เนื้อหาวันที่ : 2010-02-04 09:01:11 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 3300 views

ปตท.รุกธุรกิจถ่านหินต่างประเทศเต็มตัว 4 แบงก์หนุน 380 ล้านเหรียญ

ปตท. เตรียมรุกธุรกิจถ่านหินในต่างประเทศ เสริมศักยภาพด้านพลังงาน ได้ 4 แบงก์ใหญ่สนับสนุนทางการเงินร่วม 380 ล้านเหรียญสหรัฐ

ปตท. เตรียมรุกธุรกิจถ่านหินในต่างประเทศ เสริมศักยภาพด้านพลังงาน ได้ 4 แบงก์ใหญ่สนับสนุนทางการเงินร่วม 380 ล้านเหรียญสหรัฐ

.

.

กลุ่มบริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) หรือ PTT แสดงศักยภาพในการดำเนินธุรกิจด้านพลังงาน  ล่าสุดเตรียมรุกธุรกิจถ่านหินในต่างประเทศ  โดยดำเนินการผ่าน Straits Asia Resources Limited (SAR) ในประเทศอินโดนีเซีย โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงไทยเป็นแกนนำ (Joint Lead Arranger) ในการสนับสนุนทางการเงินร่วมกับ ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด เป็นจำนวนทั้งสิ้น  380 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 12,500 ล้านบาท

.

ดร. จิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปตท.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(PTT International Co., Ltd) เปิดเผยว่า “ความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศนั้นขึ้นอยู่กับความมั่นคงของแหล่งที่มาของพลังงาน  ในปัจจุบัน จากการที่ทุกประเทศได้เร่งรัดพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ จึงทำให้มีความต้องการพลังงานอย่างมหาศาล  โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาอย่างในกลุ่มประเทศอาเซียน          

.

แหล่งพลังงานจากถ่านหินจึงเป็นพลังงานทางเลือกที่สำคัญในการทดแทนน้ำมันดิบ ซึ่งราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีจุดเด่นหลายประการ อาทิ เป็นเชื้อเพลิงที่มีต้นทุนต่ำกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่นๆ และมีอุปทานต่อเนื่องในระยะยาว โดยมีปริมาณสำรองค่อนข้างมาก กระจายตัวออกไปทุกภูมิภาคทั่วโลก และด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่สามารช่วยลดปัญหามลภาวะให้น้อยลง  จึงส่งผลให้ธุรกิจถ่านหินเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง

.

ในส่วนของเป้าหมายการดำเนินงาน  กลุ่ม ปตท. ต้องการขยายธุรกิจให้มีความต่อเนื่อง  โดยลงทุนในเหมืองถ่านหินเดิม  ซึ่งในปี 52 มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 9 ล้านตัน  คาดว่า ในปี 2553 จะมีกำลังผลิตเพิ่มเป็น 11-12 ล้านตัน และภายใน 5 ปีข้างหน้าจะมีกำลังผลิตได้ถึง 20 ล้านตัน  ถ่านหินที่ผลิตได้จะส่งออกไปยังญี่ปุ่น ฮ่องกง และจีน                       

.

ซึ่งการขยายธุรกิจก็เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการเติบโตของกลุ่มปตท. ในระยะยาว โดยประเมินรายได้จากการทำเหมืองถ่านหินน่าจะอยู่ที่ 500-600 ล้านเหรียญสหรัฐ  การเดินหน้าในธุรกิจถ่านหินของกลุ่ม ปตท. ในครั้งนี้ เป็นช่องทางหนึ่งที่จะช่วยผลักดันให้เกิดพลังงานทดแทน และพลังงานทางเลือกอย่างยั่งยืน  ควบคู่ไปกับโอกาสที่ดีในอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในอนาคต

.

ทั้งนี้ Straits Asia Resources Limited Pte., Ltd (SAR) ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายถ่านหินในประเทศอินโดนีเซีย   โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสิงคโปร์และเข้าจดในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์  ผู้ถือหุ้นหลักของบริษัทฯ คือ PTT Asia Pacific Mining Pty Ltd. (PTT APM)  บริษัทจดทะเบียนในประเทศออสเตรเลีย  ถือหุ้นโดยประมาณ 45.6% ของทั้งหมด  ซึ่ง PTTAPM  ถือหุ้นโดย Straits Resources Limited (40%) และบมจ. ปตท. (60%) ผ่านบริษัท Lints ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ PTT International 

.

นางกรรณิกา  ชลิตอาภรณ์   กรรมการผู้จัดการใหญ่  ธนาคารไทยพาณาณิชย์ เปิดเผยว่า “ธนาคารร่วมกับธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ให้การสนับสนุนทางการเงิน  เพื่อผลักดันการดำเนินธุรกิจเหมืองถ่านหิน ของกลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด ผ่านบริษัท Straits Asian Resources (SAR) ซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในสิงคโปร์ครั้งนี้

.

นับเป็นความร่วมมือทางธุรกิจที่สำคัญ  เนื่องจากเป็นการปล่อยสินเชื่อให้แก่บริษัทที่จดทะเบียนในต่างประเทศ  ด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพความแข็งแกร่งของสถาบันการเงินไทยที่พร้อมสนับสนุนให้ภาคธุรกิจได้ขยายตัวไปต่างประเทศอย่างไม่มีขีดจำกัด

.

ตอกย้ำถึงความพร้อมในการให้บริการทางการเงินในระดับมาตรฐานสากล  ในขณะเดียวกัน ยังถือเป็นช่องทางที่ธนาคารพาณิชย์ที่ปล่อยกู้จะได้มีโอกาสสำรวจตลาดในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีกด้วย  จึงเชื่อมั่นว่าเงินทุน ดังกล่าวจะเป็นทุนหมุนเวียนสำหรับกิจการของ SAR และเสริมฐานความเข้มแข็งให้กับกลุ่ม ปตท. ได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง