เนื้อหาวันที่ : 2013-05-07 13:43:38 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2927 views

การพ่ายแพ้อย่างมีคุณค่า

หากมีเพียงแต่ผู้ชนะตลอดกาลเราคงไม่เห็นความอิ่มเอมของชัยชนะที่ได้มาอย่างยากลำบาก และเช่นกันหากเราไม่ยอมรับและศึกษาความพ่ายแพ้

การพ่ายแพ้ อย่างมีคุณค่า


พิทักษ์ ศุภบัณฑิตย์กุล

“หากมีเพียงแต่ผู้ชนะตลอดกาลเราคงไม่เห็นความอิ่มเอมของชัยชนะที่ได้มาอย่างยากลำบาก และเช่นกันหากเราไม่ยอมรับและศึกษาความพ่ายแพ้ เราคงไม่รู้ว่าเจ้าความพ่ายแพ้นี่คือสิ่งที่มีคุณค่าที่ทำให้เราทราบถึงหนทางแห่งชัยชนะ”
    
      ในการแข่งขันฟุตบอล แน่นอนว่ามันต้องมีแพ้ ชนะ และเสมอ เช่นกันกับกีฬาอื่น ๆ แต่ด้วยกติกาการแข่งขันมันอาจมีจังหวะที่พอจะเสมอหรือแพ้ได้เช่นการเล่นแบบเหย้าเยือนหรือที่เรียกว่าระบบลีก ครั้งหน้าต้องชนะให้ได้ อีกแบบคือแพ้ได้ไม่เกินกี่ครั้งเพื่อให้ยังมีคะแนนนำทีมคู่แข่ง หรือเพื่อให้คะแนนนำกลุ่มของตัวเองเรียกว่าระบบแบ่งสาย ทัวร์นาเมนต์ นี่คือส่วนของระบบการแข่งขันที่ผมชี้แจงไปแล้วว่ามันสามารถที่จะอาศัยจังหวะบางช่วงเพื่อพาทีมให้รอดพ้นจากวิกฤติต่าง ๆ เช่น จำเป็นต้องเก็บผู้เล่นที่ยังไม่สมบูรณ์มีอาการบาดเจ็บ หรือผู้เล่นที่อาจต้องใช้เป็นไม้เด็ดในการแข่งขันแมตท์ต่อไปที่สำคัญกว่า และมีโอกาสในการเก็บชัยชนะมากกว่า นั่นคือการวางแผนระยะยาว มากกว่าการมองเพียงการแข่งขันแมตท์ต่อแมตท์


      กลับมาที่การดำเนินแผนงานบริหารองค์กร การมองไกลและเลือกที่จะใช้กำลังคนพร้อมด้วยยุทธวิธีในการสู้กับคู่แข่งขันสำหรับช่วงสถานการณ์ต่าง ๆ ก็ไม่ต่างกันนัก ทรัพยากรเรามีเท่าไร คนไหนถนัดอะไร ฝ่ายไหนทำอะไร ต้องเสริมเรื่องไหน ผู้บริหารก็สามารถสั่งการมาพร้อมลุยได้ตลอดโดยมีสตาฟฟ์คอยควบคุมแผนการ จึงไม่แปลกหากทีมงานใดมีความพร้อมในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเก็บข้อมูลคู่แข่งขัน การวางแผนทางการตลาด คุณภาพพนักงานที่โดดเด่นทุกขุมกำลัง

ขณะเดียวกันฝ่ายตรงข้ามหากมีจุดอ่อนใดที่เขาไม่สามารถปรับแก้ได้ทัน เขาก็จะจดจำข้อบกพร่องเขานำกลับไปแก้ไข และปรับกลยุทธ์เพื่อการแข่งขันในสถานการณ์ต่อไป ดังนั้นผลการแข่งขันแม้มันจะออกมาแพ้แบบเฉียดฉิว หรือแพ้ราบคาบ มันคือคุณค่าที่เราต้องนำมาคิดทบทวนว่ามันเกิดจากอะไร และเราจะแก้ไขมันได้อย่างไร

 แพ้เพราะอ่อนซ้อม

      เราคงเคยได้ยินคำว่า “แพ้เพราะอ่อนซ้อม” กันมาพอสมควร ส่วนใหญ่จะใช้กับคู่มวย และฟุตบอลเนื่องจากเป็นกีฬาที่ต้องใช้พละกำลังและจังหวะในการรุกรับมากพอสมควร การแพ้เพราะอ่อนซ้อมจึงพอเห็นภาพได้ว่าหากซ้อมมากกว่านี้อีกหน่อยคงจะไม่แพ้ หรือไม่น่าจะออกมาแพ้ขนาดนี้ อะไรคือการอ่อนซ้อมในองค์กร ตามปกติการทำงานทุกสายจะต้องมีการอบรม ประชุม และประเมินผลการทำงาน การทำงานไปเรื่อย ๆ ไม่สนใจจุดบกพร่องที่เกิดขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นความล่าช้า ข้อมูลที่ไม่ชัดเจน พนักงานที่ขาดงาน สาย ก่อให้เกิดงานคั่งค้าง หรืออุปกรณ์สำนักงานที่ขาดประสิทธิภาพต่าง ๆ

