เนื้อหาวันที่ : 2017-11-10 10:36:16 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1950 views

Sophos XG Firewall เพิ่มขีดความสามารถในการมองเห็นทั่วเครือข่ายด้วยฟีเจอร์ Synchronized App Control

  • เป็นไฟร์วอลล์ตัวแรกที่สามารถระบุทราฟฟิกแอปพลิเคชันที่ไม่รู้จักได้อย่างสมบูรณ์โดยใช้ข้อมูลจากเอนด์พอยต์โดยตรง
  • ถือเป็นตัวควบคุมแอปพลิเคชันบนเครือข่ายตัวแรกที่คอยระบุ จัดประเภท และควบคุมเว็บแอปพลิเคชันทั้งแบบทั่วไปและแบบที่แอบซ่อนทราฟฟิกได้โดยอัตโนมัติและปรับแต่งได้
  • เปิดตัวฮาร์ดแวร์ใหม่สำหรับทางเลือกในการติดตั้งและเชื่อมต่อแบบมอดดูลาร์

Sophos ผู้นำระดับโลกด้านความปลอดภัยบนเครือข่ายและเอนด์พอยต์ ได้ประกาศเปิดตัวไฟร์วอลล์ Sophos XG แบบ Next-Gen รุ่นใหม่ล่าสุดที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในความสามารถการมองเห็นเครือข่ายด้วยการใช้ระบบความปลอดภัยแบบซิงโครไนซ์ในการเรียกดูข้อมูลจากเอนด์พอยต์ ทำให้ไฟร์วอลล์ XG สามารถระบุ จัดประเภท เปิดให้สามารถควบคุมแอปพลิเคชันที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนหน้าทั้งหมดที่ใช้งานบนเครือข่ายได้ เช่น แอปพลิเคชันที่ไม่เคยมีซิกเนเจอร์ หรือแอปที่ใช้การเชื่อมต่อผ่าน HTTP หรือ HTTPS แบบทั่วไป ฟีเจอร์ Synchronized App Control แบบไฟร์วอลล์ XG นี้ถือเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในตลาด สามารถลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เกิดจากทราฟฟิกที่ระบุไม่ได้ด้วยการเปิดให้แอดมินมองเห็นตัวตนบนเครือข่ายได้อย่างชัดเจน

Rob Ayoub ผู้อำนวยการด้านงานวิจัยผลิตภัณฑ์ความปลอดภัย บริษัท IDC ได้ให้ความเห็นว่าไฟรวอลล์ XG ของ Sophos ตัวใหม่ล่าสุดนี้ได้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่สำคัญด้านความสามารถในการมองเห็นแอปพลิเคชันบนเครือข่าย โดยเฉพาะกับแอปพลิเคชันที่ไม่รู้จัก ถือเป็นโซลูชันนวัตกรรมใหม่ที่แก้ปัญหาที่สร้างภาระแก่องค์กรทั่วโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

Synchronized App Control จะโยงความสัมพันธ์ของแอปพลิเคชันที่ค้นพบใหม่อย่างอัตโนมัติด้วยการจัดประเภทอย่างเหมาะสมเท่าที่เป็นไปได้มากที่สุด เปิดให้แอดมินเข้ามาเลือกจัดแอปที่ไม่รู้จักดังกล่าวเข้าไปในกลุ่มสำหรับปิดกั้น หรือเปิดให้ความสำคัญแก่ทราฟฟิกของแอปได้ดังใจ พร้อมทั้งมีการรายงานกิจกรรมของแอปพลิเคชันเชิงลึกโดยเฉพาะทราฟฟิกที่เกิดขึ้นในแต่ละวันด้วย

