Vortex Bladeless บริษัทสตาร์ทอัพจากประเทศสเปนได้พัฒนากังหันรูปแบบใหม่ที่ใช้ประโยชน์จากการ ไหลวนของของไหล โดยเมื่อกระแสของไหล (เช่น กระแสลม กระแสน้ำ) เคลื่อนผ่านกังหันที่ว่านี้ จะทำให้เกิดการแยกจากกันและเกิดเป็นกระแสหมุนวนขึ้นที่ด้านข้างของตัวกังหัน เจ้ากระแสหมุนวนที่ว่านี้เอง ทำให้เกิดเป็นแรงปะทะและกลายเป็นการสั่นสะเทือนตามมา พลังงานจลน์ที่ได้จากการสั่นนี้เองที่สามารถนำมาแปลงสภาพให้กลายเป็นพลังงาน ไฟฟ้าได้
David Yáñez หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทแห่งนี้ ได้ไอเดียของกังหันลมแบบใหม่มาจากการศึกษาการถล่มของสะพานข้ามช่องแคบทาโคมา (Tacoma Narrow bridge) ในสหรัฐอเมริกา สะพานแห่งนี้ถล่มในปี 1940 โดยมีสาเหตุจากการสั่นสะเทือนที่ตัวสะพานจนเกินขีดจำกัด โดยการสั่นสะเทือนที่ว่านี้ก็เกิดขึ้นกระแสลมหมุนในลักษณะเดียวกันนั่นเอง
กังหันลมของ Vortex มีน้ำหนักเบา ไม่มีทั้งเกียร์บอกซ์ (gearbox) หรือว่าแบร์ลิง (bearing) โดย Yáñez เล่าว่าต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าของกังหันลมแบบใหม่จะต่ำกว่ากังหันแบบเดิมอยู่ ถึง 40% ปัจจุบัน Vortex ได้รับเงินทุน 1 ล้านดอลลาร์ จากนักลงทุนส่วนบุคคลและจากหน่วยงานรัฐบาลของสเปน และอยู่ระหว่างหาเงินทุนเพิ่มอีกราว 5 ล้านดอลลาร์ ผ่านทางการระดมทุน โดย Yáñez คาดว่าจะสามารถทดลองสร้างโรงผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานลมขนาด 4 กิโลวัตต์ได้ในปี 2016 และน่าจะจ่ายไฟฟ้าที่ระดับ 1 เมกะวัตต์ได้ในราวปี 2018
อย่างไรก็ตาม กังหันลมแบบใหม่ก็ยังมีข้อจำกัดเรื่องประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานจลน์ ซึ่งเมื่อเทียบกับกังหันลมแบบเดิมที่สามารถเปลี่ยน 80 - 90% ของพลังงานจลน์ที่ได้จากการหมุนของใบพัดเพื่อสร้างเป็นพลังงานไฟฟ้า แต่ว่ากังหันแบบใหม่ที่ไร้ใบพัด ประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานจะอยู่ที่ระดับ 70% เท่านั้น ข้อจำกัดดังกล่าวมาจากการที่กังหันชนิดนี้มีพื้นที่ในการกวาดเพื่อ สร้างพลังงานเพียงแคบๆ ประสิทธิภาพที่ได้จึงน้อยกว่ากังหันลมแบบเดิมอยู่มาก แต่ว่าด้วยข้อดีในแง่ของต้นทุนการผลิตและการบำรุงรักษาที่ถูกกว่า และในการติดตั้งกังหันลมแบบใหม่ ก็ไม่จำเป็นต้องเผื่อพื้นที่สำหรับการหมุนกวาดของใบพัด ทำให้สามารถชดเชยข้อจำกัดดังกล่าวด้วยการติดตั้งจำนวนกังหันมากตัวขึ้นได้บน พื้นที่ขนาดเท่ากันกับที่กังหันลมแบบเดิม ซึ่งจากการทดลองในห้องวิจัยก็พบว่าการที่กังหันลมแบบไร้ใบพัดนี้ถูกตั้งอยู่ ใกล้ๆ กัน ก็สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าโดยรวมให้สูงขึ้นได้อีกด้วย
ประเด็นที่น่าสนใจอีกอย่าง คือ การแก้ไขปัญหาพื้นฐานของกังหันลมแบบเดิม เช่น เสียงและเงารบกวน อันตรายที่จะเกิดกับนก รวมไปถึงผลกระทบต่อภูมิทัศน์ ที่กังหันลมแบบใหม่มีผลกับเรื่องเหล่านี้น้อยกว่า อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีนี้ ยังคงต้องอาศัยวันเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ว่ามันจะให้ผลที่น่าพึงใจอย่างที่คาดหวังหรือไม่ และจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยอย่างที่ผู้ออกแบบคาดหวังไว้หรือเปล่า