หุ่นยนต์กำลังกลายเป็นภัยคุกคามที่ทำให้พนักงานของโรงงานในประเทศจีน ต้องหวาดกลัว ไม่ใช่เพราะการรุกขึ้นต่อต้านมนุษย์เหมือนในภาพยนตร์ไซไฟ แต่เป็นเพราะในอนาคตอันใกล้นี้ พวกเขาจะถูกเลิกจ้างและต้องตกงาน แน่นอนว่าเรื่องราวแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะการนำหุ่นยนต์มาใช้แทนแรงงานมนุษย์ได้เกิดขึ้นมาสักระยะหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ตาม Foxconn เพิ่งเริ่มนำเราก้าวเข้าการเปลี่ยนครั้งใหญ่ของเรื่องราวที่ว่านี้
Foxconn (บริษัทซัพพลายเยอร์รายใหญ่ของ Apple) เริ่มลดจำนวนพนักงานจาก 110,000 คน ลงเหลือ 50,000 คน และจะแทนที่ตำแหน่งงานเหล่านั้นด้วยหุ่นยนต์ ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นใน กลุ่มบริษัทผู้ผลิตในพื้นที่ Chinese manufacturing hub of Kunshan ที่เริ่มนำระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต โดยหนึ่งในจำนวนบริษัท 35 แห่ง ก็คือ Foxconn ที่ได้ใช้เงินลงทุนไปกว่า 4 พันล้านหยวน (610 ล้านดอลลาร์) กับการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) เพื่อเป็นหนึ่งในมาตรการรับมือจากเหตุการระเบิดครั้งใหญ่ จนทำให้เกิดผู้เสียชีวิตมากถึง 146 คน ในปี 2014 รายงานจาก นสพ. South China Morning Post ชี้ว่าจากการสำรวจของหน่วยงานรัฐ พบว่ามีบริษัทขนาดใหญ่อยู่มากกว่า 600 แห่งในพื้นที่คุนชาน (Kunshan) นี้ที่มีแผนจะปรับลดพนักงานลงเช่นเดียวกันด้วย
อย่างไรก็ตาม Foxconn ชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า พวกเขาต้องการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์และนวัตกรรมมาใช้ในกระบวนการผลิตในงานที่ มีความซ้ำซาก ที่ก่อนหน้านี้ต้องทำโดยใช้แรงงานคนเท่านั้น เพื่อจะได้พัฒนาและฝึกฝนให้พนักงานสามารถทำงานอื่นๆ ในกระบวนการผลิตที่สร้างมูลค่าเพิ่มมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น งานด้านการวิจัยและพัฒนา, การควบคุมกระบวนการต่างๆ และการควบคุมคุณภาพ เป็นต้น
ในพื้นที่ของคุนชานมีจำนวนของโรงงานมากเกินกว่าที่หน่วยงานรัฐบาลกลาง ได้กำหนดไว้มาก (ที่ราว 46% ของพื้นที่ทั้งหมด) ซึ่งหน่วยงานท้องถิ่นก็พยายามที่จะควบคุมให้อัตราเติบโตของการพัฒนาที่ดินในพื้นที่แห่งนี้กลายเป็นศูนย์ให้ได้ ก่อนที่จะค่อยๆ พยายามปรับลดจำนวนลงในปี 2020 ซึ่งคงไม่ใช่ข่าวดีนักสำหรับพื้นที่แห่งนี้ ในที่ซึ่งมีประชากรอยู่มากกว่า 2.5 ล้านคน โดยการสำรวจเมื่อปี 2014 พบว่า 2 ใน 3 ของประชากรทั้งหมดเป็นแรงงานต่างถิ่นที่เข้ามาทำงานในโรงงานต่างๆ ในพื้นที่นี้นั่นเอง
ก่อนหน้านี้ พื้นที่คุนชานสามารถผลิตเครื่องแลบทอป (labtop) ได้มากถึง 120 ล้านเครื่อง แต่ว่าตัวเลขดังกล่าวได้ตกมาอยู่ที่ 51 ล้านเครื่อง จากการความต้องการของผู้บริโภคที่ลดลง ต่อมาสมาร์ทโฟนก็ได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกเข้ามาแทนที่ โดยเมื่อปีที่แล้ว มีการผลิตสมาร์ทโฟนออกมาได้มากกว่า 20 ล้านเครื่องเลยทีเดียว