เหล่านี้คือสิ่งที่กลายเป็นเหมือนจุดด้อยขององค์กร ขาดจุดแข็ง และขาดประสิทธิภาพในการทำงาน เมื่อปล่อยปละละเลยไปทุกวัน กระทั่งวันหนึ่งเกิดมีคู่แข่งขันเข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาด ก็จะทำให้เกิดผลกระทบ เสียลูกค้าไป และหมายถึงรายรับที่หายไป ความเสียหายตามมาจากการไม่แก้ไข และไม่พร้อมนั้นมากมาย แต่หากองค์กรใดมีการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ

 และจัดอบรมพนักงานในเรื่องที่คาดการณ์ว่าจะต้องเจอ และเป็นจุดอ่อนของพนักงาน ก็จะเป็นการเพิ่มศักยภาพของทีมงาน และการประเมินการทำงานก็จะช่วยจำลองสถานการณ์ได้ว่าหากมีการแข่งขันเกิดขึ้น พนักงานที่พร้อมจะสามารถทำได้ตามแผนที่ผู้บริหารวางนโยบายให้

     การแพ้เพราะอ่อนซ้อมจึงเป็นเรื่องที่ต้องไล่เรียงปัญหาและตามแก้ไขจากเรื่องเล็ก ๆ ไปถึงเรื่องใหญ่ และควรเร่งแก้ไข โดยอย่าลืมว่าโลกปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย การสื่อสารที่รวดเร็ว จะทำให้คู่ต่อสู้หนีห่าง และพร้อมที่จะแย่งลูกค้าได้ตลอดเวลา คุณค่าของการพ่ายแพ้เพราะการอ่อนซ้อมจะเป็นบทเรียนราคาแพง และจะยิ่งมากขึ้นหากยังนิ่งเฉย
    

 แพ้เพราะพลาดจังหวะสำคัญ

      การแพ้แบบน่าเสียดายเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก แต่มันก็มากด้วยคุณค่า อย่างน้อยทุกคนในทีมก็พูดได้ว่ามันพลาดไปนิดเดียว ไม่ได้พลาดแบบหมดสภาพ สิ่งที่สะท้อนให้เห็นคุณภาพขององค์กรก็คือ มีการเตรียมพร้อมในการทำงานมากระดับหนึ่ง และมีขุมกำลังที่สามารถต่อกรกับใครก็ได้ แต่เป็นธรรมดาอยู่เองที่กลยุทธ์ใด ๆ ก็มักจะมีช่องโหว่ให้คู่ต่อสู้พลิกเกมกลับมาชนะได้ เพียงแต่ว่ากลยุทธ์ที่ดีย่อมต้องมีแผนซ้อนไว้อีกชั้นเพื่อความปลอดภัย บางองค์กรวางแผนสามซ้อนไว้อีก ตรงนี้ถือว่าเป็นการทำงานบนความไม่ประมาท


      อะไรบ้างที่เป็นจังหวะสำคัญ ลองนึกถึงสินค้าประเภทเครื่องดื่มแก้กระหาย แน่นอนว่าผู้ผลิตส่วนมากต้องโฆษณาสินค้าและปล่อยสินค้านี้ออกมาช่วงหน้าร้อนประมาณเดือนเมษายนของทุกปี บังเอิญว่าปีนั้นเกิดฝนตกหนักตลอดเมษายนฝนก็ยังตก ความกระหายน้ำเลยไม่ค่อยจะมีมากเท่าไร ทำอย่างไรจะแก้ไขให้สินค้าตัวนี้เกิดความแรงในการโฆษณา ขณะที่คู่แข่งขันใช้การโฆษณาด้านภาพพจน์แทนอย่างเช่น การจัดแคมเปญช่วยเหลือโรงเรียนยากจนในชนบท

การให้การช่วยเหลือการแข่งขันกีฬาอย่างทุ่มทุน สินค้าตัวใหม่ที่จะเอามาดับกระหายเลยส่ออาการวูบ อันนี้บางทีก็ต้องใช้กลยุทธ์เดียวกับคู่แข่งขันบ้าง เช่นจัดกิจกรรมการกุศลช่วยชุมชนเพียงแต่อาจเปลี่ยนกลุ่มไปไม่ให้ตรงเป้าหมายเดียวกัน หรืออาจต้องยืดเวลาการโฆษณาออกไปอีกเพื่อให้ความร้อนเข้ามาเป็นองค์ประกอบ อีกกรณีสมมุติหนึ่งก็คือการได้ตัวพรีเซนเตอร์ที่มีชื่อเสียงมาเป็นตัวเรียกลูกค้าชั้นดี มันจะเกิดการเปรียบเทียบสองชั้นคือ อย่างแรกผลิตภัณฑ์ อย่างสองคือภาพลักษณ์ของสินค้าอันเกิดจากแรงส่งของพรีเซนเตอร์ ยอดขายมันก็เอียงกันไปได้


    
แพ้อย่างตั้งใจ

     เป็นเรื่องแปลกที่มีการแพ้อย่างตั้งใจให้แพ้ มันต้องมาดูที่รายละเอียดครับ และต้องเปิดใจด้วยไม่อย่างนั้นภาษาฟุตบอลเขาเรียกว่า “ล้มบอล” เสียกันไปทั้งสโมสร คำว่าเปิดใจยอมรับว่าตั้งใจให้แพ้ก็คือ การพ่ายแพ้ครั้งนี้เป็นเพราะสภาพทีมอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ไม่พร้อมจะสู้จริง ๆ แต่ก็จะขอสู้อย่างสมศักดิ์ศรี และจะได้นำข้อบกพร่องต่าง ๆ อันส่งผลให้ทีมขาดความพร้อมไปแก้ไข อันนี้ถือว่าน่าชื่นชม มีสปิริตของนักสู้ อีกอย่างคือเป็นการวางแผน

สมมุติว่าผมมีบริษัทผลิตขนมปังยี่ห้อหนึ่งอร่อยขายดีมากลูกค้าชอบกระทั่งยี่ห้อขนมปังเริ่มติดหู วันดีคืนดีมีบริษัทน้องใหม่ผลิตขนมปังอีกยี่ห้อออกมา หอม สด ใหม่ และอร่อย แถมด้วยราคาที่ถูกกว่า ผมจะทำอย่างไรได้ สภาพคล่องการเงินผมก็น้อยลง เพราะเราเน้นการทำงานที่คุณภาพท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่เอาอย่างนี้


     ผมจัดการปล่อยให้ผลิตภัณฑ์ขนมปังผมไปตามธรรมชาติของมัน ลูกค้าอาจน้อยลง แต่มันก็ยังพอขายได้ ใครจะว่าขนมปังอีกยี่ห้ออร่อยกว่า ดีกว่า ถูกกว่า ช่างเขา ผมยอม แต่ผมมีผลิตภัณฑ์อีกอย่างคือขนมเวเฟอร์ที่อร่อยมาก ผมก็จัดการลุยเรื่องงานตลาดขนมเวเฟอร์แทนการไปลุยกับขนมปังที่ผมดูแล้วสู้ความแรงของเขาไม่ได้ สู้เอาเงินทุนมาทำโฆษณากับเวเฟอร์ที่เป็นขนมทำเงินของบริษัทอีกอย่างหนึ่งดีกว่า และเชื่อว่ามันคุ้มกับการยอมแพ้บางอย่างแต่ได้อีกอย่าง เราต้องมองภาพรวมและอาจต้องเว้นวรรคกับคำว่าศักดิ์ศรีบ้าง เพราะเราคือองค์กร มีพนักงานที่เราต้องรับผิดชอบชีวิตเขา


     การให้เกียรติกับคนที่แพ้ก็คือสิ่งที่ดีมาก ๆ และเป็นสปิริตที่ทุกคนชื่นชม เราจะเห็นได้จากการแข่งขันกีฬาที่ต้องมีการปะทะกันตลอดเกม อย่าง มวย ยูโด หรือฟุตบอล จบเกมคือจบจริง ๆ ไม่ถือโกรธ ไม่เย้ยหยัน และปลอบเพื่อนต่างทีมเมื่อเขายอมรับความพ่ายแพ้ คนทำธุรกิจย่อมมีโอกาสพลาดพลั้ง การที่เรามีจิตใจเป็นนักกีฬา เข้าช่วยเหลือตามความเหมาะสมกับองค์กรที่กำลังประสบปัญหา ให้เกียรติกับองค์กรที่เข้ามาขอความช่วยเหลือ นี่คือน้ำใจของคนทำธุรกิจแม้จะเป็นคู่แข่งแต่ก็ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรูกัน

คนแพ้ก็คือแบบอย่างให้คนอื่นได้ศึกษาเพื่อแก้ไข คนแพ้ก็เอาความแพ้มาศึกษาเป็นบทเรียนให้ตัวเองเพื่อสักวันหนึ่งจะได้กลับมาเป็นผู้ชนะได้สักวันหนึ่ง และต้องไม่ลืมบทเรียนจากความพ่ายแพ้ที่มีคุณค่าสำหรับองค์กร คิดบวกไว้ครับดีกว่าคิดลบแน่นอน

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 www.thailandindustry.com
Copyright (C) 2009 www.thailandindustry.com All rights reserved.

ขอสงวนสิทธิ์ ข้อมูล เนื้อหา บทความ และรูปภาพ (ในส่วนที่ทำขึ้นเอง) ทั้งหมดที่ปรากฎอยู่ในเว็บไซต์ www.thailandindustry.com ห้ามมิให้บุคคลใด คัดลอก หรือ ทำสำเนา หรือ ดัดแปลง ข้อความหรือบทความใดๆ ของเว็บไซต์ หากผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความนี้ไปใช้ ดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด