เนื้อหาวันที่ : 2010-01-12 11:10:39 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2087 views

HTECH ทุ่มงบ 63 ลบ. ซื้อเครื่องจักรเพิ่มรับออเดอร์ทะลัก

แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ ทุ่มงบลงทุนปี 53 เพิ่มเป็น 63 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรเพิ่มกระทุ้งกำลังการผลิตโต 25-50% หลังอุตฯ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์-HDDฟื้น

แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ ทุ่มงบลงทุนปี 2553 เพิ่มเป็น 63 ล้านบาท จากเดิม 35 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรเพิ่ม รองรับกำลังการผลิตและออเดอร์ทะลักตั้งแต่ปลายปีก่อน หลังอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์-HDDฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ

.

'พีท ริมชลา' กรรมการผู้จัดการ มั่นใจกระตุ้นกำลังการผลิตครึ่งปีแรกเพิ่มเป็น 25% และ 50% ในครึ่งปีหลัง พร้อมตั้งเป้าปีนี้กวาดรายได้ 350 ล้านบาท ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นโตไม่ต่ำกว่าปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ ระดับ 27% 

.

นายพีท ริมชลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

.

นายพีท ริมชลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ HTECH เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และอุตสาหกรรมชิ้นส่วน HARD DISK DRIVE (HDD) ที่ฟื้นตัวตามภาวะทางเศรษฐกิจ ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังปี 2552

.

ส่งผลทำให้มียอดคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน - ต้นธันวาคมปี 2552 บริษัทได้ลงทุนติดตั้งเครื่องจักรแล้ว 3 เครื่อง มูลค่ารวมประมาณ 41 ล้านบาท ได้แก่ 

.

เครื่อง PCD Grinding จำนวน 1 เครื่อง เครื่อง Carbide Grinding จำนวน 1 เครื่อง และเครื่อง Wire cut จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตในครึ่งปีแรกของปี 2553 เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 25% เมื่อเทียบกับกำลังผลิตของปีก่อน แต่คาดว่ากำลังการผลิตยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ แม้จะเดินเครื่องเต็ม 100% ก็ตาม 

.

ดังนั้นในปี 2553 บริษัทจึงเตรียมลงทุนซื้อเครื่องจักรเพิ่มเป็นจำนวน 5 เครื่อง มูลค่าประมาณ 63 ล้านบาท เพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์เก่าและใหม่ที่บริษัทดำเนินการอยู่ ประกอบด้วย เครื่อง PCD Grinding จำนวน 1 เครื่องใช้ผลิต PCD cutting tools เช่น PCD Drill , เครื่อง Carbide Grinding จำนวน 2 เครื่อง เพื่อใช้ผลิต Carbide Cutting Tools

.

และเครื่อง Wire cut อีกจำนวน 2 เครื่อง สำหรับผลิตภัณฑ์ Hollow toolsโดยจะเริ่มทยอยเข้ามาช่วงเดือนมีนาคม 2553 ซึ่งคาดว่ากำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นอีกเป็น 50% ในช่วงครึ่งปีหลัง เมื่อเทียบกับกำลังผลิตของปี 2552

.

"กำลังการผลิตของบริษัทเต็ม 100% ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว ทำให้ตัดสินใจซื้อเครื่องจักรใหม่เพิ่มในปีนี้ ซึ่งจากเดิมคาดว่าจะซื้อเพียง 3 เครื่อง มูลค่า35 ล้านบาท แต่จากคำสั่งซื้อที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องทำให้ต้องซื้อเพิ่มรวมเป็น 5 เครื่อง มูลค่า 63 ล้านบาท         

.

คาดว่าจะทยอยเข้ามาปลายมีนาคมและเริ่มติดตั้งช่วงไตรมาส 2/2553 ซึ่งเครื่องจักรใหม่เป็นเครื่องจักรที่นำมาผลิตผลิตภัณฑ์ทั้งใหม่และเก่าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างสูง" นายพีท กล่าว

.

สำหรับงบลงทุนส่วนหนึ่งนำมาจากการขายหุ้นสามัญที่เสนอขายให้กับบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 20 ล้านหุ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ เจรจากับกลุ่มพันธมิตรทั้งในประเทศและ ต่างชาติ คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ นอกจากนี้งบลงทุนยังจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัท และ/หรือจากการกู้ยืมสถาบันการเงินด้วย โดยปัจจุบันบริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) เพียง 0.38 เท่า ซึ่งถือว่าต่ำมาก

.

เขากล่าวทิ้งท้ายว่า แนวโน้มผลประกอบการปี 2553 คาดว่าจะมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 350 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสุทธิ (Net Margin) คาดว่าไม่น่าจะต่ำกว่าปี 2552 ที่เฉลี่ยประมาณ 27% โดยประเมินอุตสาหกรรมชิ้นส่วน HDD และอิเล็กทรอนิกส์ปีนี้คาดว่าน่าจะขยายตัวได้ประมาณ10-15% จากปี2552

.

เนื่องจากภาพรวมของ อุตสาหกรรมฯ ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง จากความต้องการสินค้าคอมพิวเตอร์ที่ต้องใช้ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟเป็นส่วนประกอบสำคัญมีเพิ่มสูงขึ้น