์ (IBM Active Energy Manager) หรือ อีเนอร์จี สเกล (EnergyScale) ฯลฯ เป็นต้น 

.

- การรองรับโซลูชันได้มากกว่า 6,000 แอพพลิเคชัน เพาเวอร์เซเว่นได้รับการยอมรับจากผู้พัฒนาโซลูชันชั้นนำทั่วโลกซึ่งล่าสุดให้ความไว้วางใจเลือกพัฒนาโซลูชันมากกว่า 6,000 แอพพลิเคชันของตนให้สามารถทำงานได้บนแพลตฟอร์มของเพาเวอร์เซเว่น ไม่ว่าจะเป็นบนระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ ลินุกซ์ หรือ ไอ โอเอส 

.

- ความคุ้มค่าการลงทุน ทั้งนี้เพราะเพาเวอร์เซเว่นมาพร้อมกับความสามารถที่รองรับแอลพาร์ หรือ เวอร์ชวลเซิร์ฟเวอร์ได้ถึง 1,000 พาร์ติชันภายในเครื่องเดียว ช่วยให้องค์กรสามารถวิ่งระบบงานได้มากขึ้นกว่าที่เพาเวอร์ซิกส์เคยทำได้ถึง 4 เท่า

.

นอกจากนั้นไอบีเอ็มยังเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ เพาเวอร์ ซิสเต็มส์ รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีเพาเวอร์เซเว่น มากมาย อาทิเช่น
- ไอบีเอ็ม เพาเวอร์ 780 เซิร์ฟเวอร์ระดับไฮเอนด์ สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมกับชิพเพาเวอร์เซเว่นจำนวน 64 คอร์ เพื่อความสามารถและประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนระบบงานได้หลากหลายประเภท          

.

นอกจากนั้น เพาเวอร์ 780 ยังมาพร้อมกับ ‘เทอร์โบ คอร์’ โหมดการทำงานพิเศษที่ผู้ใช้สามารถเลือกเพื่อเร่งสมรรถนะและความสามารถของซีพียูในเซิร์ฟเวอร์ให้เพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการในการสนับสนุนการทำงานของแอพพลิเคชันบางประเภทอีกทั้งช่วยองค์กรลดค่าใช้จ่ายไปพร้อม ๆ กัน

.

- ไอบีเอ็ม เพาเวอร์ 750 เอ็กซ์เพรส เซิร์ฟเวอร์สำหรับองค์กรระดับกลาง ที่มีจุดเด่นเรื่องสมรรถนะ ความสามารถในการประหยัดพลังงาน และความคุ้มค่าการลงทุน สามารถรองรับเวิร์คโหลดได้หลากหลายประเภท ช่วยองค์กรลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

.

สำหรับการเปิดตัวเพาเวอร์เซเว่น ครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการต่อยอดความสำเร็จในตลาดเซิร์ฟเวอร์ของไอบีเอ็มทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทยเอง ที่ไอบีเอ็มสามารถครองอันดับหนึ่งส่วนแบ่งตลาดเซิร์ฟเวอร์ ในกลุ่มเพาเวอร์ ซิสเต็มส์ได้ถึง 6 ไตรมาสติดต่อกัน *(ตั้งแต่ไตรมาสสองปี 2551 ถึงไตรมาสสามปี 2552 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 41.2%, 49.9%, 35.9% 36.9%, 51.4% และ 51.7% ตามลำดับ)

.

หรือในต่างประเทศที่ไอบีเอ็มสามารถขยายส่วนแบ่งตลาดเซิร์ฟเวอร์ในกลุ่มยูนิกซ์ทั่วโลกได้ถึง 12 เปอร์เซ็นต์ ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา (จนถึงไตรมาสสาม ปี 2552)** ด้วยรายได้รวมมากกว่า 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยความสำเร็จดังกล่าว ส่วนหนึ่งมาจากการที่ลูกค้าองค์กรชั้นนำกว่า 2,200 แห่งทั่วโลก จากหลากหลายประเภทธุรกิจ ให้ความไว้วางใจเปลี่ยนการใช้งานจากเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้อยู่เดิมมาเป็นเพาเวอร์ ซิสเต็มส์โดยเฉพาะในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา

.

นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจคอมพิวเตอร์ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ในปัจจุบัน องค์กรหลายแห่งต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ตลอดจนความผันผวนและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของตลาด รวมไปถึงการแข่งขันในรูปแบบต่าง ๆ มากมาย

.

ผนวกกับความต้องการขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อสร้างแต้มต่อให้กับธุรกิจขององค์กร” นอกจากนั้นนายธนพงษ์ ยังกล่าวเสริมอีกว่า “ไอบีเอ็มเล็งเห็นความต้องการและเข้าใจความท้าทายดังกล่าว

.

อีกทั้งเพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จและความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีที่มีมาอย่างยาวนาน ไอบีเอ็มจึงมีความยินดีนำเสนอเทคโนโลยี เพาเวอร์เซเว่น เพื่อช่วยตอบโจทย์ความท้าทายของธุรกิจไทยทั้งในด้านการลดค่าใช้จ่าย เพิ่มผลผลิต ประสิทธิภาพการทำงาน หรือความคุ้มค่าในการลงทุน เสริมกำลังในการขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อเอาชนะความท้าทายรวมทั้งการแข่งขันรอบด้านขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

.

สำหรับลูกค้าองค์กรที่ต้องการเปลี่ยนการใช้งานจากเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้อยู่เดิมมาเป็นเพาเวอร์ ซิสเต็มส์ ของไอบีเอ็มโดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบงานที่ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ ไอบีเอ็มพร้อมให้บริการแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการให้คำปรึกษา ประเมินผล ติดตั้ง ฯลฯ ด้วยทีมงานที่มีความรู้ความชำนาญและเทคโนโลยีระดับโลก เพื่อให้การย้ายระบบสามารถทำได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ราบรื่น และเกิดผลกระทบต่อการทำงานและระบบงานขององค์กรน้อยที่สุด