เนื้อหาวันที่ : 2007-01-12 10:02:33 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1300 views

ปตท.สผ.ตั้งงบลงทุนปีนี้กว่า 70,000 ล้านบาท

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ตั้งงบลงทุนปีนี้ไว้ประมาณ 70,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิม โดยเตรียมออกหุ้นกู้เพิ่มเติมวงเงินไม่เกิน 20,000 ล้านบาท

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ.ตั้งงบลงทุนปีนี้ไว้ประมาณ 70,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิม เพราะมีแผนจะสำรวจแหล่งปิโตรเคมีเพิ่มในต่างประเทศรวมทั้งพัฒนาหลุมสำรวจเพิ่มขึ้น โดยเตรียมออกหุ้นกู้เพิ่มเติมวงเงินไม่เกิน 20,000 ล้านบาท ขณะที่ปีที่แล้ว คาดมีกำไรสุทธิประมาณ 27,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2548

.

นายมารุต มฤคทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 70,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ตั้งงบลงทุนไว้ 50,000 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะสำรวจแหล่งปิโตรเคมีเพิ่มในประเทศพม่า เวียดนามและแอลจีเรีย รวมทั้งพัฒนาหลุมสำรวจเพิ่ม ส่วนงบลงทุนช่วง 5 ปี (2549-2553) 200,000 ล้านบาทนั้น ทางบริษัทยังไม่ได้ปรับเพิ่มงบลงทุนโดยรวมแต่อย่างใด เพราะขึ้นอยู่กับสถานการณ์แต่ละช่วงปีว่าจะมีการเพิ่มหลุมสำรวจและพัฒนาหลุมหรือไม่

.

นายมารุต กล่าวว่า จากการที่บริษัทเพิ่มงบลงทุนจึงจำเป็นที่จะต้องออกหุ้นกู้เพิ่มเติมวงเงินไม่เกิน 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะเสนอขออนุมัติคณะกรรมการบริษัทสิ้นเดือนมกราคมนี้ ในเบื้องต้นคาดว่าจะแบ่งขายเป็นล็อต ๆ ส่วนอัตราดอกเบี้ยและอายุหุ้นกู้รวมทั้งระยะเวลาที่จะเสนอขาย คาดว่าไม่เกินครึ่งแรกของปีนี้ โดยบริษัทต้องรอดูผลกระทบของมาตรการกันสำรองร้อยละ 30 ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ว่า จะมีผลต่อการเสนอขายหุ้นกู้ต่างประเทศหรือไม่ เพื่อประกอบการพิจารณาสกุลเงินหุ้นกู้

.

สำหรับแผนงานปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีปริมาณขายปิโตรเลียมไว้ที่ 177,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปี 2549 ที่มีปริมาณขายปิโตรเลียม 150,000-160,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน โดยปีนี้จะมีน้ำมันดิบจากแหล่งนางนวลเข้ามาเพิ่มในช่วงไตรมาสที่ 2 นอกจากนี้ ยังมีการเจาะหลุมเพิ่มอีก 5-6 หลุม ส่วนในปี 2549 บริษัทคาดว่าจะมีกำไรสุทธิประมาณ 27,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ที่มีกำไรสุทธิ 23,000 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นและปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น ส่วนรายได้ปี 2549 คาดว่าจะเติบโตประมาณร้อยละ 8 จากปี 2548 ที่มีรายได้ 69,000 ล้านบาท.