เนื้อหาวันที่ : 2010-02-18 17:53:46 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 3273 views

Hydrogen Car

ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นและยังมีความผันผวนทำให้ภาครัฐรณรงค์ประหยัดพลังงานอย่างหนัก ส่วนอีกซีกหนึ่งของโลกก็กำลังขะมักเขม้นค้นคว้านวัตกรรมยานพาหนะแบบไม่ใช้น้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิง รถยนต์พลังไฮโดรเจน เป็นต้น เพื่อแก้ปัญหาราคาน้ำมันที่แพงขึ้นกอปรกับปริมาณสำรองที่ลดลงในระยะยาว

วัชระ มั่งวิทิตกุล
Realyouenergy@yahoo.com

.

ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นและยังมีความผันผวนทำให้ภาครัฐรณรงค์ประหยัดพลังงานอย่างหนัก ส่วนอีกซีกหนึ่งของโลกก็กำลังขะมักเขม้นค้นคว้านวัตกรรมยานพาหนะแบบไม่ใช้น้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิง รถยนต์พลังไฮโดรเจน เป็นต้น เพื่อแก้ปัญหาราคาน้ำมันที่แพงขึ้นกอปรกับปริมาณสำรองที่ลดลงในระยะยาว

.

รูปที่ 1 รถใช้ไฮโดรเจน BMW รุ่น H2R

.

เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา รถแข่งที่ชื่อ H2Rจากค่าย BMW ได้ทำการเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ที่เมืองลอสแองเจริส ประเทศสหรัฐอเมริกา จุดเด่นของรถดังกล่าวคือ ใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิง รถคันนี้ของ BMW มีจุดต่างคือเป็นรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในแต่ใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง

.

จริง ๆ แล้วรถนี้ใช้เครื่องยนต์ชนิดเดียวกับรถซีดานรุ่น 760i มีกำลัง 286 แรงม้า อัตราเร่ง 0-60 ไมล์/ชั่วโมง ภายใน 6 วินาที และวิ่งได้เร็ว 187 ไมล์/ชั่วโมง จาการทดสอบที่สนามแข่ง Miramas ประเทศฝรั่งเศส โดยมีวัตถุประสงค์คล้าย ๆ กับค่ายรถอื่น ๆ กล่าวคือมีความตระหนักถึงราคาน้ำมันที่มีราคาสูงขึ้น ปริมาณน้ำมันบนโลกลดน้อยลง และรักษาสิ่งแวดล้อม และได้คำนึงถึงปัญหาเรื่องปริมาณปั๊มจำหน่ายไฮโดรเจนยังมีไม่แพร่หลาย ซึ่งยังมีไม่ถึง 100 แห่งทั่วโลก  

.

รถคันนี้จึงถูกออกแบบให้ใช้ Bi-fuel ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งไฮโดรเจนหรือน้ำมันเบนซิน (เช่นเดียวกับ รถ Taxi บ้านเราที่เติมได้ทั้งน้ำมันเบนซินและ ก๊าซ NGV) ถ้าขับในเขตเมืองจะใช้ไฮโดรเจนแต่ถ้าขับบนทางด่วนหรือมอเตอร์เวย์ เพียงกดปุ่มให้เปลี่ยนไปใช้น้ำมันเบนซิน และเมื่อขับอยู่ในโหมดไฮโดรเจนจนกระทั่งเกิน 345 KM โปรแกรมจะเปลี่ยนไปใช้น้ำมันอย่างอัตโนมัติได้อีก 800 KM

.

ถึงแม้ว่าการเผาไหม้ไฮโดรเจนของเครื่องยนต์สันดาปภายในจะยังก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมคือปลดปล่อย NOx ออกมาเล็กน้อย ในขณะที่รถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไม่ปลดปล่อยมลพิษออกมานอกจากน้ำ

.

แต่ BMW ย้ำว่าระดับ NOx ที่ออกจากท่อไอเสียอยู่ในระดับต่ำมาก ๆ และต่ำกว่าระดับมาตรฐานการปล่อยมลภาวะจากยานพาหนะของรัฐแคลิฟอร์เนีย (Super Ultra Low Emission Vehicle) ซึ่งจัดว่าเข้มงวดมาก ส่วนอีกประเด็นที่ยังมีการตั้งคำถามคือความปลอดภัย เนื่องจากรถนี้ใช้ไฮโดรเจนเหลว ซึ่งต้องเก็บภายใต้อุณหภูมิต่ำมาก (-253 C)

.

ถ้ารถยนต์มีการใช้งานเป็นประจำระบบ Cryogenic จะควบคุมอุณหภูมิโดยอัตโนมัติแต่ถ้าจอดรถยนต์ทิ้งไว้ 3-4 วัน ของเหลวจะเริ่มเดือดและไฮโดรเจนจะถูกปลดปล่อยทางท่อระบายอากาศ แต่ไฮโดรเจนมีอันตรายน้อยกว่าไอระเหยจากน้ำมันเบนซินเนื่องจากไฮโดรเจนมีน้ำหนักเบาจึงกระจาย เจือจางอย่างรวดเร็ว ซึ่งแม้กระทั่งถังไฮโดรเจนรั่วยังไม่ระเบิดเลย

.

BMW กำหนดแผนที่จะทำตลาดรถรุ่น BMW ซีรี่ส์ 7 ใช้ไฮโดรเจนในยุโรปในอีก 3 ปีข้างหน้า และคาดว่าจะออกสู่ตลาดอเมริกาประมาณปี 2010 เมื่อถึงเวลานั้นปั๊มจำหน่ายไฮโดรเจนให้เห็นมากขึ้นในเมืองใหญ่ ๆ 

.

รัฐบาลเยอรมันให้การสนับสนุนการพัฒนาปั๊มจำหน่ายไฮโดรเจน โดยมีเครื่องผลิตไฮโดรเจนภายในปั๊มเองเพื่อจะได้ไม่ต้องพึ่งท่อส่งไฮโดรเจน หรือรถบรรทุกไฮโดรเจนที่ยังต้องใช้น้ำมันดีเซลในการขนส่งอีก รัฐบาลสหรัฐจัดสรรงบประมาณ 190 ล้าน USD ระยะเวลา 5 ปี เพื่อสร้างปั๊มจำหน่ายไฮโดรเจน และบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ Shell Oil และ บริษัทผลิตรถยนต์ GM ร่วมกันเปิดปั๊มไฮโดรเจนแห่งใหม่ที่วอชิงตัน

.

ส่วนรัฐแคลิฟอร์เนียได้เซ็นต์สัญญาว่าจ้างบริษัท Air Products & Chemicalsซึ่งเป็นบริษัทเชี่ยวชาญด้านผลิตไฮโดรเจนของโลกซึ่งมีประสบการณ์สร้างปั๊มไฮโดรเจนมาแล้ว 30 แห่งทั่วโลก เพื่อทำการก่อสร้างปั๊มจำหน่ายไฮโดรเจน 24 แห่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย

.

สำหรับเทคโนโลยีในการผลิตไฮโดรเจนสำหรับรถยนต์พลังไฮโดรเจนได้แก่ วิธีอิเล็กโตรไลซิส (Electrolysis) ใช้น้ำเป็นวัตถุดิบ และวิธีการเผาไหม้ไพโรไลซีส ใช้ชีวมวลพวกเศษไม้ หรือของเหลือทางการเกษตรเป็นวัตถุดิบ โดยวิธีอิเล็กโตรไลซีสเป็นเทคโนโลยีที่คุ้มค่าสำหรับประเทศที่มีราคาน้ำมันเบนซินแพง ๆ อย่างประเทศในยุโรป

.

โดยประเทศเยอรมันกำลังทดลองสร้างปั๊มไฮโดรเจนที่ใช้ระบบอิเล็กโตรไลซิสและใช้พลังงานลมในการแยกไฮโดรเจนออกจากน้ำ ที่ต้นทุน 2 USD/kg ไฮโดรเจน แต่วิธีอิเล็กโตรไลซิสอาจจะไม่เหมาะกับประเทศสหรัฐ เนื่องจากระบบอิเล็กโตรไลซิสต้องใช้ไฟฟ้าในการแยกไฮโดรเจนออกจากน้ำ ต้นทุนการผลิตไฮโดรเจนด้วยวิธีนี้ประมาณ 2.5 USD/kg ไฮโดรเจน (1 kg ไฮโดรเจน ให้พลังงานเทียบเท่า 1 แกลลอนน้ำมันเบนซิน) 

.

แต่อย่างไรก็ตามทางสหรัฐยังมีความพยายามที่จะพัฒนาระบบอิเล็กโตรไลซิสมาใช้ในประเทศตามความเหมาะสม กล่าวคือจะเลือกใช้เทคโนโลยีนี้กับพื้นที่ ๆ มีแหล่งผลิตไฟฟ้าราคาถูกจากพลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ ดังรูปแผนที่แสดงศักยภาพของชีวมวล พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ของประเทศสหรัฐ จะเห็นว่าพื้นที่ในทิศตะวันตกของประเทศจะมีศักยภาพในการใช้พลังงานลมและแสงอาทิตย์มาผลิตไฟฟ้า 

.

รูปที่ 2 แผนที่แสดงศักยภาพพลังงานทดแทนของประเทศสหรัฐอเมริกา

.

ส่วนวิธีการเผาไหม้ไพโรไรซีสโดยใช้ชีวมวล สหรัฐมีศักยภาพสูง ต้นทุนการผลิตไฮโดรเจนจากวิธีนี้ยังแพงอยู่ที่ 3 USD/kg ไฮโดรเจน แต่นักวิจัยคาดว่าต้นทุนจะลดลงอยู่ที่ 2.6 USD/kg ในปี 2010 และด้วยปริมาณชีวมวลที่มีอยู่ ทำให้ในอนาคตอันใกล้สหรัฐจะสามารถผลิตไฮโดรเจนจากชีวมวลไว้ใช้โดยไม่ต้องพึ่งพาการผลิตไฮโดรเจนจากก๊าซธรรมชาติอย่างปัจจุบัน ซึ่ง 90% ของไฮโดรเจนได้มาจากก๊าซธรรมชาติ

.

• อิเล็กโตรไลซิส ใช้ไฟฟ้าแยกไฮโดรเจนออกจากน้ำ
ต้นทุน 2.0 USD/kg สำหรับโรงผลิตขนาดใหญ่
ต้นทุน 2.5 USD/kg สำหรับปั๊มขนาดเล็ก
• ชีวมวล ใช้ของเหลือใช้ทางการเกษตร โดยการเผาไหม้ไพโรไลซิส
ต้นทุน 2.6-3.0 USD/kg ไฮโดรเจน
• เชื้อเพลิงเหลว (NG รวมถึง ถ่านหินเหลว)
ต้นทุน 1.5 USD/kg ไฮโดรเจน

.

ประสิทธิภาพของรถ H2R 187 ไมล์/ชั่วโมง อัตราเร่ง 6 วินาที ถือว่าเป็นเพียงการเริ่มต้น ในขณะที่ ราคาน้ำมันแพงขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนต้นทุนไฮโดรเจนมีแนวโน้มลดลง เราคงได้เห็นรถยนต์ใช้ไฮโดรเจนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและขยายไปยานพาหนะประเภทอื่นในอนาคตอันใกล้ 

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 www.thailandindustry.com
Copyright (C) 2009 www.thailandindustry.com All rights reserved.

ขอสงวนสิทธิ์ ข้อมูล เนื้อหา บทความ และรูปภาพ (ในส่วนที่ทำขึ้นเอง) ทั้งหมดที่ปรากฎอยู่ในเว็บไซต์ www.thailandindustry.com ห้ามมิให้บุคคลใด คัดลอก หรือ ทำสำเนา หรือ ดัดแปลง ข้อความหรือบทความใดๆ ของเว็บไซต์ หากผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความนี้ไปใช้ ดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด