D-Link International Pte. Ltd.
กล้อง IP-Camera ในปัจจุบันมักมีมุมมองรับภาพที่เฉพาะเจาะจง เก็บภาพได้ไม่ครบตามความต้องการ แต่ D-Link DCS-960L สามารถเก็บภาพได้มุมกว้างถึง 180 องศา เรียกได้ว่าครอบคลุมรัศมีครึ่งวงกลมเลยทีเดียว อีกทั้งยังสามารถบันทึกภาพได้ทั้งกลางวันและกลางคืน!
ถ้าจะกล่าวถึงเรื่องการรักษาความปลอดภัย มีใครบ้างที่จะไม่ชอบ? เพราะนอกจากจะคอยเป็นหูเป็นตาให้เราแล้ว บางครั้งยังใช้บันทึกเหตุการณ์ช่วงสำคัญต่างๆ เอาไว้ ทว่ามันก็มีปัจจัยบางอย่างที่ทำให้ใครหลายคนที่แม้จะอยากติดตั้งเพียงใด ก็ต้องถอยหนี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณที่กระชากกระเป๋าก็ดี หรือความยุ่งยากในการติดตั้งก็ดี หากท่านเป็นคนหนึ่งที่ต้องพบกับสิ่งเหล่านี้ขอบอกเลยว่ารีวิวนี้จะทำให้ความคิดท่านเปลี่ยนไป เพราะ D-Link DCS-960L ที่ท่านกำลังอ่านกันอยู่ตอนนี้ เป็นกล้อง IP Camera ที่มีราคาห้าพันบาทต้นๆ เท่านั้น แถมยังติดตั้งไม่ยุ่งยาก ใช้งานง่ายสุดๆ
DCS-960L เป็นกล้อง IP Camera ที่มีขนาดกระทัดรัด และน้ำหนักเบา ตัวเครื่องใช้สีดำเงา การออกแบบแยกระหว่างตัวกล้อง กับฐานที่ใช้สำหรับติดตั้งบนฝ้า ผนังเพดานเอาไว้ เลนส์ที่ติดตั้งมาบนตัวกล้องจะมีระยะอยู่ที่ 1.72mm รูรับแสง F2.0 สามารถเก็บภาพได้กว้างครอบคลุม 180องศา ดังนั้นภาพที่ออกมาจึงมองเห็นได้ครอบคลุมกว้างขวาง และไม่ใช่ว่า DCS-960L จะบันทึกภาพได้แต่ในตอนกลางวัน ในตอนกลางคืนก็สามารถบันทึกภาพได้ เพราะได้ติดตั้ง IR LED เอาไว้สองจุด
หากสังเกตด้านหลังเครื่อง จะพบว่ากล้องรุ่นนี้ไม่ได้มีพอร์ต Ethernet ไว้ให้ ดังนั้นการเชื่อมต่อเข้ากับระบบ จะทำผ่านปุ่ม WPS เท่านั้น สำหรับผู้ใช้มือใหม่ก็ให้สังเกตที่เราเตอร์ดูนะว่ามีปุ่ม WPS หรือไม่ แต่ผู้เขียนมั่นใจเกินกว่า 95% ว่าเราเตอร์แทบทุกรุ่นไม่ว่าจะแถมจากโอเปเรเตอร์ก็ดี หรือซื้อมาใหม่เองก็ดี คิดว่ามีมาให้อยู่แล้ว สังเกตง่ายๆ ปุ่ม WPS จะมีโลโก้ลูกศรไปและกลับ เวลาจะให้เราเตอร์และตัวกล้องทำความรู้จักกันก็แค่ให้กดปุ่ม WPS ค้างเอาไว้แล้วปล่อย (ค้างนานกี่วิ ขึ้นอยู่กับเราเตอร์นั้นๆ) จากนั้นที่ตัวกล้องว DCS-960L ก็กดค้างไว้นานประมาณสามวินาที จนไฟ LED สีเขียวกระพริบเช่นกัน พอไฟหยุดเมื่อไหร่ นั่นแปลว่าการเชื่อมต่อเสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งการเชื่อมต่อแบบนี้ถือว่าลดขั้นตอนในการเดินสายที่ยุ่งยาก ผู้ใช้เพียงแค่หาจุดเชื่อมต่อไฟก็พอ ไหนๆ ก็พูดถึงไฟแล้ว ในรุ่นนี้ยังเปลี่ยนพอร์ตมาใช้แบบ Micro USB อีกด้วย ส่วนบริเวณด้านข้างก็มีช่องสำหรับใส่การ์ด Micro SD/SDXC รองรับขนาดความจุสูงสุดที่ 128GB
รูปที่ 1 ตัวเครื่องด้านหลัง
รูปที่ 2 ด้านข้างของตัวเครื่อง
รูปที่ 3 WPS การเชื่อมต่อแบบไร้สายที่สะดวกสบาย
