เนื้อหาวันที่ : 2010-02-02 17:06:31 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1488 views

ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ เผยซีอีโอยังมุ่งลดต้นทุนในแผนงานด้านไอที

ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ เผยการลดต้นทุนจะยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในแผนงานหลักด้านไอทีปี 2553 แม้ซ๊อีโอในเอเชียแปซิฟิกจะเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว

ซีไอโอในเอเชียแปซิฟิกเชื่อมั่นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ระบุชัดในรายงานผลสำรวจของบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ การลดต้นทุนจะยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในแผนงานหลักด้านไอทีปี 2553

.

นายวัชรสิทธิ์ สันติสุขนิรันดร์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์

.

แม้ว่าในช่วงปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกจะยังคงแสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นอน แต่ซีไอโอ (CIO) ส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเชื่อว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะเริ่มเห็นเด่นชัดขึ้นในปี 2553 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้มาจากรายงานการสำรวจที่เปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้    

.

โดยได้สรุปความเชื่อของบรรดาซีไอโอที่มีต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจผ่านแบบสำรวจซึ่งดำเนินการโดยบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ คอร์ปอเรชั่น หรือ เอชดีเอส ธุรกิจในเครือของบริษัท ฮิตาชิ จำกัด (ชื่อในตลาดหุ้นนิวยอร์ก: HIT) ภายในงานประชุมซีไอโอประจำปีเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยซีไอโอส่วนใหญ่ (86%) เชื่อว่าการฟื้นตัวจะเริ่มเข้าที่ในปี 2553

.

รายงานที่มีชื่อว่า “แนวทางสู่การฟื้นตัวของซีไอโอ” (CIO Roadmap to Recovery) ได้สรุปความท้าทายสำคัญของซีไอโอในปี 2553 และความต้องการขององค์กรธุรกิจที่จะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นหน่วยธุรกิจแบบศูนย์กลางที่คล่องตัว เน้นสิ่งแวดล้อม และยืดหยุ่นมากขึ้น           

.

โดยรายงานดังกล่าวยังให้รายละเอียดการวิเคราะห์และแผนปฏิบัติการที่ซีไอโอและผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีสามารถใช้เงินทุนที่มีอย่างจำกัดไปยังส่วนเป้าหมายเฉพาะเพื่อให้ได้รับมูลค่าทางธุรกิจเชิงกุลยุทธ์สูงสุดเท่าที่จะเป็นไปจากไอทีด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

.

“ซีไอโอต้องเผชิญกับความท้าทายด้วยงบประมาณด้านไอทีที่คงที่ขณะที่ต้องจัดการกับข้อมูลที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมหาศาล ในระหว่างที่องค์กรธุรกิจกำลังค่อยๆ ก้าวเข้าสู่ภาวะฟื้นตัว ซีไอโอจำเป็นต้องพยายามและพิจารณาอย่างหนักในส่วนต่างๆ ที่จะสนับสนุนการสร้างเฟรมเวิร์กด้านไอทีที่ยืดหยุ่น   

.

ซึ่งจะให้ผลลัพธ์และช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จในช่วงฟื้นตัวของเศรษฐกิจ บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ซึ่งให้ความสำคัญกับการช่วยบริษัทต่างๆ ในการกำจัดค่าใช้จ่ายที่ซ้ำซ้อนจากการใช้ระบบจัดเก็บข้อมูลด้วยการใช้ประโยชน์สินทรัพย์ที่มีอยู่           

.

ทั้งนี้ การใช้เทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์ เช่น ระบบเสมือนจริง และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างดิสก์อย่างอิสระ จะทำให้เกิดการใช้ประโยชน์เพิ่มขึ้นและมีประสิทธิภาพโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถกำหนดเป้าหมายด้านไอทีและธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด” นายวัชรสิทธิ์ สันติสุขนิรันดร์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ กล่าว

.

ผลการสำรวจแสดงให้เห็นถึงลำดับความสำคัญด้านการลงทุนในปี 2553 ของซีไอโอ และการบริหารต้นทุนยังคงเป็นข้อกังวลที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เป็นที่คาดการณ์ว่าองค์กรไอทีจะก้าวจากศูนย์กลางต้นทุนไปเป็นศูนย์กลางกำไรเพิ่มขึ้น โดยที่ กลยุทธ์ด้านระบบจัดเก็บข้อมูลซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ (OPEX) ได้นั้นจะกลายเป็นลำดับสำคัญสูงสุดสำหรับซีไอโอในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

.

การลดต้นทุนยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับซีไอโอเมื่อถูกถามเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญสูงสุดในกลยุทธ์ด้านไอทีภายในองค์กรของตน และการลดต้นทุนการดำเนินงานถือเป็นลำดับต้นๆ ของผลการสำรวจ (50%) ซึ่งสูงกว่าการนำเทคโนโลยีไปใช้       

.

สำหรับความเชื่อที่มีต่อการปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ในเอเชียแปซิฟิกนั้น มีสัดส่วนอยู่ในระดับสูง โดย 73% ของซีไอโอแสดงความสนใจต่อการติดตามเทคโนโลยีใหม่และเป็นผู้แรกที่ได้นำเทคโนโลยีใหม่ดังกล่าวมาปรับใช้    

.

อย่างไรก็ตาม เกือบ 50% ของซีไอโอได้แสดงความคิดเห็นว่าการไร้ความสามารถในการคำนวณผลประโยชน์ทางการเงิน (อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน) จากโครงสร้างพื้นฐานด้านสารสนเทศที่ได้รับการปรับปรุง ถือเป็นอุปสรรคสำคัญยิ่งในการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบสารสนเทศใหม่

.

รายงานฉบับนี้ยังได้ให้มุมมองที่มีค่ายิ่งเกี่ยวกับการปรับใช้ไอทีที่สามารถใช้เป็นตัวช่วยขององค์กรธุรกิจได้ ตลอดจนกลยุทธ์ด้านไอทีแบบยั่งยืน และเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นจำนวนมาก อย่างเช่น การประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud Computing)

.

การสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นเมื่อซีไอโอและตัวแทนระดับสูงด้านไอทีขององค์กรชั้นนำทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเข้าร่วมงานประชุมซีไอโอในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ (Hitachi Data Systems Asia Pacific CIO Summit) ณ เมืองโกตาคินาบาลู ประเทศมาเลเซีย เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยงานประชุมดังกล่าวถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับทีมบริหารด้านไอทีระดับสูงจากทั้งภูมิภาคในการมาพบปะและแลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างกันเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