News & Movement

เอบีบี ลงนามความร่วมมือทางวิชาการด้านระบบส่งกับ กฟผ.

          บริษัท เอบีบี จำกัด ผู้นำด้านเทคโนโลยีไฟฟ้ากำลังและเทคโนโลยีอัติโนมัติ และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการด้านระบบส่ง เพื่อถ่ายทอด แลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีและประสบการณ์ ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือกันทางด้านวิชาการของหน่วยงานทั้งสองในอนาคต ทั้งนี้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือได้รับการลงนามโดย นายชัยยศ ปิยะวรรณรัตน์, Managing Director Thailand, Myanmar, Cambodia and Laos, ABB Limited (กลางขวา) และ นายสุเทพ ฉิมคล้าย ผู้ช่วยผู้ว่าการบำรุงรักษาระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กลางซ้าย)

ฟูจิตสึ รวมพลังจัดกิจกรรมเพื่อสังคม ร่วมบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทย ครั้งที่ 17

          มร. อิจิ ฟูรูคาวา กรรมการผู้จัดการ (ที่ 7 จากซ้าย) และพนักงาน บริษัท ฟูจิตสึ ซีสเต็ม บีสซีเนส (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับสภากาชาดไทย จัดกิจกรรม“The 17th FSBT Voluntary Blood Donation Day 2016” รับบริจาคโลหิตเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่ขาดแคลนโลหิต โดยมีผู้บริหาร พร้อมด้วยพนักงาน 156 ท่าน ร่วมบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทย ประจำปี 2559 นับเป็นครั้งที่ 17 เพื่อเป็นการสำรองโลหิตไว้ช่วยเหลือผู้ป่วยและผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมที่ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งจากกิจกรรมบริจาคโลหิตร่วมกับทางสภากาชาดตั้งแต่ครั้งแรก จนถึงครั้งปัจจุบัน ฟูจิตสึมีผู้ร่วมบริจาคจำนวน 2,489 คน และจะมีการรวมพลกันทำกิจกรรมดี ๆ อย่างนี้อีกครั้งในเดือนธันวาคม 2559 นี้

มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา นำคณะนักศึกษาสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ และสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเยี่ยมชมเมโทรซิสเต็มส์ฯ

          มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา นำคณะนักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ และสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการเกษตร พร้อมอาจารย์ รวม 61 คน เข้าศึกษาดูงาน และฟังการบรรยายความรู้ด้านไอที จาก นายยงยุทธ ศรีวันทนียกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์โซลูชั่น บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดย นายมีลาภ โสขุมา Solution Architect ร่วมบรรยาย และนำเยี่ยมชมศูนย์สาธิตเทคโนโลยีต่างๆ ภายในบริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา

เลอโนโว ประเทศไทย เปิดตัวศูนย์บริการ Lenovo Service Centre แห่งแรกในประเทศไทย

          เลอโนโว ผู้นำยอดขายคอมพิวเตอร์อันดับ 1 นำโดย คุณเอ็ดดี้ อัง (ซ้ายสุด) ประธานฝ่ายปฎิบัติการ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค เลอโนโว และ คุณจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย เลอโนโว (ประเทศไทย) ได้ทำการเปิดตัวศูนย์บริการ Lenovo Service Centre แห่งแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2559 โดยศูนย์บริการดังกล่าวตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้า ไอทีมอลล์ ฟอร์จูน ชั้น 4 ซึ่งการเปิดตัวในครั้งนี้ถือเป็นมิติใหม่แห่งการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่งของเลอโนโว โดยเลอโนโวตั้งเป้าให้ศูนย์บริการดังกล่าวเป็นศูนย์การบริการที่ครบวงจร ด้วยการให้บริการที่รวดเร็ว ฉับไว ด้วยการบริการจากเจ้าหน้าที่และช่างผู้ชำนาญการจากเลอโนโวโดยเฉพาะ ที่พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าทุกท่าน และนำเสนอประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า

นักศึกษาม.เอเชียอาคเนย์แสดงผลงาน นวัตกรรม SAU IoT Smart Farming

          อาจารย์ณัฏฐ์ โอธนาทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยีการศึกษา มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ นำคณะนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขา IOT เข้าร่วมแสดงนวัตกรรม SAU IoT Smart Farming ซึ่งเป็นเครื่องมือเพื่อการวิเคราะห์ค่าคุณภาพทางวิทยาศาสตร์ ประกอบไปด้วยแผงวงจรในการวิเคราะห์ค่าอิเล็กทรอนิกส์ หุ่นยนต์เคลื่อนที่เร็ว และสมาร์ทโฟนระบบ GPS เพื่อตรวจเช็คสภาพค่าทางอากาศผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งคุณสมบัติของอุปกรณ์ SAU IoT Smart Farming เหมาะสำหรับการใช้งานของเกษตรกร ในการตรวจเช็คอุณหภูมิความชื้นในอากาศ วัดการให้แสง การให้น้ำ และเป็นการเพิ่มผลผลิตให้กับมูลค่าทางการเกษตรให้เพิ่มขึ้น โดยจัดขึ้นในงาน Digital Thailand 2016 ที่ผ่านมา

ผนึก 3 บริษัทไอทีชั้นนำ จัดสัมมนาเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้า

          บริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว จำกัด ร่วมกับ บริษัท ไพร์ม โซลูชั่น แอนด์ เซอร์วิส จำกัด และ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ จำกัด จัดสัมมนานำเสนอโซลูชั่นไอที ซีเคียวริตี้ เพื่อช่วยลดความยุ่งยากซับซ้อนในการจัดการที่ทุกผลิตภัณฑ์ทุกโซลูชั่นเป็นหนึ่งเดียวกัน คือการจัดการระบบแบบรวมศูนย์ ภายใต้การควบคุมเพียงจุดเดียว โดยช่วยสร้างโครงสร้างพื้นฐานแบบหนึ่งเดียว เพื่อให้องค์กรต่างๆคว้าโอกาสทางธุรกิจได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด ให้กับภาครัฐ และเอกชน

 

          ภาพจากซ้ายไปขวา: นายภาสกร คชพันธ์สุนทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว จำกัด นายมาดี สุธัมมะ ซีอีโอและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพร์ม โซลูชั่น แอนด์ เซอร์วิส จำกัด นายวีรภัทร รัชวรพงศ์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ จำกัด นายนักรบ เนียมนามธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว จำกัด และนายขจรเกียรติ โคสิตานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพร์ม โซลูชั่น แอนด์ เซอร์วิส จำกัด

ฮอนด้า สนับสนุน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดอบรมขับขี่ปลอดภัยเสริมศักยภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจ

          นายสมภพ ปฏิภานธาดา (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ พล.ต.ต.พิศิฐ ตันประเสริฐ (ที่ 3 จากขวา) ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดการอบรม "พัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจ" ซึ่งเป็นหลักสูตรพิเศษ เพื่อเพิ่มทักษะความรู้ความสามารถด้านการขับขี่ การควบคุมรถยนต์ในสถานการณ์ต่าง ๆ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพลขับรถยนต์ภารกิจถวายความปลอดภัยและรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ของกองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 ให้เกิดความความพร้อมและความมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ณ ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า กรุงเทพฯ (ถนนรามคำแหง)

ลอรีอัล ซิติเซ่น เดย์ (L’Oréal Citizen Day 2016) ครบรอบ 107 ปี ลอรีอัล กรุ๊ป รวมพลังทำประโยชน์คืนสู่สังคมอย่างยั่งยืน

          นาตาลี เกอร์ชไตน์ เคอโรวดี (แถวหน้า ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมทีมผู้บริหาร พนักงานจิตอาสากว่า 400 คน และ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม (แถวหน้า ซ้ายสุด) พรีเซนเตอร์การ์นิเย่ เมน ผลิตภัณฑ์ในเครือลอรีอัล ร่วมทำประโยชน์คืนสู่สังคมอย่างยั่งยืน ด้วยการปลูกต้นลำพู ทาสีเส้นทาง ปั่นจักรยาน ค่ายวิทยาศาสตร์ และ บริการตัดผมฟรี ในกิจกรรม ซิติเซ่น เดย์ (Citizen Day) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ลอรีอัลทั้ง 130 ประเทศทั่วโลกจัดต่อเนื่องมากเป็นปีที่ 7 ภายใต้คอนเซ็ปต์ I Feel Good to Do Good รู้สึกดี ที่ได้ทำ พร้อมสานต่อกลยุทธ์และนโยบายการดำเนินงานของบริษัท ที่มุ่งมั่นสร้างการเติบโต อย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจให้บรรลุเป้าหมาย “Sharing Beauty With All” หรือ "การแบ่งปันความงดงามให้ทุกสรรพสิ่ง” พร้อมร่วมฉลองในโอกาสครบรอบ 107 ปี ลอรีอัล กรุ๊ป ณ บางกระเจ้า สมุทรปราการ

“โฮมโปร” จัดสัมมนา คาร์บอนฟุตพริ้นท์

          นางสาวอรพิน ศิริจิตเกษม ผู้จัดการทั่วไป สายสื่อสารองค์กร บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ กิจกรรมชดเชยคาร์บอนและการประเมินคาร์บอนฟุต พริ้นท์ขององค์กรในภาคบริการ ภายใต้โครงการ “ขยายกิจกรรมชดเชยคาร์บอน เพื่อสนับสนุนตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจภายในประเทศปีที่ 3” เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจให้กับบุคลากรในองค์กร ให้นำไปสู่องค์กรนำร่อง ในด้านการลดปริมาณ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยมี ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านกลยุทธ์ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เป็นผู้ให้ความรู้ ณ โฮมโปร สำนักงานใหญ่

AJD อะลีบาบา และธนาคารกรุงไทย จัดงานสัมมนา อีคอมเมิร์ซทางเลือกที่ใช่ สำหรับผู้ประกอบการไทย สู่ตลาดใหม่ไร้พรหมแดน

          นายณัฐวัชร์ วรนพกุล (ที่ 1 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท คราวน์ เทค แอดวานซ์ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นางสุวรรณี สุขวัจน์ (ที่ 4 จากขวา) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารการเงิน ธนาคารกรุงไทย และ Mr.Wu Zhe, Jerry (ที่ 3 จากขวา) Country Manager of Alibaba Thailand ร่วมกับ นายสราวุฒิ สินสำเนา (ที่ 5 จากขวา) ประธานเครือข่ายหน่วยงานรัฐวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมภาคเหนือ (NNSPSME) จัดงานสัมมนา “อีคอมเมิร์ซทางเลือกที่ใช่ สำหรับผู้ประกอบการไทย สู่ตลาดใหม่ไร้พรหมแดน” ณ ห้อง CGV1 โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว

พิธีเปิด “โครงการพัฒนาสตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการใหม่ ประจำปี 2559”

          รศ.ดร.ชูวงค์ พงศ์เจริญพาณิชย์ รองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ร่วมในพิธีเปิด โครงการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ (Start Up) ปี 2559 เพื่อยกระดับความรู้ในการประกอบธุรกิจ โดยใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการ จัดโดย คณะวิศวกรรมศาสตร์ (สจล.) ร่วมกับวิทยาลัยนวัตกรรมการจัดการ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมพัฒนาการนำองค์ความรู้มาใช้ในการประกอบธุรกิจ ที่ตอบโจทย์สังคมและวิถีโลกที่เปลี่ยนแปลง เสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้ประสบผลสำเร็จ

สแกนเนีย สยาม ส่งมอบรถหัวลากประสิทธิภาพสูง แก่ เอ็น แอนด์ ดีดี อินเตอร์เนชั่นแนล

          บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด นำโดย มร.มาร์ติน นีลสัน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิ นายพงศ์ปัญญา ชาวคำ เจ้าหน้าฝึกอบรมการขับขี่สแกนเนีย และ นางสาวนุชนาถ สิงหพันธ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายรถบรรทุก บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด ส่งมอบรถหัวลากประสิทธิภาพสูง สแกนเนีย รุ่น P 360 LA6x2MSZ จำนวน 5 คันแรก จากทั้งหมด 10 คัน แก่ นายขวัญเมือง จันทร์โชติ กรรมการผู้จัดการ และ นายธีรภัทร จันทร์โชติ ผู้จัดการ บริษัท เอ็น แอนด์ ดีดี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเสริมศักยภาพงานขนส่งสินค้าทั่วประเทศและรองรับการขยายธุรกิจ

คณะวิศวลาดกระบังและมหาวิทยาลัยแห่งชาติชุงเฉิงผนึกความร่วมมือไทย-ไต้หวัน

          ไต้หวันเป็นอีกประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม รศ.ดร.คมสัน มาลีสี คณะบดีพร้อมด้วยผู้บริหารคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ให้การต้อนรับ ศาสตราจารย์เวิ่น นาง ลี่ (Prof.Wen Nung Lie) และคณะจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติชุงเฉิง หรือ CCU แห่งไต้หวัน (National Chung Cheng University) ผนึกความร่วมมือทางวิชาการและแลกเปลี่ยนนักศึกษา เพื่อร่วมพัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม เสริมทักษะประสบการณ์นักศึกษา และเครือข่ายทางวิชาการระหว่างประเทศไทยกับประเทศไต้หวัน

โคนิก้า มินอลต้า รับมอบประกาศนียบัตร ‘โรงงานสีขาว’

          มร.โอซาฟูมิ คาวามูระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคนิก้า มินอลต้า บิสสิเนส โซลูชันส์ (ประเทศไทย) จำกัด รับมอบประกาศนียบัตรสถานประกอบการตัวอย่างการบริหารจัดการด้านยาเสพติด ในโครงการ ‘โรงงานสีขาวและระบบมาตรฐานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด หรือ มยส.’ จาก หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน โดยประกาศนียบัตรดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า โคนิก้า มินอลต้า ประสบความสำเร็จด้านการจัดทำมาตรฐานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ก่อให้เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขัน เพื่อพร้อมเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ของประเทศไทยให้เจริญรุดหน้าอย่างยั่งยืน

ซีเกท ประเทศไทย รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่นด้านความปลอดภัย ประจำปี 2559

          นายนรเชษฐ์ แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิศวกรรม โรงงานเทพารักษ์ (แถวยืน กลางขวา) และ นายวิกรานต์ ลิ้มสวัสดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิศวกรรม โรงงานโคราช (แถวยืน กลางซ้าย) บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ รางวัลสถานประกอบการดีเด่นระดับประเทศ ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน ประจำปี 2559 จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ในงาน “สัปดาห์ความปลอดภัยใน การทำงานแห่งชาติ” ครั้งที่ 30 เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยซีเกท โรงงานเทพารักษ์และโรงงานโคราชได้รับรางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านความปลอดภัยเป็นเวลา 13 ปีซ้อน และ 10 ปีซ้อน ตามลำดับ

ฟูจิซีร็อกซ์ พรินเตอร์ ฉลองความสำเร็จผู้นำตลาดเครื่องพิมพ์สีต่อเนื่อง เปิดบ้านใหม่ พร้อมเพิ่มโซน ‘Service Center’ เอาใจลูกค้า

          กลุ่มธุรกิจ พรินเตอร์ บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย นายเจมส์ เฮนเดอร์สัน ประธานประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและจีนฯ ร่วมด้วย นายรังสรรค์ นรัจฉริยางกูร ผู้จัดการประจำประเทศไทยฯ พร้อมทีมงาน ร่วมทำบุญฉลองเปิดบ้านความสำเร็จเป็นผู้นำตลาดเครื่องพิมพ์สีตลอด 3 ปี ที่ผ่านมาด้วยส่วนแบ่งการตลาดเกือบ 1 ใน 4 พร้อมเดินหน้าต่อเนื่องทำตลาดผ่านกลยุทธ์ Customer First เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคู่ค้าและลูกค้าในปีนี้

 

          หลังย้ายสำนักงานมายัง อาคารซันทาวเวอร์ B ชั้น 34 ในปี พ.ศ.2554 ล่าสุด บริษัทฯ ได้ขยายส่วนงานบริการ พร้อมเพิ่มตัวแทนจำหน่ายเพื่อครอบคลุมการขาย และมีศูนย์ฝึกอบรมตัวแทนจำหน่ายภายในเพื่อรองรับการขยายตัว บนเนื้อที่ใช้สอยราว 490 ตารางเมตร

ทีมชนะเลิศ “การประกวดนวัตกรรมเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ ครั้งที่ 2” ศึกษาดูงาน ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูง เกาหลีใต้

          บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับสมาคมวิชาการหุ่นยนต์แห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือและมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำโดย รศ.ดร. ภูดิส ลักษณะเจริญ ประธานคณะกรรมการจัดการประกวดนวัตกรรมเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ ครั้งที่ 2 (ที่ 2 จากซ้าย) นำสมาชิกของทีมเม็คคาเอ็มเอสยู (MechaMSU) จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งชนะเลิศการแข่งขันในปีนี้รวมทั้งสื่อมวลชนศึกษาดูงาน ณ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูง เกาหลีใต้ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและต่อยอดศักยภาพในการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ

กรมโรงงานฯ ลดความเสี่ยงอันตรายในโรงงาน

          นายอภิจิณ โชติกเสถียร รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (คนกลาง) พร้อมด้วยผู้บริหารโรงงานเอกชน ร่วมเปิดงาน “Process Safety Workshop” กิจกรรมส่งเสริมความปลอดภัยของโรงงาน การบริหารจัดการความเสี่ยงการใช้สารอันตราย เพื่อกระตุ้นให้ภาคอุตสาหกรรมได้วางแผนป้องกัน โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท พัทยา จังหวัดชลบุรี

อิออน แจกทองผู้โชคดี แคมเปญ “ผ่อนทอง ลุ้นรับทองกับอิออน”

          คุณศรัณยา พิภพภิญโญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) มอบทองคำแท่ง หนัก 10 บาท มูลค่า 184,000 บาท ให้แก่ คุณพิพัฒน์ วังศรีแก้ว นอกจากนี้ยังมอบสร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์ มูลค่ารางวัลละ 9,700 บาท และแหวนทองคำ หนัก 25 สตางค์ มูลค่ารางวัลละ 4,900 บาท รวม 151 รางวัลมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 1,159,000 บาท ให้แก่ผู้โชคดีจากแคมเปญ “ผ่อนทอง ลุ้นรับทองกับอิออน” ซึ่งร่วมกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์–31 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา

เอมิเรตส์ และ ททท. ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย

          มร.บาเดอร์ แอบบาส (ที่ 4 จากขวา) รองประธานอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการเชิงพาณิชย์ ประจำภาคพื้นตะวันออกไกล สายการบินเอมิเรตส์ และ คุณจุฑาพร เริงรณอาษา (กลาง) รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ด้วยเครือข่ายจุดหมายปลายทางที่ครอบคลุมทั่วโลกของสายการบินเอมิเรตส์ โดยมีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมพิธีลงนามในครั้งนี้ อาทิ คุณยุทธศักดิ์ สุภสร (ที่ 4 จากซ้าย) ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มร.โมฮัมหมัด ซาร์ฮาน (ที่ 3 จากขวา) ผู้จัดการประจำประเทศไทยและอินโดจีนสายการบินเอมิเรตส์ และ มร.อาลี อัล มาซโรไน (ที่ 2 จากขวา) อุปทูต สถานทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประจำประเทศไทย

ธนชาตจับมืออินเตอร์ลิ้งค์ ลงนามสนับสนุนทางการเงิน

          สมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น และ วิศาลศรี นิโลดม รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจลูกค้ารายใหญ่ 2 บมจ.ธนาคารธนชาต ร่วมลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินเพื่อพัฒนาธุรกิจ มูลค่า 600 ล้านบาท โดยมี สุกัญญา วิชิตชลชัย ผู้อำนวยการ การตลาดและงานขายธุรกิจขนาดใหญ่ 2 บมจ.ธนาคารธนชาต และ เพ็ญศรี จันต๊ะคาด ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น เข้าร่วมด้วย ณ อาคารอินเตอร์ลิ้งค์ สำนักงานใหญ่

โนวาร์ตีส ร่วมกับ อัลคอน แลบอราทอรีส์ มอบเงินสนับสนุนมูลนิธิผู้สูงอายุบ้านปทุมธานีเนื่องในวันบำเพ็ญสาธารณประโยชน์

          นายริชาร์ด อาเบลา (กลาง) ประธานบริหาร บริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำกัด มอบทุนสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิผู้สูงอายุบ้านปทุมธานี จำนวน 250,000 บาท ในนามของ บริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท อัลคอน แลบอราทอรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งได้ร่วมกันระดมทุนเนื่องในโอกาสวันบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ประจำปี 2559 โดยมี นางไพรวรรณ ปะเมโท (ที่สามจากขวา) ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุปทุมธานี เป็นตัวแทนรับมอบ นอกจากนี้พนักงานโนวาร์ตีสและอัลคอนจำนวนกว่า 130 คน ยังได้จัดกิจกรรม สร้างความสนุกสนานให้แก่ผู้สูงอายุอีกมากมาย อาทิ กิจกรรมร้องและเต้นเพลงฮิต เก้าอี้ดนตรี และการเลี้ยงอาหารกลางวัน รวมถึงการร่วมเป็นจิตอาสาในการทำความสะอาดชุดจานชามสำหรับรับประทานอาหารอีกด้วย

แอ็กซิส โชว์นวัตกรรมและเทคโนโลยีสุดล้ำ ด้านนวัตกรรมสำหรับอุปกรณ์เชื่อมต่อและโซลูชันวีดีโออัจฉริยะ

          บริษัท แอ็กซิส คอมมูนิเคชันส์ จำกัด ผู้นำตลาดระดับโลกด้านระบบรักษาความปลอดภัยแบบวิดีโอระบบเครือข่าย ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจ จัดงาน Axis Solutions Expo 2016 โดยมี มร.แม็กนัส เซเดอร์เฟลด์ (ที่ 2 จากขวา) ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกใต้ บริษัท แอ็กซิส คอมมูนิเคชันส์ จำกัด นายธงชัย วัฒนโสภณวงศ์ (ขวาสุด) ผู้อำนวยการประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน บริษัท แอ็กซิส คอมมูนิเคชันส์ จำกัด ดร.ภาสกร ประถมบุตร (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้อำนวยการโปรแกรมวิจัยนวัตกรรมการบริการของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช) และ ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน (ซ้ายสุด) ประธานบริหาร บริษัท ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด เข้าร่วมงาน โดยในงานได้รวบรวมสุดยอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะที่ดีที่สุดในวงการ ณ C-ASEAN อาคารไซเบอร์เวิลด์ทาวเวอร์ ถนนรัชดาภิเษก

กรมโรงงานฯ รุกโครงการอุตสาหกรรมยั่งยืน

          นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม (คนกลาง) นายสมคิด วงศ์ไชยสุวรรณ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (คนที่ 1 จากขวา) ร่วมเปิดตัวโครงการ “ความร่วมมือ เพื่ออุตสาหกรรมยั่งยืน” กิจกรรมสร้างเครือข่ายพันธมิตรจากทุกภาคส่วนร่วมกันผลักดันอุตสาหกรรมไทยเติบโตอย่างยั่งยืน ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ  

โฮมโปร ร่วมกับ เอสพีซีจี และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดสัมมนา “ลดรายจ่ายฝ่าวิกฤตกับโซลาร์ รูฟ เสรี”

          นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) และ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดสัมมนา ลดรายจ่ายฝ่าวิกฤต กับโซลาร์ รูฟ เสรี เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าร่วมโครงการ ในการขายไฟให้ภาครัฐบาล โดยเฉพาะผู้ใช้ไฟตามบ้านในช่วงเวลากลางวัน  งานนี้ได้รับความสนใจจากลูกค้า โฮมโปร และประชาชนทั่วไปเป็นจำนวนมาก  ณ หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียนอินทรวิชัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

CPI จัดกิจกรรม CSR “ลีลา รถเข็นสร้างอาชีพ” อย่างต่อเนื่อง

          บริษัท ชุมพรอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรม ลีลา รถเข็นสร้างอาชีพ ครั้งที่ 2 โดยมอบรถเข็นลีลาให้ผู้ประกอบการร้านในจังหวัดสุราษฏร์ธานี วัตถุประสงค์เพื่อตอบแทนลูกค้าผู้มีพระคุณของน้ำมันปาล์มลีลา และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการร้านค้ารถเข็น มีรถเข็นที่ได้มาตรฐาน สะอาด ถูกสุขลักษณะ กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นใน วันอาทิตย์ ที่ 3 กรกฎาคม 2559 ณ ตลาดนัด ตลาดน้ำ บ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจาก ผู้ประกอบการร้านค้า และประชาชนทั่วไปเป็นจำนวนมาก

COMMART JOY 2016 มอบรางวัลให้ผู้โชคดีที่ร่วมช้อปในงาน

          บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงาน COMMART JOY 2016 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่  23-26 มิถุนายน 2559 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ได้จัดให้มีการจับรางวัลผู้โชคดี โดยมีกรรมการและผู้บริหารบริษัท ประกอบด้วย นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธานกรรมการ (ที่ 4 จากซ้าย) นายแจ็ค มินทร์ อิงค์ธเนศ ประธานกรรมการบริหาร (ที่ 5 จากซ้าย) นางเอื้อมพร ปัญญาใส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ที่ 3 จากซ้าย) นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อและดิจิทัล (ที่ 2 จากซ้าย) ร่วมจับรางวัล iPhone SE รุ่น 16G จำนวน 2 รางวัลให้กับผู้โชคดีที่มาช้อปในงาน ได้แก่ คุณอนิรุจ อ่อนศรีทอง ลงทะเบียนมาทางออนไลน์ และคุณศักดิ์สิทธิ์ บุญเจริญ ลงทะเบียนเข้าร่วมงานและซื้อสินค้าครบ 3,000 บาท, รางวัลกล้อง CASIO EXILIM EX-FR10 จำนวน 2 เครื่อง จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ คุณนภารัตน์ จังธนสมบัติ และ คุณนรินทร์ มหาไตรภพ และรางวัลสร้อยคอทองคำหนัง 1 สลึงอีก 15 รางวัล

ติวเข้ม 100 ทีม Startup Thailand by GSB

          นายวิทัย รัตนากร รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน (แถวหลัง-คนกลาง) เป็นประธานในงาน GSB Camp ซึ่งเป็นโปรแกรมภายหลังได้ผู้เข้ารอบ 100 ทีม ในโครงการประกวด “ออมสิน สุดยอดแนวคิดพลิกธุรกิจไทย” Startup Thailand by GSB เป็นเวทีที่มุ่งส่งเสริมและสนับสนุนเยาวชนที่มีความคิดสร้างสรรค์ด้านธุรกิจ เพื่อสร้างโอกาสในการเป็นผู้ประกอบการรายใหม่อย่างมีคุณภาพ โดยงานนี้ทั้งนักวิชาการ และนักธุรกิจคลื่นลูกใหม่ไฟแรงแถวหน้าร่วมแชร์ประสบการณ์สร้างแรงบันดาลใจ อัดแน่นข้อมูลความรู้และกลยุทธ์ธุรกิจ เป็นแนวทางให้แต่ละทีมนำไปปรับแผนงานเพื่อชิงชัยรอบ 10 ทีมสุดท้ายต่อไป

โคเวสโตร ร่วมกับ สถาบันปิโตรเลียมฯ จัดบรรยายพิเศษเรื่อง "นวัตกรรมการผลิตพอลิเมอร์จากคาร์บอนไดออกไซด์"

          ดร.คริสเตียน ฮัสเลอร์ (ที่สองจากขวา) หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค โคเวสโตร และ คุณแดเนียล คอช ผู้จัดการศูนย์การผลิตโพลีคาร์บอนเนตมาบตาพุด บริษัท โคเวสโตร (ประเทศไทย) จำกัด (ที่หนึ่งจากขวา) พร้อมด้วย ดร.สมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม (ที่สองจากซ้าย) และ ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ที่หนึ่งจากซ้าย) ร่วมบรรยายพิเศษในเรื่อง "เทคโนโลยีของกระบวนการผลิตทางปิโตรเคมีใหม่ที่สามารถนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาใช้เป็นวัตถุดิบแทนน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในการผลิตวัสดุพอลิเมอร์ประเภทโพลิยูเรเทน" เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี ของการก่อตั้งสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย สถาบันปิโตรเลียมฯ

EGA จุดประกาย StartUp หน้าใหม่วงการแอปฯ ไทย โชว์สุดยอดแอปพลิเคชันภาครัฐแห่งปี ในโครงการ MEGA2015

          ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พร้อมด้วย นางไอรดา เหลืองวิไล รองผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ และ นางวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้ตรวจราชการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมทั้งหน่วยงานพันธมิตร ร่วมเป็นเกียรติในพิธีประกาศผลและมอบรางวัลในโครงการประกวดผลงานการพัฒนานวัตกรรมโมบายแอปพลิเคชันภาครัฐ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ประจำปี 2558 MEGA 2015: Mobile Enterprise d-Government Award 2015 ซึ่งทีมชนะเลิศ จากผลงานที่ส่งเข้าประกวดกว่า 280 ผลงาน ได้แก่ทีม ViaBus ชนะเลิศประเภทสุดยอดแนวคิดกับผลงานชื่อ ViaBus แอปฯ เพื่อติดตามรถโดยสารสาธารณะแบบเรียลไทม์ และทีม TreconWeb ชนะเลิศประเภทสุดยอดนวัตกรรมกับผลงานชื่อ Smart Health for Chronic Kidney Disease แอปฯ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับโรคไตเรื้อรังที่เชื่อมโยงกับระบบสารสนเทศของโรงพยาบาล

สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ จัดงาน “พัฒนาคนพิพิธภัณฑ์ยุคใหม่”

          นายราเมศ พรหมเย็น ผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (คนกลาง) พร้อมผู้เชี่ยวชาญด้านพิพิธภัณฑ์ ร่วมเปิดสัมมนาหลักสูตรอบรม “ต้นแบบพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้” ครั้งที่ 1 โดยมุ่งพัฒนาบุคลากรพิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศไทยให้มีความรู้และทักษะที่สำคัญในการพัฒนาแหล่งเรียนรู้อย่างมีศักยภาพ ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ โรงแรมเดอะทวิน ทาวเวอร์ ปทุมวัน กรุงเทพฯ

เปิดตัว “CANON EXPLORATORIUM” ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์การถ่ายภาพ และการพิมพ์แห่งใหม่ใจกลางกรุง

          มร.ฮารุกิ เทราฮิระ (กลาง) ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด พร้อมด้วย คุณวรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช (ที่ 3 จากขวา) รองประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ร่วมกันเปิดตัว“แคนนอน เอ็กซ์พลอราทอเรียม” ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์การถ่ายภาพ และการพิมพ์แห่งใหม่ใจกลางกรุง เพื่อเป็นแหล่งความรู้ให้แด่เยาวชน นิสิตนักศึกษา ที่สนใจในเรื่องการถ่ายภาพได้เข้ามาเรียนรู้ด้วยตนเองแบบ Interactive ด้วยระบบดิจิตอลยุคใหม่ทั้งหมด โดยมี .กิตติคุณ ศักดา ศิริพันธุ์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีทางภาพฯ (ที่ 3 จากซ้าย) พร้อมด้วย ศ.ดร. บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ (ที่ 2 จากซ้าย) อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมเปิดงาน ณ ชั้น 3 อาคารพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีทางภาพ ฯ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

โปรเจกต์ สมาร์ทแทงก์ ผลิตน้ำจากความชื้น คว้ารางวัล Go Green in The City 2016 ระดับประเทศ

          ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านการจัดการพลังงาน ประกาศตัดสินทีม Inspire แนวคิด สมาร์ทแทงก์ ผลิตน้ำจากความชื้น โดยทีมนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ชนะเลิศโครงการ “Go Green in the City” รุ่นที่ 6

 

          มร.มาร์ค เพลิทิเยร์ ประธานบริษัท ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย เผยว่า “โครงการ Go Green In The City ของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นโครงการเพื่อการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ในเชิงนวัตกรรมด้านการจัดการพลังงาน และสิ่งแวดล้อม โดยเป็นการแข่งขันในระดับโลก สำหรับนิสิต นักศึกษาที่มีแนวคิดช่วยโลก เพื่อช่วยให้เมืองต่าง ๆ มีความเป็นอัจฉริยะมากขึ้น โดยชไนเดอร์ อิเล็คทริค จะเฟ้นหาแนวคิดที่สร้างสรรค์และทำได้จริงมากที่สุด โดยในทุกปีจะมีเงื่อนไขที่สำคัญ คือ 1 ในสมาชิกของทีมจะต้องเป็นนักศึกษาหญิง เพื่อส่งเสริมแนวคิดและบทบาทของผู้หญิงให้มีมากขึ้นในสังคม พร้อมกันนี้แนวคิดที่ดีที่สุดยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นโซลูชั่น ในส่วนของการจัดการพลังงาน และสิ่งแวดล้อมของโลกใบนี้ได้อีกด้วย

 

          นายสรวุฒิ หรณพ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย และประธานการจัดงานฯ Go Green In The City 2013 ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ไทยแลนด์ เล่าว่า “ชไนเดอร์ อิเล็คทริค รู้สึกยินดีที่คนรุ่นใหม่มีความคิดในการช่วยเหลือสังคม และโลกใบนี้ โดยการนำความรู้ที่เรียนมาประยุกต์ วิเคราะห์กับปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม และนำมาใช้ในการแก้ปัญหาสังคมนั้น ๆ โดยทีมชนะเลิศของเรา ทีม Inspire ที่ประกอบด้วย นายปฏิพล ธนารักษ์วุฒิกร และ นางสาวกนิษฐา นฤเทพ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า ได้ถ่ายทอดแนวคิดออกมาไม่ใช่เพียงถ่ายทอดเทคโนโลยี แต่คือจิตใจที่มุ่งช่วยเหลือสังคมในพื้นที่ที่แห้งแล้ง ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้นาน ได้แก่การคิดค้น ‘สมาร์ทแทงก์’ พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นการผลิตน้ำจากความชื้น แม้ในพื้นที่ที่แห้งแล้ง ด้วยหลักการควบแน่นเปลี่ยนจากความชื้นให้กลายเป็นหยดน้ำ โดยให้อากาศไหลผ่านคอยล์เย็น เกิดการควบแน่น เกิดหยดน้ำ ไหลผ่านระบบกรอง 3 ชั้น ได้แก่ คาร์บอน เซรามิค และเรซิน เพื่อให้เกิดความสะอาดในระดับที่สามารถดื่มได้ ซึ่งความชื้นสัมพัทธ์ในประเทศไทยโดยเฉลี่ยคาดว่าน่าจะผลิตน้ำได้ 21 ลิตรต่อชั่วโมงโดยต้นทุนคำนวณในการสร้าง ‘สมาร์ทแทงก์’ แรกเริ่มประมาณ 20,000 บาท

 

          นายสรวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า พร้อมกันนี้ ผมขอแสดงความยินดีกับทีมรองชนะเลิศอันดับ 1 คือ โครงการ Dropless จาก  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และทีมรองชนะเลิศอันดับ 2 คือ โครงการ Ecodistrict Smartgrid จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

 

          “เรามีความเชื่ออย่างยิ่งว่า โครงการ Go Green in the City จะเป็นเวทีในการกระตุ้น หรือสร้างผู้มีแนวคิดในการช่วยเหลือสังคมหรือโลกใบนี้ แม้จะเป็นแนวคิด หรือเทคโนโลยีเล็ก ๆ ในวันนี้ แต่วันหน้าอาจจะเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่สิ่งหนึ่งของโลกนี้ก็เป็นได้” นายสรวุฒิ กล่าวทิ้งท้าย

คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. ร่วมแสดงความยินดีกับนักศึกษา ในโอกาสคว้ารางวัลชนะเลิศ งานประชุมวิชาการนานาชาติ (ICT-ISPC 2016)

          คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. นำโดย รศ.ดร.คมสัน มาลีสี คณบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง  ร่วมแสดงความยินดีกับนักศึกษา หลักสูตรวิศวกรรมสารสนเทศ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ในโอกาสคว้ารางวัลชนะเลิศจากงาน Software Innovation Contest ในประชุมวิชาการนานาชาติ International Student Project Conference (ICT-ISPC 2016) ซึ่งจัดโดยมหาวิทยาลัยมหิดลร่วมกับอีก 4 มหาวิทยาลัยในเอเชียและยุโรป ที่เปิดเวทีเพื่อส่งเสริมผลงานทางวิชาการของนักศึกษาให้ก้าวกลด้านไอซีที โดยมี ผศ.ดร.สุธีรา พันธุ์ธีรานุรักษ์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา

 

          การจัดงานในครั้งเป็นความร่วมมือจาก คณะ ICT มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ Tokyo University of Agriculture and Technology (TUAT) ประเทศญี่ปุ่น University Technology of Malaysia (UTM) ประเทศมาเลเซีย และ Norwegian University of Science and Technology (NTNU) ประเทศนอร์เวย์ เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมวิชาการนานาชาติ "The 2016 Fifth ICT International Student Project Conference (ICT-ISPC 2016)” ณ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้นำเสนอผลงานวิชาการทางด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารอันจะก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างสถาบันอุดมศึกษาด้วยกันและระหว่างสถาบันอุดมศึกษากับภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำโครงการวิจัยระหว่างนักศึกษา คณาจารย์ และนักวิชาการของมหาวิทยาลัยในประเทศไทยและต่างประเทศ เพื่อพัฒนาวิชาการและศักยภาพในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทยให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น

12 ปีแห่งความสำเร็จ ดาคอนกับงานตรวจท่อในอินโดนีเซีย

          บริษัท ดาคอน อินสเป็คชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด ประสบความสำเร็จอีกครั้งในโครงการตรวจสอบท่อโดยอุปกรณ์ตรวจสอบท่ออัจฉริยะด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasonic Intelligent Pigging) ในเหมืองแร่ประเทศอินโดนีเซีย ด้วยสัญญาการตรวจสอบนานถึง 12 ปี จึงนับได้ว่าเหมืองแร่นี้เป็นหนึ่งในลูกค้าที่ใช้บริการของดาคอน อินสเป็คชั่น เซอร์วิสเซส มาอย่างยาวนาน อุตสาหกรรมเหมืองแร่นับได้ว่าเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศอินโดนีเซีย อีกทั้งเหมืองแห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในเหมืองแร่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

 

          เมื่อเร็ว ๆ นี้ตามแผนงานของโครงการ แผนกตรวจสอบท่อของบริษัทดาคอนฯ ได้เสร็จสิ้นการดำเนินการตรวจสอบท่อ HDPE สำหรับหางแร่จำนวนมากซึ่งทำการตรวจสอบ 2 ครั้งต่อปี ท่อดังกล่าวเป็นท่อที่มีการใช้ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ที่ประเทศอินโดนีเซีย  โดยมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 44 นิ้ว มีความยาว 3.5 กิโลเมตร หนา 100 มิลลิเมตรและส่วนปลายท่อถูกวางอยู่ใต้ท้องทะเล ที่ความลึกประมาณ 130 เมตร สำหรับการตรวจสอบแต่ละครั้ง จะต้องใช้อุปกรณ์ตรวจสอบท่ออัจฉริยะด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasonic Intelligent Pigging) ทั้งหมด 3 ตัว โดยอุปกรณ์แต่ละตัวจะถูกส่งเข้าไปในท่อเดียวกันและมีการทิ้งระยะห่างของอุปกรณ์แต่ละตัวประมาณ 200 เมตร ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะนำผลการตรวจสอบที่ได้จากอุปกรณ์ทั้ง 3 ตัวมาเปรียบเทียบ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของข้อมูลให้มีความถูกต้องและแม่นยำมากที่สุด ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ในการตรวจสอบโดยใช้อุปกรณ์ตรวจสอบท่ออัจฉริยะด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasonic Intelligent Pigging) เพื่อทำการตรวจวัดความหนาและลักษณะการสึกกร่อนทั้งภายในและภายนอกท่อ พร้อมทั้งยังทำการเก็บรวบรวมและบันทึกข้อมูลอื่น ๆ ที่สำคัญในการตรวจสอบ อาทิ เช่น ความยาวของท่อ การยุบตัวของท่อ รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ ที่ตรงกับตามความต้องการของลูกค้าอีกด้วย

 

 

          เป็นเวลากว่า 20 ปีที่ บริษัท ดาคอนฯ ประสบความสำเร็จในการตรวจสอบท่อทั่วโลก ด้วยอุปกรณ์ตรวจสอบท่ออัจฉริยะด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasonic Intelligent Pigging) ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้บริษัทมุ่งมั่นในการเป็นผู้ให้บริการทางด้านการตรวจสอบทางวิศวกรรมที่ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่บนภาคพื้นเอเชีย อีกทั้งยังตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าภายใต้สภาวะวิกฤตการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน

 

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการตรวจสอบทางวิศวกรรมได้ที่ http://www.dacon-inspection.com

 

ซิป้าประกาศจุดยืนเน้นย้ำภารกิจอยู่คู่อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโต ก้าวไกลสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างสร้างสรรค์

          นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ประธานกรรมการบริหาร (ที่ 4 จากซ้าย) นายศุภชัย จงศิริ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงาน (ที่ 3 จากซ้าย) และ นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการ (ที่ 5 จากซ้าย) สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ ซิป้า ร่วมให้เกียรติเป็นประธานในงานแถลงข่าว SIPA: Fostering Thailand’s Digital Economy ซิป้าหนุนไทยก้าวไกลสู่เศรษฐกิจดิจิทัล โดยมีจุดประสงค์เพื่อแสดงวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ของซิป้าในการผลักดัน และสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัล ผ่านการดำเนินงานในโครงการต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการและพันธมิตรในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และดิจิทัลคอนเทนต์ไทย ภายในงานยังได้รับเกียรติจาก นายบุญรักษ์ สรัคคานนท์ (ที่ 6 จากซ้าย) นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ นายปรนนท์ ฐิตะวรรโณ (ที่ 1 จากซ้าย) ประธานกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นางสาวสุวดี ปาจรียางกูร (ที่ 2 จากซ้าย) คณะกรรมการบริหารสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ และ นางสาวชไมพร พรพฤทธิอนันต์ (ที่ 7 จากซ้าย) ผู้อำนวยการสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย ให้เกียรติเข้าร่วมงาน โดยภายในงานได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการและสื่อมวลชนเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าว กรุงเทพฯ

พระจอมเกล้าพระนครเหนือ และแอพพลิแคด ร่วมลงนามพัฒนาบุคลากรและสร้างความเป็นเลิศทางวิชาการ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย

          บริษัท แอพพลิแคด จำกัด และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ  โดยสถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีไทย-ฝรั่งเศส ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาบุคลากร และพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสร้างความเป็นเลิศทางวิชาการให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทยต่อไปในอนาคต

 

          ทั้งนี้ บริษัท แอพพลิแคด จำกัด เป็นผู้นำด้านโซลูชั่นเพื่องานออกแบบ 3 มิติครบวงจร ทั้งด้านอุตสาหกรรม สถาปัตยกรรมและก่อสร้าง ตลอดจนเป็นตัวแทนจำหน่ายนวัตกรรมเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ โดยสถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีไทย-ฝรั่งเศส สถาบันสหกิจศึกษาและพัฒนาสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไทย-เยอรมัน คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม และคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งมีหน้าที่ผลิตบัณฑิตและสนับสนุนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ในการพัฒนาเทคโนโลยีและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับวงการอุตสาหกรรมของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยตระหนักถึงความสำคัญของความร่วมมือกันเพื่อพัฒนาภาคการศึกษา และศักยภาพของเยาวชนไทยที่จะเติบโตไปสู่การเป็นอนาคตของชาติ ตลอดจนบุคลากรที่เกี่ยวข้อง โดยให้การสนับสนุนลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ SolidWorks เพื่อเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเรียนการสอน การวิจัย และพัฒนาองค์ความรู้ต่าง ๆ รวมถึงการจัดการงานร่วมกัน การบริการ การถ่ายทอด การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้ เทคโนโลยี และการอบรมต่าง ๆ เป็นเวลา 3 ปี โดย ผศ.ดร.วัฒนา แก้วมณี ผู้อำนวยการ สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีไทย-ฝรั่งเศส และ นายประภาส ตั้งอดุลย์รัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอพพลิแคด จำกัด พร้อมด้วย รศ.ดร.ภาวนี นรัตถรักษา คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี มจพ.ระยอง ผศ.ดร.พนาฤทธิ์ เศรษฐกุล คณบดีคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม และ อาจารย์ธีราทร ซนีเย็ง รองผู้อำนวยการสถาบันสหกิจศึกษาและพัฒนาสื่ออิเล็กทรอนิกส์ไทย-เยอรมัน เป็นผู้ลงนาม โดยมีผู้บริหารทั้งสองหน่วยงานร่วมเป็นสักขีพยาน

 

          จากความร่วมมือกัน ในครั้งนี้จะนำไปสู่การช่วยยกระดับภาคการศึกษาให้สามารถก้าวทันเทคโนโลยีในการออกแบบและการผลิต รวมทั้งยกระดับความสามารถของบุคลากรไทยให้รองรับอุตสาหกรรมด้านวิศวกรรม การออกแบบ และอุตสาหกรรมการผลิตในอนาคต นำไปสู่การพัฒนาความรู้ทางวิชาการ การพัฒนาทางการศึกษา และความมั่นคงในทุกด้านของประเทศอย่างต่อเนื่อง อันจะก่อเกิดประโยชน์สูงสุดในการสร้างมูลค่าให้กับภาคอุตสาหกรรมของประเทศ การสร้างคุณภาพชีวิต และอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อความเข้มแข็งของประเทศชาติต่อไป

เชลล์แห่งประเทศไทย รุกสู่ความเป็นเลิศด้านการจัดการคุณภาพและสิ่งแวดล้อม คว้ามาตรฐาน ISO14001:2015 นำร่ององค์กรไทย พร้อมด้วย ISO 9001:2015 เจ้าแรกของบริษัทพลังงานประเทศไทย

          นายอรรถ เหมวิจิตรพันธ์ รองประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด (ขวา) รับใบรับรองระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001:2015 จาก นางพรรณี อังศุสิงห์ ผู้อำนวยการ สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (ซ้าย) พร้อมด้วยใบรับรองระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015 ซึ่งถือเป็นบริษัทด้านพลังงานแห่งแรกของประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐาน ISO นี้

 

          บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ยังเคยได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO ด้านความเป็นเลิศในการบริหารจัดการ มาแล้วเมื่อปี พ.ศ.2535 และเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9002 เช่นเดียวกัน

 

          มาตรฐาน ISO นั้น เป็นเครื่องมือที่บริษัทชั้นนำของโลกได้นำมาใช้เพื่อการบริหารงานด้วยมาตรฐานสากล ISO 9001:2015 และ ISO 14001:2015 จะช่วยควบคุมความเป็นเลิศด้านการดำเนินงาน ตลอดจนการส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูง แต่ไม่ละเลยในการให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถบริหารองค์กรให้เทียบเท่ากับมาตรฐานสากลได้มากขึ้น รวมถึงจะสร้างความภาคภูมิใจในการได้เป็นส่วนหนึ่งในทีมของพนักงานทุกคนอีกด้วย

ทาทา มอเตอร์ส จับมือ บางกอกกล๊าส เอฟซี มอบรอยยิ้มให้น้อง จัดฟุตบอลคลินิก พร้อมมอบอุปกรณ์กีฬา พัฒนาทักษะเยาวชน

          ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย จับมือ กระต่ายแก้ว บางกอกกล๊าส สานโครงการ “มอบรอยยิ้มให้น้อง” จัดฟุตบอลคลินิกให้เยาวชนวัย 8-12 ปี โดยโค้ชและนักฟุตบอลอาชีพ ณ สนามลีโอสเตเดียม พร้อมมอบอุปกรณ์กีฬาให้โรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียง

 

          บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมมือกับ สโมสรฟุตบอล บางกอกกล๊าส จัดกิจกรรม ฟุตบคลินิก ให้เยาวชนอายุ 8-12 ปี จำนวน 100 คน ที่มีใจรักกีฬาฟุตบอลได้เข้ามาฝึกฝน พัฒนาทักษะ รวมถึงการพัฒนาด้านบุคลิกภาพ ณ สนามลีโอสเตเดียม

 

          “กระต่ายแก้ว” บางกอกกล๊าส เอฟซี เป็นสโมสรฟุตบอลชั้นนำของเมืองไทย ที่มีระบบการจัดการอย่างมืออาชีพ มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งสนามแข่งขัน และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ และในการจัดกิจกรรม ฟุตบอลคลินิก ในโครงการ “มอบรอยยิ้มให้น้อง” ของ ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย ในครั้งนี้ โดยได้รับเกียรติจาก “โค้ชง้วน” สุรชัย จตุภัทรพงษ์ ผู้อำนวยการสโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส “โค้ชตุ๊ก” ทนงศักดิ์ ประจักกะตา หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมเยาวชนสโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส และบรรดาขุนพลนักเตะทีมกระต่ายแก้ว เป็นผู้ฝึกอบรมให้กับเด็ก ๆ ซึ่งนอกจากเด็ก ๆ จะได้รับประสบการณ์จากโค้ชระดับอาชีพแล้ว ยังได้สัมผัสกับนักฟุตบอลที่ตนเองชื่นชอบอย่างใกล้ชิด

 

          นอกจากการฝึกทักษะต่าง ๆ ในการเล่นฟุตบอลแล้ว ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย และบางกอกกล๊าส เอฟซี ยังมีการมอบประกาศนียบัตรให้กับเยาวชนที่ผ่านการฝึกสอน พร้อมมอบอุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียงอีกด้วย

 

          ทางด้าน มร.ซานเจย์ มิชรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า “เรามีความตั้งใจที่จะดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่กับการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือและพัฒนาสังคมไทย เราจึงริเริ่ม โครงการมอบรอยยิ้มให้น้องขึ้นมาเพื่อพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมเยาวชนไทย 3 ด้าน ได้แก่ โภชนาการ สุขภาพพลานามัย และการศึกษา โดยก่อนหน้านี้เราให้การสนับสนุนด้านการศึกษาและโภชนาการให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลน และครั้งนี้ก็เป็นโอกาสอันดีอีกครั้งที่เรากับ บางกอกกล๊าส เอฟซี มีความเห็นพ้องต้องกันที่จะร่วมมือกันทำกิจกรรมเพื่อสังคม โดยใช้กีฬาฟุตบอลเป็นตัวเชื่อมสร้างรอยยิ้มให้กับเด็ก ๆ ฝึกฝนทักษะต่าง ๆ ทำให้เด็ก ๆ มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง และ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เราหวังว่าจะมีโอกาสได้ทำกิจกรรมดี ๆ เพื่อสังคมแบบนี้อีกอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายเราขอขอบคุณสโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส ทีมสตาฟโค้ช นักฟุตบอล รวมทั้งสื่อมวลชนสายรถยนต์ที่สละเวลาอันมีค่า มาทำกิจกรรมดี ๆ ให้กับสังคมไทยในครั้งนี้”

ทีมเอ็นฟอร์ซ ปลื้มคว้าสุดยอดรางวัลจากบลูโค้ท ‘Blue Touch Support Partner of the year 2016’ ในระดับเอเชียแปซิฟิก

          นายภาสกร คชพันธ์สุนทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว จำกัด (ที่ 2 จากขวา) ร่วมถ่ายภาพแสดงความยินดีกับความสำเร็จของทีมงานเอ็นฟอร์ซที่ได้รับรางวัล Blue Touch Support Partner of the year 2016 ระดับเอเชียแปซิฟิก (APAC) จาก บริษัท บลูโค้ท ซิสเต็มส์ ซึ่งถือว่าเอ็นฟอร์ซฯ เป็นดิสทริบิวเตอร์รายเดียวในประเทศไทยที่ได้รับรางวัลนี้ในระดับเอเชียแปซิฟิก

 

          สำหรับ Blue Touch Support Partner of the year เป็นรางวัลที่แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการซัพพอร์ตด้านเทคนิคคอล ในการแก้ปัญหาเคสต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เอ็นฟอร์ซฯ ยังเป็นศูนย์เทรนนิ่งของ Blue Coat (Authorized Training Center) ที่ได้รับการรับรองจาก บริษัท บลูโค้ท ซิสเต็มส์ อีกด้วย

คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ (BUSEM) ม.กรุงเทพ ร่วมกับ สสว. วิจัยผู้ประกอบการไทย ชี้โครงสร้างพื้นฐานประเทศสนับสนุนแต่ควรสนับสนุนงานวิจัย

          คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ (BUSEM) มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ร่วมกับ สํานักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จัดทำโครงการการศึกษาเชิงเปรียบเทียบเพื่อการพัฒนา (GEM: Global Entrepreneurship Monitor) ผู้ประกอบการของประเทศไทย  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานภาพและประเมินระดับความเป็นสังคมผู้ประกอบการของประเทศไทย และเพื่อศึกษาทัศนคติความตื่นตัว และการมีส่วนร่วมของประชากรในกิจกรรมด้านการเป็นผู้ประกอบการ จําแนกตามกลุ่มและภูมิภาค ตลอดจนเพื่อศึกษาปัจจัยแวดล้อมเกื้อหนุนต่อการเติบโตของผู้ประกอบการ แนวทางการกําหนดนโยบายและมาตรการในการสนับสนุนการพัฒนาสังคมผู้ประกอบการ และการเสริมสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพ โดยมีการศึกษาเปรียบเทียบกิจกรรมความเป็นผู้ประกอบการของประเทศไทย ปี 2557-2558 การศึกษาเปรียบเทียบกิจกรรมความเป็นผู้ประกอบการของประเทศไทยจําแนกตามภูมิภาคและจําแนกตามภาคการผลิต และการศึกษาเปรียบเทียบกับประเทศสมาชิก GEM จํานวน 9 ประเทศจากทั่วโลก ได้แก่ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซียสิงคโปร์โปแลนด์เยอรมัน สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา

 

          ดร.สุทธิภัทร อัศวชัยโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ (BUSEM) มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล่าวว่า “ข้อมูลการวิจัยเชิงประจักษ์ของโครงการวิจัยการสํารวจผู้ประกอบการระดับโลก (The Global Entrepreneurship Monitor: GEM) ซึ่งทางคณะฯ เป็นตัวแทนหนึ่งเดียวจากประเทศไทยในฐานะสมาชิกของโครงการดังกล่าว จาก 70 ประเทศทั่วโลก มีวัตถุประสงค์เพื่อการสร้างความเข็มแข็งทางด้านองค์ความรู้ความเป็นผู้ประกอบการ การบริการวิชาการแก่สังคม ประกอบด้วยการวิจัย 2 ส่วนหลัก คือ การสัมภาษณ์เชิงลึก ผู้เชี่ยวชาญในประเทศ (National Expert Survey: NES) 36 ผู้เชี่ยวชาญ และการสํารวจกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ (Adult Population Survey: APS) จํานวน  3,000 ตัวอย่าง” 

               

          “อัตราร้อยละกิจกรรมความเป็นผู้ประกอบการในระยะเริ่มต้น (TEA: Total Early-stage Entrepreneurship Activity) ในปี 2558 (ร้อยละ 16.9) มีแนวโน้มลดลงจากปี 2557 (ร้อยละ 23.3) ขณะที่อัตราร้อยละของผู้ประกอบการที่มีธุรกิจอายุมากกว่า 3.5 ปี ประจําปี 2558 (ร้อยละ 33.6) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปี 2557(ร้อยละ 33.1) เล็กน้อย การลดลงของอัตราร้อยละกิจกรรมความเป็นผู้ประกอบการในระยะเริ่มต้น (TEA) มาจากการที่ภาวะเศรษฐกิจโลกและประเทศไทยมีการชะลอตัวประกอบกับกลุ่มผู้ประกอบการในระยะเริ่มต้นในปี 2557 เข้าสู่กลุ่มผู้ประกอบการที่มีธุรกิจอายุมากกว่า 3.5 ปี” ดร.สุทธิภัทร กล่าวเพิ่มเติม

 

          นอกจากนี้ผลวิจัยของประเทศไทยเปรียบเทียบกับประเทศต่าง ๆ ยังพบว่า

 

  • ประเทศไทยมีสภาวะด้านโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศอยู่ในระดับสูง ในขณะที่มีการสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐอยู่ในระดับต่ำ
  • สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีสภาวะโดยรวมสำหรับผู้ประกอบการอยู่ในระดับสูงที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในด้านการสนับสนุนทางการเงิน นโยบายภาครัฐมาตรการสนับสนุนของภาครัฐการศึกษาด้านความเป็นผู้ประกอบการการถ่ายโอนความรู้เพื่อการวิจัยและพัฒนาและระบบโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ
  • ในทัศนะของผู้เชี่ยวชาญแต่ละประเทศ เห็นว่าประเทศส่วนใหญ่มีความพร้อมด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศโดยมีระดับผลการประเมินอยู่ในระดับสูง และมีเพียงอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์เท่านั้นที่มีผลการประเมินอยู่ในระดับปานกลาง
  • ประเทศสิงคโปร์มีความพร้อมด้านการสนับสนุนทางการเงินอยู่ในระดับสูง ในขณะที่เวียดนามมีความพร้อมด้านการสนับสนุนทางการเงินอยู่ในระดับต่ำและยังคงต้องการการสนับสนุนด้านแหล่งเงินทุนมากกว่าที่เป็นอยู่
  • มาตรการสนับสนุนของภาครัฐ การศึกษาด้านความเป็นผู้ประกอบการ การถ่ายโอนความรู้เพื่อการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทยมีระดับผลการประเมินอยู่ในระดับต่ำในทรรศนะของผู้เชี่ยวชาญไทย ในขณะที่มีเพียงระบบโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศไทยเท่านั้นที่ได้รับการประเมินอยู่ในระดับสูง

 

ดร.สุทธิภัทร อัศวชัยโรจน์

ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ (BUSEM) มหาวิทยาลัยกรุงเทพ 

 

นักวิจัย สกว. เปิดตัวงานวิจัยผลิตภัณฑ์ยับยั้งเอชไอวีชนิดทาจากสารธรรมชาติ

          นักวิจัย สกว. เปิดตัวงานวิจัยผลิตภัณฑ์ยับยั้งเอชไอวีชนิดทาจากสารสกัดธรรมชาติเป็นครั้งแรกของไทยและของโลก รอผู้ประกอบการต่อยอดเชิงพาณิชย์ ชี้ราคาถูกกว่านำเข้า ปลอดภัย ไม่เป็นพิษต่อเซลล์เยื่อบุผิวช่องคลอดและทวารหนัก

 

          ศ.ทพญ.ดร.วิภาวี นิตยานันทะ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดตัวผลงานวิจัย “ผลิตภัณฑ์ยับยั้งเอชไอวีชนิดทาจากสารธรรมชาติ” ในงาน User Forum “ขับเคลื่อนงานวิจัยสู่อุตสาหกรรมอนาคต (New S-curve): กลุ่มอุปกรณ์การแพทย์ เวชสำอาง และอาหารสุขภาพ” ซึ่งจัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์และสุขภาพ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อนำเสนอผลงานวิจัยที่มีศักยภาพในการต่อยอดขยายผลเชิงพาณิชย์ และแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างผู้ประกอบการกับนักวิจัยเพื่อหาแนวทางสร้างความร่วมมือขยายผลวิจัยสู่การผลิตระดับอุตสาหกรรม

นักวิจัย สกว.ได้พัฒนาสูตรและกรรมวิธีผลิต “ผลิตภัณฑ์ยับยั้งเอชไอวีชนิดทา” ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการติดเชื้อเอชไอวีผ่านทางเนื้อเยื่อบุผิว รวมทั้งจุลชีพก่อโรคที่มากับการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่มีความเสี่ยงโดยเฉพาะสตรีและกลุ่มรักร่วมเพศ สามารถป้องกันตนเองจากการติดเชื้อผ่านทางช่องคลอดและช่องทวารหนัก โดยผลงานวิจัยอยู่ในระดับต้นแบบที่รอผู้ประกอบการที่มีศักยภาพมาพัฒนาต่อยอดร่วมกันก่อนผลิตจำหน่ายในเชิงพาณิชย์

 

          ทั้งนี้การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อเอชไอวีที่เป็นสาเหตุของภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือ โรคเอดส์” เป็นปัญหาสำคัญทางสาธารณสุขระดับโลก ปัจจุบันยังไม่มียารักษาให้หายขาดจนสามารถกำจัดเชื้อให้หมดสิ้นจากร่างกาย มีเพียงยาต้านเอดส์ที่ช่วยประคับประคองไม่ให้เชื้อเพิ่มจำนวนมากขึ้น แต่การใช้ยาต้านเอดส์ในระยะยาวมีผลข้างเคียงต่อร่างกายหลายอย่าง ดังนั้นการป้องกันการติดเชื้อจึงยังคงเป็นมาตรการที่ดีที่สุดในขณะนี้ อย่างไรก็ตามการป้องกันตนเองสำหรับสตรีเป็นเรื่องที่ยากหรืออาจเป็นไปไม่ได้เลย หากสามีหรือคู่ของตนมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี แต่ไม่ให้ความร่วมมือในการใช้ถุงยางอนามัย อีกทั้งความพยายามในการผลิตวัคซีนเอดส์ที่มีมาอย่างต่อเนื่องยาวนานยังไม่ประสบผลสำเร็จในขณะนี้  

 

          นักวิจัยจึงได้พัฒนาและคิดค้น “ไมโครบิไซด์ (Microbicides)” ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ โดยออกฤทธิ์ยับยั้งเอชไอวีรวมถึงจุลชีพก่อโรคที่มากับการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ผ่านทางเนื้อเยื่อบุผิวได้ เหมาะสำหรับใช้ทาเฉพาะที่ เช่น ช่องคลอด และทวารหนัก โดยสามารถพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลายรูปแบบ เช่น เจล ครีม ยาเหน็บ แผ่นฟิล์ม สารหล่อลื่น ฯลฯ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวผลิตขึ้นจากสารสกัดธรรมชาติ ผ่านการทดสอบในด้านประสิทธิภาพว่าสามารถยับยั้งเชื้อเอชไอวีได้จริง มีความปลอดภัยสูงไม่เป็นพิษต่อเซลล์เยื่อบุผิวช่องคลอด นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์กระตุ้นภูมิต้านทาน ฤทธิ์ต้านการอักเสบ และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง 

“นับเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ยับยั้งเอชไอวีชนิดทาที่มีความเป็นนวัตกรรมครั้งแรกของไทยและของโลก อีกทั้งมีโอกาสทางการตลาดสูงทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากยังไม่มีการใช้สารสกัดจากธรรมชาติไม่เป็นพิษต่อเซลล์เยื่อบุผิวช่องคลอดมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาก่อน จากผลิตภัณฑ์ที่มีรายงานก่อนหน้านี้พบว่าก่อทำให้เกิดการระคายเคืองผิวเยื่อเมือก ทำให้ประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อเอชไอวีลดลง และไม่มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิต้านทานและต้านการอักเสบ ที่สำคัญคือมีราคาแพง เพราะนำเข้าจากต่างประเทศ ในขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์ของนักวิจัยไทยตั้งไว้ที่หลักร้อย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนทุกกลุ่มที่มีภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี และโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะสตรีและกลุ่มรักร่วมเพศ โดยตั้งเป้าวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อคู่กับถุงยางอนามัย” ศ.ทพญ.ดร.วิภาวี ระบุ

 

          สำหรับผู้ประกอบการ หรือโรงพยาบาลและคลินิกที่สนใจผลิตภัณฑ์ดังกล่าว สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่โทรศัพท์ 085-1965777 หรือ wipawee.ni@psu.ac.th

กู๊ดเยียร์ จัดโรดโชว์โปรโมทยาง “กู๊ดเยียร์ แรงเลอร์ ทริปเปิ้ลแมกซ์” ทั่วประเทศ

          กู๊ดเยียร์ เปิดตัว ยางกู๊ดเยียร์ แรงเลอร์ ทริปเปิ้ลแมกซ์ (Wrangler TripleMax) ยางรุ่นใหม่ล่าสุด สำหรับรถ SUV ขนาดกลางและกระบะยกสูง พร้อมจัดโรดโชว์เดินสายเยี่ยมตัวแทนจำหน่ายยางกู๊ดเยียร์กว่า 170 รายทั่วประเทศ

 

          สำหรับการจัดโรดโชว์ครั้งนี้ ทางทีมคาราวานของกู๊ดเยียร์ได้นำเสนอจุดเด่นหรือคุณสมบัติสำคัญต่าง ๆ ของยางรุ่นใหม่นี้ให้กับตัวแทนจำหน่ายและช่างเทคนิค โดยคุณสมบัติหลักได้แก่ ประสิทธิภาพการเบรกที่เหนือชั้น การเพิ่มสมรรถนะบนถนนเปียกและความทนทานต่อความเสียหายที่เกิดจากสภาพของถนน

 

          มร.ฟินบาร์ โอคอนเนอร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กู๊ดเยียร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่หุ้นส่วนทุกคนของเรา ให้การตอบรับที่ดีเยี่ยมกับยางกู๊ดเยียร์ แรงเลอร์ ทริปเปิ้ลแมกซ์ ทั่วประเทศ ทั้งนี้ กู๊ดเยียร์ได้ยึดมั่นในการให้ความสำคัญต่อความต้องการของผู้บริโภคมาเป็นปัจจัยหลักในการพัฒนายางรุ่นใหม่ ๆ ซึ่งการเปิดตัวยางกู๊ดเยียร์ แรงเลอร์ ทริปเปิ้ลแมกซ์ (Wrangler TripleMax) นี้ จึงเป็นการตอบสนองต่อความต้องการในปัจจุบันสำหรับตลาดรถ SUV ขนาดกลางในไทย เราจึงมีความเชื่อมั่นว่า ยางกู๊ดเยียร์ แรงเลอร์ ทริปเปิ้ลแมกซ์ จะเป็นยางอีกรุ่นที่สะท้อนถึงคำมั่นสัญญาของแบรนด์ ที่ต้องการส่งมอบการขับขี่ที่ปลอดภัยและเพลิดเพลินกว่า มาสู่นักขับขี่และครอบครัว"

 

          กู๊ดเยียร์ได้พัฒนายางกู๊ดเยียร์ แรงเลอร์ ทริปเปิ้ลแมกซ์ โดยใช้เทคโนโลยีไฮโดรกริป (HYDROGRIP Technology®) นวัตกรรมการดีไซน์หน้ายาง ให้มีโครงสร้างยางที่เหมาะสมและยังเพิ่มการยึดเกาะให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้จึงทำให้ยางมีระยะเบรกสั้นขึ้นบนถนนเปียก โดยคำนึงถึงความปลอดภัยมากขึ้น และยังสร้างความมั่นใจให้กับทุกครอบครัว ในทุกสภาพถนน

ความสำเร็จ “Startup Thailand 2016” พร้อมลุยระดับภูมิภาค

          ภายหลังกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นแกนหลักในการจัดงาน Startup Thailand  2016” เมื่อวันที่ 28 เมษายน-1 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา พบว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงและบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ตั้งไว้โดยงาน Startup Thailand 2016 จัดขึ้นเพื่อระดมผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) ของประเทศให้มารวมกัน โดยการสร้างความตระหนักและการตื่นตัวในการเป็นวิสาหกิจเริ่มต้นที่มีศักยภาพในการขยายธุรกิจและสร้างตลาดใหม่ ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำโครงการ National Campaign Startup Thailand ขึ้น

               

          การจัดงานที่ผ่านมามีผู้ร่วมงานมากกว่า 36,000 คน นับได้ว่ามากที่สุดในภูมิภาคเอเชียที่มีจำนวนคนเข้าชมงานอย่างล้นหลาม มีนิทรรศการจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน มหาวิทยาลัย หน่วยงานต่างประเทศและวิสาหกิจเริ่มต้นมากกว่า 250 บูธ มีการขอคําปรึกษาและขอรับการบริการจากศูนย์บริการร่วมภาครัฐประมาณ 12,000 ราย จนทำให้เกิดการลงทุนธุรกิจวิสาหกิจเริ่มต้น คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เกิดการรวมตัวของกลุ่มวิสาหกิจเบื้องต้นเป็นครั้งแรกซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของประเทศไทยที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตได้ดียิ่งขึ้น และจากความสำเร็จดังกล่าวกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไฟเขียวให้จัดงาน Startup Thailand 2016 โดยการกระจายไปในระดับภูมิภาค เปิดโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการดำเนินธุรกิจให้ได้รับรู้และมีโอกาสเข้าร่วมกระบวนการพัฒนาการดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาที่เพิ่งจบการศึกษาใหม่ กลุ่มนักเรียนอาชีวะที่มีฝีมือ หรือแม้กระทั่งเกษตรกรก็สามารถเข้าร่วมงานนี้ได้ งานสตาร์อัพจะกำหนดจัดขึ้นใน 3 ภูมิภาค ได้แก่ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 5-7 สิงหาคม 2559 สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือจังหวัด ขอนแก่น และภาคใต้จังหวัดภูเก็ต คาดว่ากำหนดจัดขึ้น อย่างไรก็ตามกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย ดร.พิเชฐ  ดุรงค์เวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การันตีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้ส่วนกลางแน่นอน

กระทรวงวิทย์ฯ ร่วมกับ กระทรวงการคลัง เปิดช่องทางใหม่ ให้ผู้ประกอบการใช้สิทธิยกเว้นภาษี 300%

          ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ ๔ กระทรวงการคลัง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับ กระทรวงการคลัง เปิดช่องทางใหม่ ให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนสามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษี 300% ได้ด้วยตนเอง (Self-Declaration) สำหรับโครงการวิจัยฯ ที่มีมูลค่าโครงการไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยการขอรับรองระบบบริหารการวิจัยฯ เป็นรายบริษัท แทนการรับรองโครงการวิจัยฯ เป็นรายโครงการแบบเดิม (Pre-approval) ซึ่ง สวทช. และ วว. จะทำหน้าที่ตรวจประเมินระบบบริหารการวิจัยฯ ตามข้อกำหนดที่พัฒนาขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการเกิดความสะดวกในการขอใช้สิทธิยกเว้นภาษี 300% และสร้างแรงจูงใจให้ภาคเอกชนลงทุนทำวิจัยมากขึ้น ส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมและยกระดับความสามารถการแข่งขันของประเทศต่อไป

เฟดเอ็กซ์ คว้ารางวัล “ผู้ให้บริการขนส่งสินค้ายอดเยี่ยม” ในงาน ประกาศรางวัล Asian Freight, Logistics and Supply Chain ประจำปี 2559

          FedEx บริษัทในเครือเฟดเอ็กซ์ คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งแบบด่วนรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้รับรางวัล “ผู้ให้บริการขนส่งสินค้ายอดเยี่ยม” ในงานประกาศรางวัลระบบขนส่งและซัพพลายเชนแห่งภูมิภาคเอเชีย หรือ Asian Freight, Logistics and Supply Chain ซึ่งจัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชน โดยรางวัลนี้ถือเป็นรางวัลระดับแถวหน้าของวงการโลจิสติกส์ โดยรางวัลในสาขานี้มีผู้เข้าชิง 3 ราย และเฟดเอ็กซ์ได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะ เนื่องจากมีคะแนนโหวตจากช่องทางออนไลน์สูงที่สุด

 

          ทั้งนี้การประกาศรางวัล Asian Freight, Logistics and Supply Chain จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อยกย่องบริษัทที่มีผลงานดีเด่นในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ทั้งการขนส่งทางเรือและทางอากาศ การท่าอากาศยานและการท่าเรือ รวมทั้งผู้ให้บริการโลจิสติกส์บุคคลที่ 3 นอกจากนี้เฟดเอ็กซ์ยังได้รับยกย่องในฐานะผู้นำในด้านอื่น โดยได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์จูนให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับการยกย่องสูงที่สุดในโลก เป็นอันดับที่ 8 ในประเภทรวม และอันดับที่ 1 ในประเภทผู้ให้บริการขนส่ง

 

นางแคทเธอรีน เช็ง (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีน เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส รับรางวัล “ผู้ให้บริการขนส่งสินค้ายอดเยี่ยม” ประจำภูมิภาคเอเชีย จาก นายหนี ฮงเหลียง (ขวา) รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท ท่าอากาศยานขนส่งสินค้านานาชาติซ่างไห่ผู่ตง จำกัด

ฟูจิ ซีร็อกซ์ ฯ จัดอบรมหลักสูตร Graphic Communication Technology รองรับความต้องการอุตสาหกรรมการพิมพ์ระบบดิจิทัลในประเทศไทย

          นายโคจิ เทสึกะ ประธาน บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (ที่ 3 จากซ้ายนั่งแถวหน้า) นำทีมผู้บริหารจัดอบรมหลักสูตร Graphic Communication Technology ให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีการพิมพ์เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน เพื่อสร้างความรู้ในภาคทฤษฎีและปฏิบัติการด้านเทคโนโลยีการพิมพ์ให้กับนักศึกษาชั้นปีที่ 4 จาก 4 สถาบัน จำนวน 57 คน ประกอบด้วย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ โดยการจัดอบรมในครั้งนี้ ฟูจิ ซีร็อกซ์หวังว่าที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดอุตสาหกรรมการพิมพ์ดิจิทัลที่กำลังเติบโตได้อย่างดีในอนาคต ณ อาคารซันทาวเวอร์ เอ ถนนวิภาวดีรังสิต

มาลีตอกย้ำความห่วงใย ผ่านน้ำผลไม้ “มาลี” รสชาติใหม่ พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “The Caring Message มาลี #ดีที่ได้ดูแลกัน” มุ่งมั่นร่วมยกระดับเกษตรกรไทยให้มีอาชีพ และเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นผ

          บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือน้ำผลไม้ตรา “มาลี” (MALEE) ส่งต่อความห่วงใยด้วยผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้ “มาลี” รสชาติใหม่ ที่ผ่านขั้นตอนการดูแลอย่างดีจากใจเกษตรกรไทยในการคัดสรรวัตถุดิบเพื่อให้ได้น้ำผลไม้ที่ดีที่สุด ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาน้ำผลไม้จากมาลี เพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในตลาดน้ำส้ม 100%

               

          นางสาวรุ่งฉัตร บุญรัตน์ ประธานบริหารปฏิบัติการ บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอนในการผลิต ตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธุ์ผลไม้ที่ดีที่สุด เลือกแหล่งเพาะปลูกผลไม้ที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ และพิถีพิถันในการคัดสรรผลิตผลของผลไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดก่อนที่จะบรรจุลงในกล่องน้ำผลไม้ตรามาลี รวมทั้งเลือกใช้กระบวนการผลิตที่ดีที่สุดเพื่อให้น้ำผลไม้มาลีทุกหยดช่วยดูแลสุขภาพของผู้บริโภคชาวไทยทุกคน และที่สำคัญกว่านั้น เราคัดเลือกผลไม้จากกลุ่มเกษตรกรไทยที่มีความใส่ใจ และดูแลผลผลิตเป็นอย่างดีตามพันธกิจหลักของบริษัท ที่ต้องการยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรไทยสร้างความภูมิใจในอาชีพ และพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยมีผลไม้ที่ได้คุณภาพบริโภคตลอดไป”

นางสาวรุ่งฉัตร กล่าวต่อว่า “สิ่งเหล่านี้จึงเป็นที่มาของแคมเปญใหม่ “The Caring Message มาลี #ดีที่ได้ดูแลกัน” คือ ความห่วงใยจากใจเกษตรไทยในการดูแลผลไม้อย่างดีตั้งแต่สวนจนถึงมือผู้บริโภคเพื่อความต้องการให้ผู้บริโภคชาวไทยทุกคนมีสุขภาพที่ดีโดยให้น้ำผลไม้ตรามาลีเป็นตัวแทนในการส่งต่อความห่วงใยนี้ ความพิเศษของน้ำผลไม้ “มาลี” ทั้ง 3 รสชาติใหม่ คือ วัตถุดิบผลไม้มาจากแหล่งเพาะปลูกที่ดีที่สุดของไทยได้แก่

 

  • น้ำสับปะรดนางแลผสมน้ำผลไม้ 100% ที่ทางบริษัทฯ ได้ร่วมกับมูลนิธิเตียงจิราธิวัฒน์ซึ่งสนับสนุนให้มีการปลูกสับปะรดนางแลพันธุ์ท้องถิ่นกับกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดเชียงราย เพื่อให้เกิดการพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืน
  • น้ำผักผลไม้รวมสูตรมัลเบอร์รี่ 100% โดยทางบริษัทฯ ได้เข้ารับซื้อลูกหม่อน จากกลุ่มปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน เพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิต
  • น้ำส้มเขียวหวานสุโขทัย 100% ที่ทางบริษัทฯ เลือกใช้ส้มสดจากกลุ่มเกษตรกรใน ต.แม่สิน จ.สุโขทัย ซึ่งผลผลิตที่ได้ปลอดสารพิษเพราะมีการปลูกด้วยระบบเกษตรอินทรีย์

               

          นายพรชัย ชูสงวน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ การตลาดในประเทศ บริษัท มาลี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “บริษัทฯ ได้มีการสำรวจสภาพตลาดน้ำผลไม้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งพบว่าในช่วงครึ่งปีแรก 2559ที่ผ่านมาตลาดโดยรวมค่อนข้างจะคึกคัก และมีการแข่งขันค่อนข้างสูง ซึ่งทางบริษัทฯ เองได้มีการวางแผนการตลาด ทั้งสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ โปรโมชั่น ณ จุดขาย รวมถึงกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ ที่สามารถตอบโจทย์และเข้าถึงลูกค้าได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่ทางบริษัทฯ ได้กำหนดไว้ โดยในส่วนของครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าที่จะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดของน้ำผลไม้ 100%  ซึ่งบริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์ทางการตลาดต่าง ๆ ไว้พร้อมผลักดันการเติบโตของน้ำผลไม้มาลีให้ไปถึงเป้าหมาย โดยความน่าสนใจของแคมเปญ “The Caring Message หรือ ความห่วงใยจากใจชาวสวน”เป็นการถ่ายทอดความรู้สึกของชาวสวนตัวจริง ซึ่งเป็นผู้ที่ปลูกผลไม้ด้วยความตั้งใจ ต้องการส่งมอบสิ่งดี ๆ และความห่วงใยจากใจให้กับผู้บริโภคทุกคน ผ่านการเขียนข้อความความรู้สึกและความห่วงใยต่าง ๆ ที่ต้องการสื่อกับผู้บริโภคลงบนข้างกล่องน้ำผลไม้มาลี เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับรู้ถึงความห่วงใยนี้ และเห็นถึงความสำคัญของเกษตรกรไทย บริษัทฯ พร้อมที่จะเป็นสื่อกลางส่งต่อความห่วงใยของเกษตรกรสู่ผู้บริโภคทุกคน มาลีต้องการให้ผู้บริโภคตระหนักถึงความใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิตน้ำผลไม้ของมาลีและความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในตลาดน้ำส้ม 100% และในใจผู้บริโภค

 

          ร่วมสนับสนุนเกษตรกรไทย ผ่านแคมเปญ “The Caring Message” ความห่วงใยจากใจชาวสวน และพบน้ำผลไม้มาลีทั้ง 3 รสชาติใหม่ ได้แก่ น้ำส้มเขียวหวานสุโขทัย 100% น้ำสับประรดนางแลผสมน้ำผลไม้รวม 100% และน้ำผักผลไม้รวมสูตรมัลเบอร์รี่ 100% ในขนาด 1,000 และ 200 มิลลิลิตร ราคา 69 และ 18 บาทตามลำดับ ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ณ ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น และซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วประเทศ

บ้านปู เปิดรับสมัคร “ค่ายเพาเวอร์กรีน 11” ชวนเยาวชน ม.4 และ ม.5 สายวิทย์ ลงพื้นที่เรียนรู้สิ่งแวดล้อม ณ เขาใหญ่ แหล่งมรดกโลก

          บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และ คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดรับสมัครนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 5 สายวิทย์ทั่วประเทศ เข้าร่วมค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม “ค่ายเพาเวอร์กรีน 11” ภายใต้หัวข้อ "การจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ กับการอนุรักษ์แหล่งมรดกโลกอย่างยั่งยืน" โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-15 ตุลาคม 2559 ณ คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา นอกจากเยาวชนจะมีโอกาสได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญและการทดลองในห้องแล็บแล้วยังจะได้ทัศนศึกษาเจาะลึกความหลากหลายทางชีวภาพ ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แหล่งมรดกโลกไทยที่อุดมไปด้วยความสมบูรณ์ทางธรรมชาติซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “อุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน”

               

          ภายในค่ายเพาเวอร์กรีน 11 เยาวชนที่ได้รับคัดเลือกจำนวน 70 คน จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญและการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพทั้งภาคทฤษฎี และการลงมือปฏิบัติจริง รวมถึงการเดินป่าทำความรู้จักกับพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์หายากต่าง ๆ ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก่อนนำความรู้มาพัฒนาโครงงานกลุ่มวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ลุ้นชิงทุนการศึกษารวมกว่า 30,000 บาท

นางอุดมลักษณ์ โอฬาร ผู้อำนวยการสายอาวุโส-องค์กรสัมพันธ์ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บ้านปูฯ ริเริ่มโครงการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ณ ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อสร้างสมดุลด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการดำเนินธุรกิจ เราต้องการนำความเชี่ยวชาญนี้มาต่อยอดการเรียนรู้ของเยาวชนไทย จึงเป็นที่มาของหัวข้อค่ายเพาเวอร์กรีนปีที่ 11 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งไฮไลท์ในปีนี้คือ ทัศนศึกษา ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แหล่งมรดกโลกที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงทางธรรมชาติ ทั้งพืชพันธุ์ สัตว์หายากนานาชนิด และต้นกำเนิดแหล่งน้ำที่สำคัญ เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้แบบเจาะลึกถึงความเชื่อมโยงของความหลากหลายทางชีวภาพต่อการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนจากการลงพื้นที่จริง รวมทั้งคิดวิเคราะห์ผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบ้านปูฯ ที่มุ่งเน้นพัฒนาคนด้วยความรู้ เพราะเราเชื่อว่า พลังความรู้ คือพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา”

               

          “การได้เข้าร่วมค่ายเพาเวอร์กรีนเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติและพัฒนาความหลากหลายทางชีวภาพอย่างเป็นระบบเพื่อความยั่งยืน ผมได้ลงมือปฏิบัติจริงซึ่งเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากห้องเรียน นอกจากจะเป็นการใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอมให้เกิดประโยชน์และได้รู้จักเพื่อนใหม่ที่มีความชอบเหมือนกันแล้ว ยังเป็นแรงบันดาลใจและจุดเริ่มต้นให้ผมเกิดความคิดอยากพัฒนาสิ่งแวดล้อมให้กับชุมชนที่อาศัยอยู่อีกด้วย” นายสุริยันต์ ถวิลไพร หรือ อั๋น ศิษย์เก่าค่ายเพาเวอร์กรีน 10 กล่าว

               

          สำหรับเยาวชนที่สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.powergreencamp.com ส่งใบสมัครเรียงความด้วยลายมือตนเอง ความยาวไม่เกิน 1 หน้ากระดาษขนาด A4 หรือ ส่งคลิปวิดีโอความยาวไม่เกิน 1 นาที ในหัวข้อ “ความหลากหลายทางชีวภาพในแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ” พร้อมเอกสารอื่นๆ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม–15 สิงหาคม 2559 ดูรายละเอียดและเกณฑ์การสมัครเพิ่มเติม พร้อมติดตามข่าวและข้อมูลต่าง ๆ ของ “ค่ายเพาเวอร์กรีน” รุ่นที่ 11 ได้ที่เฟซบุ๊ค www.facebook.com/powergreencamp หรือโทรศัพท์ 0-2441-5000 ต่อ 2112

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (หาดใหญ่) นำนักศึกษาสาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ เยี่ยมชมเมโทรซิสเต็มส์ฯ

          ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นำคณะนักศึกษาสาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 3 พร้อมอาจารย์ จำนวน 26 คน เข้าศึกษาดูงาน ณ บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์ให้แก่นักศึกษา โดย นายยงยุทธ ศรีวันทนียกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์โซลูชั่น บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ นายมีลาภ โสขุมา Solution Architect ร่วมบรรยายความรู้ด้านไอที และ นำเยี่ยมชมศูนย์สาธิตเทคโนโลยีสารสนเทศต่าง ๆ ภายในบริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่

เอปสัน ทุ่มงบกว่า 30 ล้าน เดินเครื่องแคมเปญ #TrustInYou

          ทีมผู้บริหารเอปสัน ประเทศไทย นำโดย นายอนันต์พล นนทพันธุ์ (ซ้ายสุด) ผู้จัดการทั่วไป ด้านการบริการและบริหารองค์กร นายยรรยง มุนีมงคลทร (ขวาสุด) ผู้จัดการทั่วไป ด้านการขายผลิตภัณฑ์และการตลาด แถลงข่าวเปิดแคมเปญ #TrustInYou มุ่งใช้จุดแข็งของแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า หนุนการรุกขยายตลาดของสินค้าทุกประเภท พร้อมเปิดบุคคลที่มีชื่อเสียง 3 ท่านที่สะท้อนคุณค่าทั้ง 3 ด้านตามปรัชญาของเอปสัน (จากซ้าย) ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ CEO บริษัท อุ๊คบี จำกัด (Ookbee) และผู้จัดการกองทุน 500 TukTuks ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น และเว็บไซต์หนังสืออิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่สุดในเมืองไทยที่มีมูลค่าถึง 240 ล้านบาท และเป็นผู้ระดมเงินทุนเพื่อสนับสนุนธุรกิจสตาร์ตอัพคนไทย สะท้อนคุณค่าทางด้านความมุ่งมั่น (Commitment) รักกิจ ควรหาเวช ศิลปินสตรีทอาร์ตชื่อดัง สะท้อนคุณค่าในด้าน Passion และ พันธวิศ ลวเรืองโชค CEO บริษัท อะโพสโทรฟีเอส กรุ๊ป จำกัด นักออกแบบงานนิทรรศการที่เป็นที่รู้จักในวงการออกแบบทั้งในเเละต่างประเทศ สะท้อนความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creative & Innovative) โดยตลอดทั้งปี เอปสันจะมีแคมเปญสื่อสารการตลาดผ่านสื่อต่าง ๆ มีการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายขึ้นทั่วประเทศ

Sophos ถูกจัดอันดับจาก Gartner ว่าเป็นองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ก้าวหน้า ติดต่อกันถึงสามปีซ้อน ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ Enterprise Mobility Management หรือ EMM

          Sophos (LSE: SOPH) ผู้นำระดับโลกด้านความปลอดภัยบนเครือข่ายและเครื่องเอ็นด์พอยท์ แถลงว่า Gartner ได้เลือกให้ Sophos เป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดีเด่นด้านวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล (Visionary) ในรายงาน Magic Quadrant สำหรับชุดผลิตภัณฑ์จัดการโมบิลิตี้ระดับองค์กรหรือ EMM นับเป็นปีที่สามติดต่อกัน ด้วยผลิตภัณฑ์ Sophos Mobile Control ทำให้ Sophos เป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยบนเครือข่ายและเครื่องเอ็นด์พอยท์ รายเดียวที่ได้รับคัดเลือกมาลงในรายงาน EMM Magic Quadrant

 

          ในฐานะโซลูชั่นจัดการโมบิลิตี้ระดับองค์กรที่ครบวงจร ทำให้ Sophos Mobile Control เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้ง่ายสำหรับแอดมินด้านไอที ทั้งการติดตั้ง, ตั้งค่า, และจัดการ โดยมีฟีเจอร์จำกัดบริเวณข้อมูลด้วยการเข้ารหัสอย่างปลอดภัย ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งทั้งในสภาพแวดล้อมที่ใช้อุปกรณ์ขององค์กร หรือกรณีที่เปิดให้ทำงานบนอุปกรณ์ของพนักงานเอง (BYOD) Sophos Mobile Control นี้รวมอยู่ในชุดผลิตภัณฑ์ Sophos Mobile Security สำหรับป้องกันมัลแวร์และอันตรายบนโลกออนไลน์บนอุปกรณ์แอนดรอยด์ ซึ่งรุ่นล่าสุด Sophos Mobile Control 6.1 นี้ได้ขยายขอบเขตการป้องกันไปถึงวินโดวส์ 10 ทั้งในรูปแท๊บเล็ต, โน้ตบุ๊ก และเดสก์ท็อป โดยรวมเข้ามาอยู่ในคอนโซลจัดการเดียวกันกับอุปกรณ์พกพา ทำให้บังคับใช้โพลิซีความปลอดภัย และควบคุมการเข้าถึงทรัพยากรของบริษัทอย่างอีเมล์และอินทราเน็ตได้อย่างปลอดภัยเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งหมด

 

          “อุปกรณ์พกพาเป็นเรื่องที่ท้าทายธุรกิจมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้นำด้านไอทีจำเป็นต้องประเมินความปลอดภัยของทุกอย่างที่เชื่อมต่อเข้ามาบนเครือข่าย เพื่อป้องกันการเกิดช่องโหว่ที่มีมูลค่าความเสียหายสูง และเติมเต็มความต้องการทั้งด้านการปกป้องข้อมูล และการสอดคล้องกับกฎหมายด้านการรักษาความเป็นส่วนตัว โดยอุปกรณ์พกพาอันชาญฉลาดที่นำมาใช้เข้าถึงข้อมูลขององค์กรผ่านทางอีเมล์ หรือการแชร์ไฟล์ผ่านทูลการประสานการทำงานบนคลาวด์นี้ถือเป็นอีกมิติหนึ่งที่เป็นช่องให้แฮ็กเกอร์เข้าโจมตี หรือข้อมูลรั่วไหลออกไปได้” แดน ชิอัปปา รองประธานและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ปลายทางของ Sophos กล่าว “Sophos Mobile Control จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้การปกป้องที่ครอบคลุมมากที่สุด และสนับสนุนประสิทธิภาพการทำงานในการใช้ BYOD ทุกด้าน ด้วยการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลทางธุรกิจ และจำกัดบริเวณของข้อมูลส่วนบุคคลแยกออกจากกันอย่างชัดเจน”

ซีบรา เทคโนโลยีส์ เปิดตัวสแกนเนอร์บาร์โค้ด รุ่น 3600 ซีรีส์ และ DS4308-XD ที่รองรับการสแกนแบบ 2D ช่วยเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพการทำงานให้กับองค์กร ในประเทศไทย

          ซีบรา เทคโนโลยีส์ ผู้นำผลิตภัณฑ์และการบริการที่ให้ความสามารถในการสอดส่องสินทรัพย์ บุคลากร และธุรกรรมต่าง ๆ ในองค์กรได้แบบเรียลไทม์ เปิดตัวเครื่องสแกนเนอร์แบบ 2 มิติ (2D) ในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์กลุ่ม 3600 ซีรี่ส์ มีสแกนเนอร์ 12 รุ่น ซึ่งนับเป็นกลุ่มสแกนเนอร์พันธุ์อึด ที่นำเสนอความคงทน, เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และง่ายต่อการจัดการ เหมาะสำหรับใช้ในแวดวงอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมี DS4308-XD ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่ออุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, การอ่านบาร์โค้ดหลากหลายรูปแบบ และประทับตราบนวงจรและส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ จึงทำให้มีความสามารถในการสแกนระดับสูง เพื่อการติดตามความเคลื่อนไหวขององค์ประกอบในสายการผลิต

 

          ในปัจจุบัน การใช้บาร์โค้ด 2D ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากสามารถบรรจุข้อมูลได้มากกว่าบาร์โค้ด 1D โดยตลาดสแกนเนอร์ทั่วโลกกำลังประสบกับการโยกย้ายในครั้งนี้ ในขณะเดียวกัน จะมีการเปลี่ยนแปลงด้านการลงทุนในตลาดเครื่องสแกนเนอร์ของโลก โดยโยกย้ายจากเลเซอร์สแกนเนอร์ไปยังสแกนเนอร์รูปแบบกล้อง 2D เพิ่มขึ้นถึง 60 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2018 ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ที่เคยมี นอกจากนี้ สแกนเนอร์ 2D ยังมีอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) สูงถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนำห่างทั้งตลาดเลเซอร์สแกนเนอร์ (-8 เปอร์เซ็นต์) และตลาดอุปการณ์มือถือ (+5 เปอร์เซ็นต์)

 

          องค์กรต่าง ๆ สามารถ “เพิ่มศักยภาพ” หรือ “Get More” ด้วยสแกนเนอร์แบบ 2D เพียงตัวเดียว ซึ่งสแกนเนอร์ประเภทนี้มีความสามรถในการอ่านบาร์โค้ดหลากหลายรูปแบบ ประกอบไปด้วย บาร์โค้ดพิมพ์แบบ 1D, บาร์โค้ดพิมพ์แบบ 2D, การสแกน GS1 DataBar ที่ใช้ใน point-of-sale (POS), บาร์โค้ดสองมิติความละเอียดสูง และบาร์โค้ดบนดีไวซ์ต่าง ๆ นอกจากการสแกนบาร์โค้ดที่ครอบคลุมแล้ว เครื่องสแกนบาร์โค้ดแบบ 2D ยังสามารถอ่านบาร์โค้ดที่พิมพ์ไม่ดี, ขาด, เลอะ, ถูกพันพลาสติก หรือชำรุดได้อีกด้วย โดยสามารถสแกนได้จากทั่วทุกทิศทาง ซึ่งจะช่วยให้การเก็บข้อมูลหลายองศามากขึ้น, เพิ่มประสิทธิภาพการสแกนระยะใกล้ และอ่านบาร์โค้ดหลายจุดได้ภายในการสแกนเพียงครั้งเดียว เครื่องสแกนบาร์โค้ดแบบ 2D ยังช่วยให้ฟังก์ชั่นเสริมต่าง ๆ ตั้งแต่การตลาดบนมือถือ, แอพพลิเคชั่นสำหรับลอยัลตี้โปรแกรม, ถ่ายภาพ, การจดจำตัวอักษร เหล่านี้จะช่วย “เพิ่มประสิทธิภาพ” ให้กับองค์กรหรือ "Do More"

 

          นอกจากสแกนเนอร์ใหม่สองรุ่นที่กล่าวมาแล้ว ซีบรายังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่สามารถอ่านบาร์โค้ดแบบ 2D ได้ในไตรมาสแรกของปี: TC8000 คอมพิวเตอร์ขนาดพกพาสำหรับองค์กร ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้แก่พนักงานแต่ละคนขึ้นประมาณ 14 เปอร์เซ็นต์ และยังมี RFD8500 เครื่องอ่าน RFID จากซีบราเครื่องแรกที่รองรับการทำงานบนระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย โดย RFD8500 ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสามารถด้านการอ่าน RFID และบาร์โค้ดแบบ 1D/2D ให้กับดีไวซ์ที่ทำงานบนระบบแอนดรอยด์และ iOS

 

 

          3600 ซีรี่ส์ รุ่น 1D และ 2D นั้นมีตัวเลือกทั้งแบบมีสายและไร้สาย ใช้ทำงานสำหรับการเลือก, การบรรจุ, การจัดส่ง, การรับ, การดำเนินการ, การตรวจสอบคลังสินค้า, การติดตามสถานะ, การเปลี่ยนถ่ายสินค้า และการจัดการระบบหน้าร้าน ที่รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานในสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวย สแกนเนอร์เข็งแรงทนทาน รับประกันการตก, กลิ้ง และจุ่มน้ำที่สูงที่สุดในบรรดาสแกนเนอร์ประเภทเดียวกัน โดยเป็นสแกนเนอร์เครื่องแรกที่ได้รับมาตรฐาน IP67 ซึ่งสามารถทำงานใต้น้ำได้กว่า 30 นาที ด้วยเทคโนโลยีการสแกนบาร์โค้ด 1D และ 2D ที่เหนือระดับ ไม่ว่าจะเป็นบาร์โค้ดสองมิติความละเอียดสูง, บาร์โค้ดบนหน้าจอดีไวซ์, บาร์โค้ดที่ถูกห่อด้วยพลาสติกกันกระแทก, พิมพ์บนกระดาษแล้วชำรุดหรือเลอะก็ตาม

 

 

          DS4308-XD มีประสิทธิภาพในการอ่านบาร์โค้ดที่มีความหนาแน่นมาก สามารถสแกนบาร์โค้ด 1D, 2D และ PDF417 ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น รวมทั้งการสแกนระยะใกล้ (ครึ่งนิ้ว หรือ น้อยกว่า) ด้วย, สามารถอ่านบาร์โค้ดได้บนหลากหลายพื้นผิว ตั้งแต่การะดาษ, พลาสติก, โลหะ จนไปถึงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ย่อย อาทิ Printed Circuit Boards (PCB) หรือ เม็มโมรี่ชิพ นอกจากนี้ ยังสามารถอ่านบาร์โค้ดขนาดเล็กที่ถูกพิมพ์ลงบนพื้นผิวไม่สะท้อนแสงและบาร์โค้ดที่แสดงบนโทรศัพท์มือถือหรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานภายใต้สภาพแวดล้อมที่เสียงดัง จึงเป็นสแกนเนอร์รุ่นเดียวในผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันที่สามารถสั่นเพื่อแจ้งผู้ใช้งานได้ จึงช่วยให้ผู้ใช้งานรู้ได้ทันทีว่าพวกเขากำลังสแกนสิ่งที่ถูกต้อง แม้พวกเขาจะไม่สามารถได้ยินเสียงแจ้งก็ตาม การเก็บข้อมูลยังทำได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว และแม่นยำ เนื่องจากมีการรวมฟังก์ชั่น รวมไปถึงการสแกนรอบทิศทาง และการอ่านข้อมูลทุกความหนาแน่นและทุกระยะห่าง สามารถตรวจสอบว่าเชื่อมต่อกับอินเตอร์เฟซใดอยู่ โดยไม่จำเป็นต้องสแกนบาร์โค้ดหลายครั้ง

 

คุณศิวัจน์ โรจนเต็มศักดิ์, Sales Lead Thailand,  ซีบรา เทคโนโลยีส์ และสแกนเนอร์รุ่น DS4308-XD

เมโทรซิสเต็มส์ฯ จัดงาน “Transform to Omni-Channel Financial Service by IBM Technology”

          นายสุรเดช เลิศธรรมจักร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์โซลูชั่น บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด จัดงาน Transform to Omni-Channel Financial Service by IBM Technology เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีที่น่าสนใจสำหรับลูกค้ากลุ่มการเงิน การธนาคาร ประกันภัย และหลักทรัพย์ ประกอบด้วยข้อมูลสำคัญจาก IDC ที่จะชี้ให้เห็นถึงทิศทางของเทคโนโลยีสำหรับสถาบันการเงินที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจด้านบริการการเงิน การประกันภัย และการเข้ามามีบทบาทของ Financial Technology ที่ทำให้เกิดการใช้จ่ายแบบใหม่ ๆ ที่ส่งผลถึงภาพรวมของสถาบันการเงิน ตลอดจน Digital Transformation ในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ ลูกค้ายังได้พบกับโซลูชั่น MobileFirst, IBM Cast Iron และ IBM DataPower ที่จะช่วยให้การเชื่อมโยงบริการขององค์กรทั้งในระบบ Cloud Computing

เวลาเเห่งความสุข ความคุ้มค่ากลับมาอีกครั้ง กับงาน NPE Pro Audio & Electronics Fair 2016 จาก บริษัท นัฐพงษ์ เซลส์แอนด์เซอร์วิส จำกัด

          กลับมาอีกครั้งกับงาน NPE Pro Audio & Electronics Fair 2016 งานลดราคาครั้งยิ่งใหญ่แห่งปีของ บริษัท นัฐพงษ์ เซลส์แอนด์เซอร์วิส จำกัด ห้างสรรพสินค้าทันสมัย ที่เป็นศูนย์รวม เครื่องเสียงชั้นนำ ซูเปอร์มาร์เก็ต อิเล็กทรอนิกส์ อิเล็กทริค และ สินค้าอุตสาหกรรม เเบบครบวงจร หากใครเป็นขาประจำวงการเครื่องเสียง เเละอิเล็กทรอนิกส์ก็คงพอจะรู้อยู่เเล้วว่า บริษัท นัฐพงษ์ฯ จัดงานมหกรรมสินค้าราคาพิเศษนี้เป็นประจำทุกปี ลดเยอะที่สุด เเละให้สิทธิประโยชน์มากที่สุด ในงานนี้เท่านั้น

 

 

          ซึ่งในปี 2016 นี้ ก็กลับมายกขบวนสินค้าหลากหลายมาลดราคา คืนกำไรให้ลูกค้ากันอีกครั้ง ทั้งที่สำนักงานใหญ่บ้านหม้อและสาขาเซียร์รังสิต ทุกวันไม่เว้นวันอาทิตย์ โดยเริ่มตั้งแต่ 30 สิงหาคม ถึง 10 กันยายน 2558 กับทุกกลุ่มสินค้า ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเครื่องเสียงทุกรูปเเบบ นับตั้งเเต่เครื่องเสียงเพื่องาน PA งานห้องประชุม ระบบเสียงตามสาย งาน Concert งานออก Event ต่าง ๆ เเละอีกหลากหลายการใช้งาน หรือเเม้เเต่อะไหล่ เครื่องมือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไฟฟ้า เเละอุตสาหกรรม กับสินค้าทั้งของในประเทศ หลากหลายแบรนด์ดังในเครือ NPE จากโรงงาน เอ็นพีอี อินดัสตรี (ไทยแลนด์) จำกัด และสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Alto, Beta Three, Mipro, Superlux, Show, Eminence, myNPE, myNPE, Topp Pro, BMB, Belden, Shure, Bheringer, Yamaha, Pioneer และเปิดตัวสินค้าใหม่ล่าสุดกับแบรนด์ Celestion และรวมไปถึงสินค้าอะไหล่ อุปกรณ์ เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ จาก Pro’s Kit, Wima, MEC, Sunon, Kontakt Chemie, Neutrik, Alpha, Amphenol และอื่น ๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าเกือบทั้งร้าน เอามาลดราคากันที่สุดครั้งเดียวในรอบปี

 

 

          นอกจากขนสินค้าคุณภาพมาลดราคากันแล้วยังมี สิทธิพิเศษอื่นๆอีกมากมายกับ Special Promotion ต่าง ๆ ที่ช่วยให้การ ช๊อปปิ้งของคุณ สนุก คุ้มค่า เเละง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เเคมเปญรับฟรี Cash Voucher ใช้เเทนเงินสด เมื่อซื้อสินค้าครบตามยอดที่กำหนด เเละยังจะได้รับของขวัญพิเศษ ๆ ทำเฉพาะงานนี้ จากเเบรนด์สินค้าต่าง ๆ เเละพิเศษกว่า สำหรับสมาชิกบัตรสมาชิก MyNPE Card เพื่อรับสิทธิประโยชน์ที่มากกว่า อย่าลืมพกบัตรมา

และยังมีกิจกรรมสนุก ๆ ที่เตรียมมาให้ลูกค้าร่วมสนุกภายในงาน สมาชิกทุกท่านต้องเตรียมพกบัตรกันมาให้พร้อม เพื่อรับสิทธิประโยชน์ของท่านได้อย่างเต็มที่ หากใครยังไม่มีบัตรก็มาเตรียมสมัครกันได้ทั้ง 2 สาขา ฟรี

สนใจติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ฝ่ายขายของ บริษัท นัฐพงษ์ เซลส์แอนด์เซอร์วิส จำกัด สำนักงานใหญ่บ้านหม้อ โทรศัพท์ 0-2225-0094 และสาขาเซียร์รังสิต โทรศัพท์ 0-2992-7379  หากสนใจเพิ่มเติมสามารถหาข้อมูลได้ทางเว็บไซต์ www.mynpe.com และผ่านทาง Fanpage ของบริษัทได้ที่ www.facebook.com/mynpethailand หรือจะเข้ามา follow Twitter ของบริษัทก็ได้เช่นกันที่ http://twitter.com/mynpethailand ตามช่องทางที่สะดวกได้เลย

ยิปรอค พาสามโครงการชั้นนำของไทย ร่วมแสดงผลงานในงานนวัตกรรมยิปซัมระดับโลก“แซง-โกแบ็ง ยิปซัม อินเตอร์เนชันแนล โทรฟี ครั้งที่ 10” ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก

          บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตนวัตกรรมยิปซัมคุณภาพสูงภายใต้แบรนด์  “ยิปรอค” ภายใต้ เครือแซง-โกแบ็ง กรุ๊ป เครือบริษัทการผลิตโครงสร้างอาคารรายใหญ่ของโลก เข้าร่วมการประกวด “แซง-โกแบ็ง ยิปซัม อินเตอร์เนชันแนล โทรฟี ครั้งที่ 10” ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก โดยส่ง 3 โครงการได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, โรงแรมเบด บาย ครูส แอท สามัคคี-ติวานนท์, และ มหิดลสิทธาคาร โดยทั้งสามเป็นโครงการชนะเลิศจากรายการ “แซง-โกแบ็ง ยิปรอค เนชันแนลโทรฟี ไทยแลนด์ 2558” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อคัดเลือกตัวแทนจากเมืองไทยสำหรับส่งเข้าประกวดในงานระดับโลกครั้งนี้โดยเฉพาะ

โครงการชั้นนำทั้งสามจากประเทศไทยได้เข้าร่วมประชันความเป็นเลิศกับโครงการอื่นๆ อีกกว่า 89 โครงการจาก 35 ประเทศทั่วโลก โดยงานแซง-โกแบ็ง ยิปซัม อินเตอร์เนชันแนล โทรฟี ถือเป็นหนึ่งในโครงการประกวดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการก่อสร้างระดับโลก กำหนดจัดขึ้น ณ กรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็ก ระหว่างวันที่ 3-5 มิถุนายน 2559 ผลการประกวดตัดสินโดยคณะกรรมการอิสระ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านและตัวแทนจากนานาประเทศ โดยมีการมอบรางวัลในหลากหลายประเภทของการประกวด

 

          มร.ริชาร์ด จูเชรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในนามของยิปรอค ผู้ผลิตนวัตกรรมแผ่นยิปซัมและปูนปลาสเตอร์คุณภาพสูง ผมขอแสดงความยินดีและความชื่นชมต่อตัวแทนโครงการทั้งสามของประเทศไทย ทั้ง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, โรงแรมเบด บาย ครูส แอท สามัคคี-ติวานนท์ และ มหิดลสิทธาคาร ซึ่งล้วนเป็นโครงการผู้ชนะเลิศจากการประกวด “แซง-โกแบ็ง ยิปรอค เนชันแนลโทรฟี ไทยแลนด์ 2558”  ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยเพื่อคัดเลือกโครงการสู่การประกวดในระดับโลก ซึ่งโครงการเหล่านี้ล้วนเป็นโครงการชั้นเลิศที่เราภาคภูมิใจอย่างมาก สำหรับการประกวดระดับโลกที่กรุงปรากถือเป็นงานครั้งยิ่งใหญ่ที่รวบรวมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมระดับโลกและการจัดแสดงนวัตกรรม โซลูชั่นส์เพื่อความยั่งยืน และผลงานการก่อสร้างที่มีความสวยงามโดดเด่น โดยใช้ผลิตภัณฑ์ยิปรอค”

 

          สำหรับขั้นตอนการตัดสิน คณะกรรมการพิจารณาจากการนำเสนอผลงานของโครงการที่ส่งเข้าประกวดและให้คะแนนตามหลักเกณฑ์ของประเภทรางวัลที่ส่งเข้าประกวด โดยทุกโครงการที่ส่งเข้าประกวดในประเภทเดียวกัน จะถูกพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการครั้งเดียวกัน เพื่อความเป็นธรรมและความต่อเนื่องในการพิจารณาตัดสิน

 

          ก่อนพิธีการประกาศผลรางวัลซึ่งจัดขึ้นในรูปแบบงานเลี้ยงกาล่าดินเนอร์ แขกผู้มีเกียรติภายในงานต่างได้รับชมโครงการที่เข้าประกวดทั้งหมด 89 โครงการจาก 35 ประเทศทั่วโลก เมื่อเจ้าของโครงการทั้งสามจากประเทศไทยเดินทางไปถึงกรุงปราก ก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมเสียงชื่นชมอย่างมากถึงการออกแบบอาคารที่มีความโดดเด่น ตลอดจนการใช้โซลูชั่นการก่อร้างแบบครบวงจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เข้าประกวดทุกรายต่างได้เรียนรู้จากประสบการณ์และแนวคิดการออกแบบของโครงการอื่น ๆ จากทั่วโลก ซึ่งล้วนมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือการใช้ผลิตภัณฑ์ยิปซัมในเครือแซง-โกแบ็ง โดยทุกโครงการนำเสนองานก่อสร้างที่มีความสวยงาม ยั่งยืน และคุ้มค่า ตลอดจนการใช้โซลูชั่นที่ชาญฉลาดผ่านการใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงของยิปรอค

 

          แซง-โกแบ็ง ยิปซัม อินเตอร์เนชันแนล โทรฟี คือหนึ่งในการประกวดโครงการสถาปัตยกรรมยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อวงการนักออกแบบและการก่อสร้างระดับสากล โดยเริ่มจัดการประกวดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1998 เพื่อยกย่องและเชิดชูโครงการก่อสร้างที่มีผลงานโดดเด่นในการใช้แผ่นฝ้าผนังและปูนฉาบในการสร้างสรรค์งานก่อสร้างได้อย่างเป็นเลิศ

การประกวดจัดขึ้นทุกสองปีโดยบริษัทในเครือแซง-โกแบ็ง ซึ่งในช่วงแรกเป็นการจัดประกวดผลงานเฉพาะเขต ต่อมาจึงขยายเป็นงานระดับประเทศและแพร่หลายสู่ระดับโลกในปัจจุบัน สำหรับการประกวดในปีนี้จัดโดย แซง-โกแบ็ง รีจิปส์ สาธารณรัฐเช็ก

 

จากภาพ: มร.ริชาร์ด จูเชรี (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) และคณะผู้บริหารถ่ายภาพร่วมกันกับ มร.โคลด อเล็น ทาร์ดี้ (ที่ 5 จากซ้าย) ประธานฝ่ายธุรกิจผลิตภัณฑ์ยิปซัม ฝ้าเพดานและวัสดุฉนวน แซง-โกแบ็ง กรุ๊ป และ พันตำรวจโท ดร.บัณฑิต ประดับสุข (ที่ 3 จากซ้าย) อุปนายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมกับตัวแทนจากสามโครงการชั้นนำของประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, โรงแรมเบด บาย ครูส แอท สามัคคี-ติวานนท์ และมหิดลสิทธาคาร) ในงาน “แซง-โกแบ็ง ยิปซัม อินเตอร์เนชันแนล โทรฟี ครั้งที่ 10” ณ กรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็ก

เมสเซ่ แฟรงก์เฟิร์ต นิว เอร่า ผนึก เวิลด์เด็กซ์ จี.อี.ซี. ประกาศ จัดงาน GDSF Thailand 2016 และ SMAhome Thailand 2016 by Secutech เวทีระดับนานาชาติด้านเทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยและสมาร์ทโฮม

          เมสเซ่ แฟรงก์เฟิร์ต นิว เอร่า จับมือ เวิลด์เด็กซ์ จี.อี.ซี. ประกาศ ความพร้อมการจัดสัมมนานานาชาติด้านเทคโนโลยีพร้อมกันสองงาน ได้แก่ เทคโนโลยีด้านการรักษาความปลอดภัยและเทคโนโลยีสมาร์ทโฮม ในชื่อ GDSF Thailand 2016 หรือ Global Digital Security & Solutions Forum และ SMAhome Thailand 2016 โดย Secutech ระหว่างวันที่ 1-3 กันยายน 2559 ณ ไบเทค บางนา สมบูรณ์แบบด้วยงานสัมมนาอัพเดทแนวโน้มเทคโนโลยีด้านการรักษาความปลอดภัยและสมาร์ทโฮมจากนานาประเทศพร้อม โซนแสดงสินค้าและเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก

 

          ภายในงานยังประกอบด้วยการจัดสัมมนา 3 งานสำคัญเพื่อสนับสนุนธุรกิจอาคารสูง โรงแรม อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจค้าปลีก การบริหารเมืองของภาครัฐ และธุรกิจสมาร์ทโฮม ในหัวข้อ 1) แนวคิดใหม่ด้านการรักษาความปลอดภัยอาคารสูงและโครงการอสังหาริมทรัพย์ (Security & Safety For High-Rise Building& Property Project)  2) บริหารเมืองและชุมชนอย่างไรให้เป็นเซฟซิตี้ (Safe City for Smart City) และ 3) การออกแบบแสง พลังงานแสงอาทิตย์ การรักษาความปลอดภัยและสมาร์ทโฮมเพื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (Lighting Design, Solar Energy and Smart Home Solutions for Real Estate Business) โดยวิทยากรและมืออาชีพแถวหน้าของไทย

 

          นอกจากนี้ ยังมีการสัมมนาเชิงเทคโนโลยีโดยผู้นำเทคโนโลยีระดับโลกในประเด็นต่าง ๆ อาทิ แนวคิดใหม่ของการใช้ IoT ในระบบรักษาความปลอดภัย (IoT Application in Security Industry) แนวโน้มการใช้วิดีโอสำหรับสมาร์ทซิตี้ (Video Applications for Smart City) เทรนด์การใช้ Big Data และเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยให้เกิดประโยชน์สูงสุด (Data Technology Era: Big Data in Surveillance and the Role of Storage) และเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อการควบคุมบ้านอัจฉริยะ (Tech for Home Control)  เป็นต้น

 

          งาน GDSF Thailand 2016 และงาน SMAhome Thailand 2016 by Secutech เหมาะสำหรับนักธุรกิจด้านการรักษาความปลอดภัยและสมาร์ทโฮม นักพัฒนา ผู้ผลิต ผู้ติดตั้ง เจ้าของธุรกิจ วิศวกร สถาปนิก นักออกแบบ รวมทั้งกลุ่มผู้ใช้งานในหน่วยงานภาครัฐ นักลงทุน เจ้าของกิจการขนาดใหญ่ องค์กรคมนาคมขนส่ง โรงงานอุตสาหกรรม นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผู้ค้าปลีก โรงแรมและธนาคาร

งาน GDSF Thailand 2016 และ SMAhome Thailand 2016 by Secutech ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ได้แก่ สมาคมรักษาความปลอดภัยภาคพื้นเอเชีย สมาคมผู้ประกอบการระบบรักษาความปลอดภัยไทย และ สมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร

 

          งาน GDSF Thailand 2016 หรือ Global Digital Security & Solutions Forum และ SMAhome Thailand 2016 โดย Secutech เป็นงานสัมมนานานาชาติพร้อมส่วนแสดงสินค้าด้านเทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยและเทคโนโลยีสมาร์ทโฮม กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 กันยายน 2559 ณ ไบเทค บางนา

 

          ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้าร่วมงานฟรีได้ที่เว็บไซต์ www.thailandsmartech.com หรือติดต่อ บริษัท เวิลด์เด็กซ์ จี.อี.ซี.จำกัด โทรศัพท์ 02 664 6488 ต่อ 401 และ405  โทรสาร 02-641-5480,82 อีเมล์: info@thailandsmartech.com

 

นายสุปกิต โพธิ์ปภาพันธ์ (กลาง) รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในงานแถลงข่าวการจัดงาน GDSF Thailand 2016 และ SMAhome Thailand 2016 by Secutech โดยมี นายนิคม เลิศมัลลิกาพร (ที่ 4 จากขวา) ประธานบริษัท เวิลด์เด็กซ์ จี.อี.ซี. จำกัด และ นางสาวเวโรนิกา เฉิน (ที่ 4 จากซ้าย) ผู้จัดการกลุ่มงาน บริษัท เมสเซ่ แฟรงก์เฟิร์ต นิว เอร่า บิสิเนส มีเดีย จำกัด  พร้อมด้วยผู้บริหารจากหน่วยงานผู้สนับสนุนได้แก่ ดร.วัลลภ กิ่งชาญศิลป์ (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานสมาคมรักษาความปลอดภัยภาคพื้นเอเชีย, นายโทนี่ หยาง (ที่ 2 จากขวา)  นายกสมาคมผู้ประกอบการระบบรักษาความปลอดภัยไทย และ นายรณรงค์ กิติรักษ์ (ขวาสุด) เลขาธิการ สมาคมผู้ตรวจสอบและบริหารความปลอดภัยอาคาร เข้าร่วมประกาศความพร้อมในการจัดงานฯ โดยมีผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็น สักขีพยาน ณ ห้องคันธวาส เพลส ชั้น 4 โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน ถนนวิทยุ

เฮงเค็ล พัฒนาโซลูชั่นวัสดุนวัตกรรมเพื่อการพิมพ์สามมิติในหลากหลายอุตสาหกรรม

          การผลิตด้วยวิธีเพิ่มเนื้อวัสดุ (Additive Manufacturing) หรือ การพิมพ์สามมิติ (3D Printing) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายในฐานะ “การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหม่” ได้กลายมาเป็นอุตสาหกรรมมูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นอกเหนือไปจากใช้การพิมพ์สามมิติในภาคส่วนผู้บริโภค เฮงเค็ล ผู้ผลิตโซลูชั่นกาว ผลิตภัณฑ์กันรั่วซึมและเคลือบพื้นผิวโลหะให้แก่หลากหลายอุตสาหกรรม กำลังมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการพิมพ์สามมิติที่สามารถใช้งานได้หลากหลายในอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน

 

          ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีนี้กำลังเป็นที่สนใจอย่างกว้างขวางและยอดขายเครื่องพิมพ์สามมิติยังคงมีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่สถิติแสดงให้เห็นว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายเครื่องพิมพ์สามมิติในปี 2558 มาจากภาคส่วนผู้บริโภค ซึ่งภาคส่วนผู้บริโภคที่ซื้อเครื่องพิมพ์สามมิตินี้มีแนวโน้มที่จะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก มีต้นทุนต่ำ และมีกำลังการผลิตจำกัด

 

          บริษัทนวัตกรรมหลายบริษัทตลอดห่วงโซ่คุณค่าในอุตสาหกรรมหลายประเภท กำลังมองหาวิธีการใหม่ ๆ ที่จะใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อการทำงานในระดับที่ใหญ่ขึ้น ในฐานะผู้บุกเบิกเทคโนโลยีนี้ หน่วยธุรกิจเทคโนโลยีกาวของเฮงเค็ลเดินหน้าพัฒนาโซลูชั่นวัสดุอันล้ำสมัยที่จะช่วยให้สามารถสร้างชิ้นงานต้นแบบด้วยการพิมพ์สามมิติ และทำให้เทคโนโลยีนี้ถูกนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างกว้างขวางในการผลิตในหลากหลายอุตสาหกรรม

 

          อุตสาหกรรมก่อสร้าง โซลูชั่นกาวของเฮงเค็ลถูกใช้ในโครงการก่อสร้างด้วยการพิมพ์สามชั้นนำหลายโครงการ อาทิ อาคารยุโรป (European Building) ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ศูนย์ประชุมชั่วคราวแห่งนี้ถูกสร้างโดยความร่วมมือระหว่างบริษัทเทคโนโลยีและบริษัทด้านการออกแบบหลายบริษัท เฮงเค็ลมีส่วนร่วมในการสร้างระบบนิเวศของโครงการ โดยร่วมมือกับบริษัทด้านการออกแบบการพิมพ์สามมิติชั้นนำ ดียูเอส อาร์คิเทคส์ (DUS Architects) ในการจัดหาส่วนผสมกาวร้อนสำหรับฟาซาด (Facade) หรือสิ่งตกแต่งส่วนหน้าของอาคารให้แก่อาคารหลังนี้

 

          อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ กาวร้อนของเฮงเค็ลถูกใช้ในการสร้างต้นแบบงานอุตสาหกรรมสำหรับการใช้งานอันหลากหลาย วัสดุนี้สามารถใช้ในการสร้างสรรค์งานเฟอร์นิเจอร์จากงานพิมพ์สามมิติในยุคแรก เช่น ม้านั่ง หรือ โคมไฟ

 

          อุตสาหกรรมยานยนต์ ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีกาวของเฮงเค็ลยังช่วยทำให้เกิดการสร้างสรรค์งานต้นแบบในอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างรวดเร็ว ด้วยการใช้การพิมพ์สามมิติ ในขั้นตอนการแปลงคอนเซปต์ยานยนต์จากภาพร่างให้เป็นชิ้นงานจริง กาวแห้งตัวด้วยแสงยูวี (UV Curable Adhesives) ของเฮงเค็ลช่วยให้การพิมพ์สามมิติใช้วัสดุที่แตกต่างกันได้ ทำให้สามารถสร้างงานต้นแบบได้ในไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วัน วิธีสร้างงานต้นแบบยานยนต์ด้วยการพิมพ์สามมิติ ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดเวลา แต่ยังทำให้ดีไซเนอร์และวิศวกรยานยนต์ทดสอบและปรับแก้งานออกแบบให้ดียิ่งขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ในขั้นตอนการแปลงคอนเซปต์ยานยนต์จากภาพร่างให้เป็นชิ้นงานจริงนี้ต้องอาศัยการทดสอบซ้ำ ซึ่งในบางครั้งการทดสอบอาจเกิดขึ้นเป็นร้อย ๆครั้ง การผลิตด้วยวิธีเพิ่มเนื้อวัสดุด้วยการพิมพ์สามมิติมอบความยืดหยุ่น ทำให้การพิมพ์อะไหล่สามารถปรับแก้ได้ตลอดเวลา

 

          เทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติถูกใช้เพื่อการสร้างงานต้นแบบอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่อาจถูกนำมาใช้ในการสร้างชิ้นงานสำเร็จรูปในอนาคต เฮงเค็ลพัฒนาโซลูชั่นกาวซึ่งทำให้เกิดการใช้วัสดุใหม่ๆในการพิมพ์สามมิติ ความก้าวหน้าในการผลิตชิ้นงานจริง และลดระยะเวลาที่ใช้ในการผลิต นวัตกรรมนี้จะช่วยปูทางให้กับเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติในการผสานกับขั้นตอนการผลิตยานยนต์ อาทิเช่น การขึ้นรูปรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ด้วยการพิมพ์สามมิติ

 

 

          ฟาซาด (Facade) หรือสิ่งตกแต่งส่วนหน้าของอาคารที่มีดีไซน์สะดุดตา ถูกติดตั้งอยู่ที่ศูนย์ประชุมสหภาพยุโรป (EU Congress Center) ที่เมืองอัมสเตอร์ดัม เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่มีชื่อเสียงของความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติ

 

 

          การพิมพ์สามมิติ (3D Printing) หรือ การผลิตด้วยวิธีเพิ่มเนื้อวัสดุ (Additive Manufacturing) คือตัวอย่างหนึ่งของกระแสการผลิตสินค้าจำนวนมากตามความต้องการลูกค้าเฉพาะราย ซึ่งจะเข้ามาเติมเต็มการผลิตจำนวนมากแบบดั้งเดิม

 

 

          โรงงานของเฮงเค็ลในเมืองไฮเดลเบิร์ก เยอรมนี ใช้เครื่องพิมพ์สามมิติในการพัฒนาอะไหล่ที่มีความซับซ้อนสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับสากล เครื่องพิมพ์นี้สร้างอะไหล่สามมิติจากข้อมูลดีไซน์ที่เกี่ยวกับตัวถังรถยนต์ซึ่งได้รับจากผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ

 

บริษัท นิวแม็ก จำกัด สัมมนาหัวข้อ "Air Saver Unit & High Temperature Protection Technology" ของแผนก Pneumatic

          บริษัท นิวแม็ก จำกัด ได้จัดสัมมนาลูกค้าเชิงวิชาการเกี่ยวกับ Air Saver Unit & High Temperature Protection Technology ขึ้นในวันที่ 17 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา โดยในการจัดสัมมนาครั้งนี้ ได้มีหลายบริษัทที่ให้ความสนใจ เข้าร่วมการสัมมนาเป็นจำนวนมาก ซึ่งการสัมมนาครั้งนี้ได้เน้นเรื่องความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ประหยัดพลังงานลมในหลายๆรูปแบบ รวมถึงอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันการส่งผ่านและป้องกันความร้อน ได้อธิบายถึง หน้าที่การทำงาน การเลือกรุ่นให้เหมาะสมกับหน้างาน วิธีการติดตั้งใช้งาน และได้ทดสอบให้เห็นจริงด้วยชุดสาธิตเพื่อให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น อีกทั้งทางผู้เข้าร่วมสัมมนายังมีการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์การใช้งาน ข้อมูลทางเทคนิคต่างๆ กับทางวิทยากรด้วยบรรยากาศเป็นกันเอง ซึ่งทางบริษัทฯ ได้สร้างความมั่นใจในคุณภาพของสินค้า โดยให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้เยี่ยมชมสินค้าของจริง ที่มีความหลากหลาย และตรงกับความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งมีการทดสอบการทำงานของอุปกรณ์ ให้ลูกค้าได้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำงานของสินค้าโดยตรง

บริษัท นิวแม็ก จำกัด ส่งสินค้าเข้าร่วมแสดงในงาน Assembly & Automation Technology 2016

          บริษัท นิวแม็ก จำกัด ส่งสินค้าเข้าร่วมโชว์ในงาน Assembly & Automation Technology 2016 วันที่ 22-25 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา ทางบริษัท นิวแม็ก จำกัด ได้เข้าร่วมแสดงสินค้า และสาธิตการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ จากแผนก Automation ในงาน Assembly & Automation Technology 2016 ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจเข้าเยี่ยมชมสินค้าภายในบูธที่จัดแสดงเป็นจำนวนมาก

บูธ Pneumax Co.,Ltd. จัดแสดง

 

          Automation: Linear Bushing, Schneider Electric (Inverter & Sensors), Hanyoung Nux, Servobox, LS Mecaption

 

          Filtration: Bosch Rexroth (Filters), Kofil (EDM filters), KASS (Oil Cleaner), MP Filtri, Drytech

 

          Pneumatic: SHPI (Hose Reel, Quick Coupling), ZECA, CAMOZZI, KURODA, FIRESTONE, Airbest, FINDEVA, Venanzetti, York

 

          บูธ Hiwin Technologies จัดแสดง Ballscrew, Linear Guideway, Industrial Robot และ สินค้าอื่น ๆ

 

          ทางบริษัทฯ ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความสนใจเข้าเยี่ยมชม และทางบริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีจากท่านอีกในโอกาสต่อ ๆ ไป

Epson SureColor SC-P20070 คว้ารางวัลระดับโลก พรินเตอร์สำหรับพิมพ์ภาพและงานกราฟิกยอดเยี่ยม

          พรินเตอร์ระดับมืออาชีพจากเอปสัน รุ่น SureColor SC-P20070 คว้ารางวัล “พรินเตอร์สำหรับพิมพ์ภาพและงานกราฟิกยอดเยี่ยม (Best Photo Graphic Printer)” จาก EDP หรือ European Digital Press Association ในงาน Drupa งานจัดแสดงสินค้าและอุปกรณ์การพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่เมืองดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี ในการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพื่อวงการพิมพ์ระบบดิจิทัล

 

 

          Epson SureColor SC-P20070 เป็นพรินเตอร์หน้ากว้างที่รองรับงานพิมพ์ขนาด 64 นิ้ว มีการใช้เทคโนโลยีหัวพิมพ์ไมโครปิเอโซจากเอปสัน พร้อมทั้งยังมีการเพิ่มขนาดของหัวพิมพ์ให้ใหญ่ขึ้นถึง 2.64 นิ้ว เพื่อทำให้สามารถพิมพ์ภาพได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ยังมาพร้อมกับระบบการป้อนกระดาษอัตโนมัติและรองรับเทคโนโลยีหมึก Epson UltraChrome Pro Ink ที่ใช้หมึกจำนวน 9 สี โดยมีหมึกสีเทามากถึง 4 ระดับ จึงทำให้ภาพที่พิมพ์ได้มีความละเอียด มีมิติและความสมจริงมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือได้ว่าเครื่องรุ่นนี้เป็นพรินเตอร์หน้ากว้างที่มีความเร็วสูงรุ่นแรกของโลกที่มีนวัตกรรมนี้  พรินเตอร์รุ่นนี้เหมาะสำหรับการพิมพ์ภาพถ่ายและงานไฟน์อาร์ต อีกทั้งยังเหมาะกับธุรกิจบริการด้านงานพิมพ์ที่ต้องการพิมพ์ภาพขนาดใหญ่  ให้สีสดใส และมีความทนทานของภาพที่พิมพ์ดีเยี่ยม ในราคาที่คุ้มค่าอีกด้วย

มูลนิธิจีอีมอบทุนการศึกษาต่อเนื่องปีที่ 18

          มูลนิธิจีอี ซึ่งเป็นมูลนิธิเพื่อสาธารณประโยชน์ของ บริษัท เจเนอรัล อิเลคทริค จำกัด (จีอี) ได้มอบทุนการศึกษาประจำปี 2559 ซึ่งเป็นปีที่ 18 จำนวน 5 ทุน ให้แก่นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ระดับปริญญาตรี ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในสถาบันการศึกษาในจังหวัดกรุงเทพฯ ตรัง และสกลนคร นักศึกษาแต่ละคนจะได้รับทุนการศึกษา 2,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 70,000 บาทต่อปี เป็นเวลา 3 ปี โดยไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ หลังจบการศึกษา

 

          การมอบทุนการศึกษาดังกล่าวอยู่ภายใต้โครงการ GE Foundation Scholar Leaders Program ของมูลนิธิจีอี ที่ดำเนินงานอยู่ใน 10 ประเทศทั่วโลก เพื่อสนับสนุนนักศึกษาที่เรียนดี มีศักยภาพความเป็นผู้นำ และมีความรับผิดชอบต่อสังคม แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ สำหรับโครงการในประเทศไทย ทางมูลนิธิจีอีได้มอบหมายให้สถาบันการศึกษานานาชาติ (Institute of International Education, Southeast Asia (IIE/SEA) เป็นผู้บริหารทุนการศึกษาในนามของมูลนิธิจีอี

 

          ในประเทศไทย ได้มีการมอบทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาปริญญาตรีปีละ 5-10 ทุน มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ.2541 ใน 7 สาขาวิชา คือ การบัญชี วิทยาการคอมพิวเตอร์ เคมี เศรษฐศาสตร์ วิศวกรรม สิ่งแวดล้อม และคณิตศาสตร์/ฟิสิกส์ จนถึงปัจจุบัน มีนักศึกษาที่ได้รับทุนจากมูลนิธิจีอีแล้วกว่า 160 คน ซึ่งบางส่วนกำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาโท และปริญญาเอก 

 

ในภาพ นางสาริศา กฤษฏาพงษ์ (ที่ 3 จากขวา) ผู้อำนวยการแผนกทรัพยากรบุคคล บริษัท จีอี ประเทศไทย จำกัด และนักศึกษาที่ได้รับทุนจากมูลนิธิจีอีประจำปี 2559

จีอีสร้างสถิติโลกในกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดขึ้นแท่นผู้ขับเคลื่อนโรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

          จีอี (NYSE: GE) และ การไฟฟ้าฝรั่งเศส หรือ อีดีเอฟ (EDF: Electricity of France) เริ่มเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมในเมืองบูแชงประเทศฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ โรงไฟฟ้าแห่งนี้ใช้เครื่องกังหันก๊าซรุ่น HA ของจีอี การเริ่มเดินเครื่องโรงไฟฟ้าครั้งนี้นับเป็นการเปิดศักราชใหม่ของการบูรณาการระบบดิจิทัลเข้ากับเทคโนโลยีการผลิตกระแสไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์ ในโอกาสนี้ จีอียังประกาศว่ากินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดได้บันทึกให้จีอีเป็นผู้ขับเคลื่อนโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดของโลก จากการที่โรงไฟฟ้าในเมืองบูแชงแห่งนี้มีประสิทธิภาพการทำงานในอัตราที่สูงถึงร้อยละ 62.22

 

          นายสตีฟ บอลเซ่ ประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารของจีอี พาวเวอร์ กล่าวว่า “วันนี้ เราได้สร้าง ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการเปิดตัวโรงไฟฟ้าแห่งอนาคต เรายินดีที่ได้รับการบันทึกในกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดในฐานะผู้สร้างระบบให้แก่โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดของโลกเราภูมิใจที่เครื่องกังหันก๊าซของจีอีได้มอบความน่าเชื่อถือและความยืดหยุ่นระดับแนวหน้าของวงการให้กับลูกค้าของเรา จีอีมุ่งหวังที่จะทำงานร่วมกับอีดีเอฟและส่งมอบบริการที่จะช่วยให้โรงไฟฟ้าในบูแชงเดินเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องในอนาคต”

 

          เครื่องกังหันก๊าซรุ่น HA ของจีอีมิเพียงมีประสิทธิภาพสูงเหนือชั้น หากแต่ยังมีความยืดหยุ่นมากขึ้น สามารถเดินเครื่องได้เต็มพิกัดภายในระยะเวลาไม่ถึง 30 นาที ทั้งยังช่วยให้พันธมิตรของจีอีสามารถใช้พลังงานทดแทนได้เพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการไฟฟ้าในระบบที่เปลี่ยนแปลงขึ้นลงอยู่ตลอดได้อย่างรวดเร็ว และปรับตัวต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที ความล้ำหน้าทาง เทคโนโลยีเหล่านี้สอดคล้องกับข้อตกลงปารีสที่จัดทำขึ้นในระหว่างการประชุมสหประชาชาติว่าด้วย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 21 (COP21) โดยผู้แทนจาก 195 ประเทศที่เข้าร่วมประชุมได้ให้ ปฏิญญาไว้ว่าจะช่วยกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและให้ความสำคัญต่อการผลิตไฟฟ้าจากพลังงาน สะอาดให้มากยิ่งขึ้น

 

          นายฌ็อง–เบอร์นาร์ด เลวี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอีดีเอฟ กล่าวว่า “การที่อีดีเอฟเลือกพัฒนา โรงไฟฟ้าพลังความร้อนรุ่นใหม่นี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในตลาดมาขับเคลื่อนให้โรงไฟฟ้าพลังความร้อนของประเทศให้มีประสิทธิภาพด้านพลังงานที่สูงขึ้น ตลอดจนช่วยสนับสนุนช่วงเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน สิ่งเหล่านี้ช่วยยืนยันถึงความตั้งใจปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาด้านนวัตกรรมภายใต้กลยุทธ์ CAP2030”

 

          โรงไฟฟ้าบูแชงแสดงให้เห็นถึงความสามารถของโรงไฟฟ้าระบบดิจิทัลของจีอี ที่ช่วยให้การผลิตไฟฟ้า เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยสามารถนำพลังงานที่เคยสูญเสียไปกับระบบกลับมาใช้ได้ โดยจีอีใช้ประโยชน์จากข้อมูลแบบเรียลไทม์ในการขับเคลื่อนการทำงานของระบบรวมถึงการควบคุมระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยดิจิทัล ซึ่งส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพและเสถียรภาพ ทั้งยังให้ข้อมูลที่จำเป็นเพื่อให้สามารถรับรู้ถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ล่วงหน้า ซึ่งส่งผลให้เกิดความน่าเชื่อถือและช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างสูงสุด โดยโรงไฟฟ้าบูแชงมีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าสูงกว่า 605 เมกะวัตต์หรือมากเพียงพอที่จะจ่ายกระแสไฟฟ้า ให้แก่บ้านเรือนกว่า 6.8 แสนหลังคาเรือน

 

          นายโจ แมสเตรนเจโล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านก๊าซ พาวเวอร์ ซิสเตมส์ ของจีอี พาวเวอร์ กล่าวว่า “การเปิดเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญของจีอีในอุตสาหกรรมพลังงาน ความสำเร็จนี้มิอาจเกิดขึ้นได้เลยหากปราศจากความมุ่งมั่นทุ่มเทและความอุตสาหะของพนักงานจีอี และอีดีเอฟจำนวนมากทั่วโลกที่ต่างมุ่งมั่นเดินหน้าสู่การใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จีอีมีสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่สามารถร่วมประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ได้ โดยผ่านการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ ซอฟต์แวร์ และบุคลากรเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดผลลัพธ์ดังกล่าว”

ไทคอนมั่นใจ Brexit ไม่กระทบธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า

          แม้มติ Brexit จะออกมาสะเทือนเศรษฐกิจทั่วโลก แต่ วีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มไทคอน ออกมายืนยันสถานการณ์นี้ไม่กระทบกับธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าของกลุ่มไทคอนแน่นอน ย้ำภาพรวมการดำเนินงานครึ่งปีแรกเติบโตดีกว่าปีที่ผ่านมา แถมแนวโน้มครึ่งปีหลังยังเติบโตได้อีก มั่นใจสามารถขยายพื้นที่ให้เช่าโรงงานและคลังสินค้าได้ตามเป้าหมาย 280,000 ตรม. พร้อมวางแผนโรดโชว์ถี่ยิบที่สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกาในช่วงครึ่งปีหลังเพื่อตอกย้ำความมั่นใจให้กับนักลงทุนสถาบันทั่วโลก

ไอเอสเอสพี แนะธุรกิจปรับตัวรับเทรนด์ IoT เลือกใช้ Data Center จัดเก็บข้อมูลสำคัญขององค์กร

          ไอเอสเอสพี เผยเทรนด์ Internet of Thing บูม แนะธุรกิจตื่นตัว เตรียมพร้อมรับข้อมูลมหาศาล แนะแนวทางลดการลงทุนเซิร์ฟเวอร์ ด้วยบริการเช่าใช้ Data Center แทนการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานองค์กรด้วยตนเอง

 

          นายบัณฑิต ว่องวัฒนะสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์เนต โซลูชั่น แอนด์ เซอร์วิส โพรวายเดอร์ จำกัด กล่าวว่า เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) เริ่มเข้ามามีบทบาทใกล้ชิดกับชีวิตประจำวันมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ที่ทำให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกันระหว่างมนุษย์  เครื่องจักร หรือสิ่งของต่าง ๆ รอบตัวที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งจากเทคโนโลยีดังกล่าวจึงก่อให้เกิดข้อมูลจำนวนมากมายมหาศาล ซึ่งเป็นประโยชน์มากหากภาคธุรกิจสามารถนำความสามารถของ IoT มาช่วยในการบริหารจัดการสินทรัพย์ การคำนวณปริมาณการทำงาน การพัฒนาออกแบบสินค้า บริการ และโปรโมชั่นใหม่ ๆ โดยใช้ข้อมูลที่ถูกรวบรวมมาจาก IoT แล้วส่งผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มาเก็บไว้ในฐานข้อมูลของแต่ละองค์กร และด้วยปริมาณข้อมูลที่ล้นหลามเหล่านี้ ทำให้หลายองค์กรเกิดปัญหาในเรื่องอุปกรณ์ในการจัดเก็บข้อมูล ทำให้จำเป็นต้องลงทุนในเรื่องระบบเซิร์ฟเวอร์รองรับเทคโนโลยีดังกล่าว ซึ่งใช้งบประมาณการลงทุนค่อนข้างสูง และจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ไอทีคอยดูแลแก้ปัญหาที่เกิดจากการจัดเก็บข้อมูล รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการรักษาความปลอดภัยข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ขององค์กรด้วย ทำให้เกิดภาระเรื่องค่าใช้จ่ายอันเป็นต้นทุนสำคัญในการทำธุรกิจให้ทันสมัย

 

 

          อย่างไรก็ดี ไอเอสเอสพี ขอนำเสนอทางเลือกให้สำหรับองค์กรต่าง ๆ ที่ต้องการลดภาระในการลงทุนติดตั้งเครื่องเซิร์ฟเวอร์โดยไม่ต้องลงทุนวางเครือข่ายเอง มีการดูแลตรวจสอบระบบตลอด 24 ชั่วโมง โดยผู้เชี่ยวชาญภายในห้องที่สมบูรณ์ด้วยระบบควบคุมที่เคร่งครัด ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลทุกข้อมูลจะถูกเก็บไว้อย่างดีเสมือนอยู่ในห้องนิรภัย ผ่านบริการ Internet Data Center ที่มีประสิทธิภาพสูงตามมาตรฐานสากล มีบุคลากรผู้เชี่ยวชาญในด้านการดูแลระบบที่ผู้ใช้บริการสามารถไว้วางใจได้ ไม่ว่าจะเป็นระบบการจัดการสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบ และโครงสร้างพื้นฐานอันทันสมัย เช่น ระบบปรับอุณหภูมิ ระบบสำรองไฟ ระบบป้องกันอัคคีภัย ระบบกล้องวงจรปิด พร้อมผู้ดูแลตรวจสอบระบบตลอด 24 ชั่วโมง

 

          นอกจากนี้ยังมีบริการให้เช่าเครื่องเซิร์ฟเวอร์คุณภาพสูง (Dedicated Server) ทั้งแบบเครื่องพร้อมใช้งานสำหรับจัดเก็บข้อมูล หรือเว็บไซต์ของผู้ใช้บริการบนเครื่องเซิร์ฟเวอร์แล้วนำไปวางที่ศูนย์ข้อมูลของไอเอสเอสพี โดยไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ร่วมกับผู้อื่น เพื่อประสิทธิภาพ และความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลของแต่ละองค์กร ทำให้ไม่จำเป็นต้องลงทุนเซิร์ฟเวอร์เอง แต่ได้รับสิทธิ์ในการใช้งานอย่างเต็มที่ พร้อมการดูแลและแก้ไขระบบโดยทีมงานวิศวกรที่มีคุณภาพตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ธุรกิจขององค์กรต่าง ๆ มั่นใจได้ในการให้บริการ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างไม่มีสะดุดโดยสามารถมั่นใจในบริการรับฝากเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ดาต้าเบสเซิร์ฟเวอร์ หรืออุปกรณ์ที่จำเป็นต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากที่ตั้งของศูนย์ข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของไอเอสเอสพี ตั้งอยู่ ณ อาคาร กสท บางรัก (อาคารที่ตั้งของระบบ International Internet Gateway (IIG) และ National Internet Exchange (NIX) ของประเทศไทย) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลอินเตอร์เน็ตระหว่างประเทศ (National Internet Gateway) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

           

          “ด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปเร็วมากในปัจจุบัน  ธุรกิจต่าง ๆ จำเป็นต้องปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ใหม่ ๆ การลดขนาดการลงทุนลง เพิ่มความคล่องตัวทางธุรกิจ ด้วยการเลือกใช้บริการผ่านบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเป็นสิ่งจำเป็น เพราะช่วยลดภาระต้นทุนองค์กร สามารถผลักดันให้องค์กรสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และสามารถสร้างศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายบัณฑิต กล่าวทิ้งท้าย

 

นายบัณฑิต ว่องวัฒนะสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์เนต โซลูชั่น แอนด์ เซอร์วิส โพรวายเดอร์ จำกัด

สศอ. แนะภาครัฐหนุน 4 ปัจจัย เปิดเสรีอุตสาหกรรมการบริการ

          สศอ. เผยผลการศึกษาเปิดเสรีอุตสาหกรรมการบริการ ภาครัฐควรส่งเสริม 4 ปัจจัย เพิ่มความสะดวกในการทำธุรกิจให้กับ 5 อุตสาหกรรมเป้าหมาย

 

          นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า สศอ.ได้ร่วมกับ บริษัท โบลลิเกอร์ แอนด์คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินโครงการศึกษากลยุทธ์การสร้างความเชื่อมโยงอุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมบริการไทย ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมระหว่างประเทศใน 5 อุตสาหกรรมการผลิตเป้าหมายได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน, อาหารแปรูป, สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม, พลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีศักยภาพในการสร้างมูลค่าเพิ่ม พบว่า เพื่อเป็นการเพิ่มความสะดวกในการทำธุรกิจและสนับสนุนการเปิดเสรีอุตสาหกรรมการบริการใน 5 อุตสาหกรรมการผลิตเป้าหมายดังกล่าว ภาครัฐควรอำนวยความสะดวกใน 4 ปัจจัย คือ  

 

          1.สนับสนุนการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างอุตสาหกรรมการผลิตและบริการในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งสนับสนุนการประสานการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานรัฐด้วยกัน

          2.การปรับปรุงกฎหมาย ที่จำกัดการลงทุนและทำธุรกิจโดยชาวต่างชาติให้ทันสมัยมากขึ้น และปรับปรุงกฎระเบียบที่ทำให้การให้บริการที่ส่งเสริมการผลิตและส่งออกที่ติดขัดให้ดีขึ้น

          3.ส่งเสริมการเจรจาเปิดเสรีการบริการเชิงรุก ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตในบริบทการเจรจาการค้าเสรีให้มากขึ้น โดยเปิดเสรีบริการให้ครอบคลุมทุกภาคบริการที่จำเป็น และดำเนินการภายในเพื่อรองรับการเจรจา

          4.ส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมาพัฒนาการผลิตและบริการให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการบริการให้สูงขึ้น ทั้งนี้รวมถึงการพัฒนาฐานข้อมูลการบริการให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

 

          นายศิริรุจ กล่าวต่อว่า การเปิดเสรีการบริการจะมีส่วนผลักดันให้เกิดการพัฒนาธุรกิจบริการโดยเฉพาะธุรกิจบริการที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานซึ่งเป็นปัจจัยการผลิตสำคัญของภาคการผลิต ซึ่งการแข่งขันที่มากขึ้นจะนำไปสู่ประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและต้นทุนที่ถูกลง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิตเป้าหมาย อาทิ อุตสาหกรรมยายนต์และชิ้นส่วนยายนต์ อาหารแปรรูป และเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของไทย จะได้รับประโยชน์จากการเปิดเสรีบริการมากขึ้น เช่น บริการด้านโลจิสติกส์ การจัดจำหน่ายปลีกและส่ง

 

          “การเปิดเสรีภาคบริการ จะเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการธุรกิจบริการ มีโอกาสระดมทุน จากนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น และอาจนำไปสู่การถ่ายทอดเทคโนโลยีและพัฒนาศักยภาพด้านการบริการ และจะนำไปสู่การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ดังนั้นจำเป็นต้องเตรียมพร้อมและพัฒนาผู้ประกอบการให้สามารถรองรับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงขึ้น” 

               

          อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากการแข่งขัน แต่ก็ต้องระมัดระวัง ไม่ให้เกิดการครอบงำตลาดจากผู้ประกอบการรายใหญ่ จนกระทั่งมีบทบาทหรืออิทธิพลเหนือผู้ให้บริการในประเทศ เพราะจะทำให้ผู้ให้บริการในประเทศเดิมต้องออกจากตลาดไป และถูกทดแทนโดยนักลงทุนต่างชาติ หรือบริษัทต่างชาติรายใหญ่ในที่สุด เพราะจะส่งผลให้ทางเลือกในการบริการลดลง

 

กรมโรงงานฯ เสริมแกร่งโรงงานแหล่งทุนกลุ่มอาเซียน+3

          นายอภิจิณ โชติกเสถียร รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (คนกลาง) เปิดการอบรม “เตรียมความพร้อมผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ระยะที่ 2” เสริมสร้างความรู้ด้านกฎหมาย สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย วัตถุอันตรายและสารเคมี และกฎหมายอื่นๆ แก่ผู้ประกอบการไทย เพื่อเตรียมความพร้อมขยายการลงทุนอุตสาหกรรมในกลุ่มประเทศอาเซียน +3 โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้น ณ โรงแรม เดอะ ทวิน ทาวเวอร์ กรุงเทพฯ

แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ จับมือ เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล เปิดท็อปส์มาร์เก็ต สาขาใหม่ ซูเปอร์มาร์เก็ต ดีที่สุดสำหรับทุกครอบครัวบนย่านศรีนครินทร์

          นายสุพจน์ วรรณา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J ผู้พัฒนา โครงการศูนย์การค้าชุมชน แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ (JAS URBAN SRINAKARIN) จับมือ บจก. เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล นำโดย นายธณภณ ตังคณานันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายพัฒนาสาขา ร้านค้าเช่า อาหารและเครื่องดื่ม และ นางเจริญศรี โอสถานุเคราะห์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายปฏิบัติการ ท็อปส์ มาร์เก็ต และ ไวน์ เตรียมเปิด ท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาใหม่ ซูเปอร์มาร์เก็ต ดีที่สุด เพื่อคุณภาพมาตรฐานระดับสากล สรรหาสินค้าชั้นดีในประเทศและสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ อาหารสด เบเกอรี่อบใหม่ สำหรับทุกครอบครัวบนย่านศรีนครินทร์ พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ณ ศูนย์การค้าแจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ ปลายปีนี้