หลังจากที่เชื่อมต่อตัวกล้องเข้ากับระบบผ่านปุ่ม WPS แล้ว เราสามารถเข้าไปตั้งค่าตัวกล้องได้โดยผ่านตัวแอพพลิเคชันที่ชื่อว่า MyDLink Lite ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดทั้งบนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS แอพพลิเคชันนี้นอกจากจะใช้ในการตั้งค่าแล้ว ยังสามารถดูภาพแบบ Live View จากตัวกล้องได้ด้วย แน่นอนว่าหากบ้านท่านติดตั้งกล้องมากกว่า 1 ตัว ก็จะสามารถดูภาพ และควบคุมผ่านทางแอพพลิเคชันนี้ได้ทั้งหมด
รูปที่ 4 แอพพลิเคชัน mydlinkLite
รูปที่ 5 ภาพภายในแอพ
DCS-960L รองรับการบันทึกภาพความละเอียดสูงสุดที่ 1280x720p @30Hz ความละเอียดระดับนี้สำหรับกล้อง IP Camera ถือว่าคมชัดมาก อยู่ในระดับ HD (High Definition) แต่ผลเสียที่ตามมาก็คือไฟล์ก็จะใหญ่ตามไปด้วยโดยจากที่ลองบันทึกภาพความละเอียด 720p เป็นระยะเวลา 1 นาที ไฟล์จะมีขนาดประมาณ 70MB และจากที่ดูภาพผ่านเลนส์ที่กล้องถ่ายทอดออกมาถือว่าดีเลยทีเดียว ภาพได้มุมกว้างอย่างที่คิดเอาไว้ และสัดส่วนภาพไม่ได้บิดเบี้ยวมากนักหากตัดช่วงขอบออกไป บริเวณกึ่งกลางภาพถือว่าสัดส่วนดีทีเดียว ซึ่งภาพมุมกว้างแบบนี้เหมาะกับจะเอาไปใช้ในสถานที่แคบๆ เป็นอย่างมาก ส่วนคุณภาพของภาพในตอนกลางวันนั้นไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ทว่าในตอนกลางคืน แม้จะมีนอยส์ให้เห็นอยู่บ้าง ทว่าก็เห็นรายละเอียดอยู่ในระดับดี สามารถใช้ภาพอ้างอิงใบหน้า และการกระทำต่างๆ ได้ และแน่นอนว่าคงไม่มีใครมีเวลาว่างที่จะคอยดูภาพจากกล้องตลอดเวลา ดังนั้นกล้องรุ่นนี้จึงพกพาความสามารถเรื่องการจับภาพเคลื่อนไหวเข้ามาด้วย หากเราได้ตั้งค่าเอาไว้ว่าหากมีวัตถุเคลื่อนผ่านจุดที่กำหนดก็สามารถส่งสัญญาณแจ้งเตือนมาให้ผู้ใช้ได้รับทราบได้
รูปที่ 6 ภาพตัวอย่างจากกล้อง
ต้องบอกว่าเทคโนโลยีไร้สายทุกวันนี้ไปไกลมากแล้วจริงๆ หลายคนอาจจะเป็นกังวลว่าถ้าเชื่อมต่อไร้สายแบบนี้สัญญาณจะหลุดหายบ่อยหรือไม่? เพราะบางท่านอาจผูกใจอยู่กับการเชื่อมต่อกับแบบใช้สายมากกว่า ซึ่งเท่าที่ผู้เขียนลองปล่อยให้ทำงานทิ้งไว้ประมาณหกชั่วโมงทั้งหมดสามวัน ก็ไม่พบอาการสัญญาณหลุดขาดหายกลางคันแต่อย่างใด กอปรกับกล้องรุ่นนี้รองรับการเชื่อมต่อกับบนคลื่น 5GHz ด้วย (2.4GHz ก็เชื่อมต่อได้นะ) ทำให้สัญญาณค่อนข้างเสถียร ดังนั้นขอให้สบายใจในเรื่องของสัญญาณการเชื่อมต่อได้เลย นอกจากนี้แล้วการตั้งค่าก็ทำได้ง่ายๆ ผ่านตัวแอพที่ D-Link พัฒนาขึ้นมาเอง สะดวกสบายสุดๆ ผู้เขียนขอแนะนำว่าให้ทุกท่านไปทดลองเล่นกันดูที่ตัวแทนจำหน่าย รับรองว่าจะต้องติดใจ
สนใจสินค้าติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
www.dlink.co.th, www.facebook.com/DlinkThailandFans
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 www.thailandindustry.com
Copyright (C) 2009 www.thailandindustry.com All rights reserved.
ขอสงวนสิทธิ์ ข้อมูล เนื้อหา บทความ และรูปภาพ (ในส่วนที่ทำขึ้นเอง) ทั้งหมดที่ปรากฎอยู่ในเว็บไซต์ www.thailandindustry.com ห้ามมิให้บุคคลใด คัดลอก หรือ ทำสำเนา หรือ ดัดแปลง ข้อความหรือบทความใดๆ ของเว็บไซต์ หากผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความนี้ไปใช้ ดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