Dan Schiappa รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปกลุ่มผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยบนเครือข่ายและเอนด์พอยต์ บริษัท Sophos กล่าวว่าจากการศึกษาครั้งล่าสุดนั้นผู้ที่ทำงานด้านไอทีต่างยอมรับว่ามีทราฟฟิกบนเครือข่ายตัวเองมากถึง 60 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่รู้จัก ซึ่งมักเป็นที่มาของความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่ทุกคนต่างวิตกกังวล Sophos สามารถระบุทราฟฟิกเหล่านี้ได้เนื่องจากเอนด์พอยต์จะเป็นคนที่รู้ว่าแอปที่รันอยู่คืออะไร สามารถแบ่งปันข้อมูลเหล่านี้ให้กับไฟร์วอลล์ผ่านฟีเจอร์ Sophos Security Heartbeat™ สำหรับฟีเจอร์ Synchronized App Control นี้ได้ยกระดับความสามารถในการมองเห็น เพิ่มศักยภาพให้แก่แอดมินด้านไอทีในการจัดการทราฟฟิกบนเครือข่ายได้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีใหม่นี้จึงจัดเป็นตัวปฏิวัติวงการด้านความปลอดภัย โดยเฉพาะกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไอทีที่ยังไม่ได้เตรียมตัวยอมรับช่องโหว่และจุดบอดต่าง ๆ ที่ไฟร์วอลล์หรือโซลูชันความปลอดภัยบนเอนด์พอยต์แบบสแตนด์อะโลนอื่นในตลาดกำลังเผชิญ

Sophos XG Firewall มีจำหน่ายทั้งในรูปแบบสำหรับติดตั้งในองค์กรและในรูปบริการบนคลาวด์ ซึ่งมีให้เลือกบนแพลตฟอร์มเวอร์ชวลชื่อดังในตลาดเกือบทั้งหมด รวมทั้งผ่าน Microsoft Azure Marketplace ด้วย โดยทั้งโซลูชัน Sophos Endpoint Protection และโซลูชันแอนติแรนซัมแวร์แบบ Next-Gen อย่าง Intercept X จะเติมเต็มบนไฟร์วอลล์ XG ด้วยการสนับสนุนข้อมูลผ่านระบบความปลอดภัยแบบซิงโครไนซ์ สำหรับความสามารถในการระบุตัวตนทราฟฟิกระดับใหม่นี้อีกทางหนึ่ง

นอกจากนี้ Sophos ยังได้เปิดตัวแอปพลายแอนซ์ XG แบบฮาร์ดแวร์ใหม่ล่าสุดที่อยู่ในรูประบบแบบมอดดูลาร์สำหรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงโมดูลแบบ Flexi Port ด้วย โดยการเพิ่มคู่พอร์ตที่สำรองการทำงานแบบ Fail-Safe Bypass แบบออนบอร์ดบนแอปพลายแอนซ์ขนาด 1U ทุกตัว และทางเลือกเพิ่มเติมในรูปโมดูล Flexi Port แบบบายพาสสำหรับโมเดล XG Series ขนาด 1U และ 2U รวมทั้งโมดูลทางเลือกเพิ่มเติมสำหรับฟีเจอร์ Power over Ethernet (PoE) ทำให้สามารถใช้ประโยชน์จากระบบความปลอดภัยแบบซิงโครไนซ์นี้ได้ในทุกสภาพแวดล้อมการทำงาน

“ลูกค้าของเราต่างพอใจกับการจัดการที่มีความต่อเนื่องและอินเตอร์เฟซใช้งานที่เรียบง่ายบนไฟร์วอลล์ XG ด้วยความยืดหยุ่นในการติดตั้งนี้ทำให้ง่ายต่อการยกระดับความปลอดภัยในองค์กรโดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนหรือยกเครื่องโครงสร้างพื้นฐานเดิมที่ซับซ้อน ไฟร์วอลล์ XG สามารถติดตั้งบนเอนด์พอยต์ควบคู่กับโซลูชันปกป้องเอนด์พอยต์ที่มีอยู่ได้ทุกแบบสำหรับเติมเต็มการป้องกันอันตรายแบบ Next-Gen บนทุกสภาพแวดล้อมการทำงานแบบเดิม ความสามารถในการมองเห็นที่ถูกยกระดับขึ้นใหม่นี้หมายความว่าเราไม่จำเป็นต้องรอข้อมูลซิกเนเจอร์ของแอปพลิเคชันจากผู้ผลิตเพื่อให้มองเห็นทราฟฟิกบนเครือข่ายที่วิ่งผ่านไฟร์วอลล์อีกต่อไป ด้วยความสามารถใหม่ในการมองเห็นแอปพลิเคชันบนเครือข่ายถูกตัว พร้อมกับความสามารถในการจัดประเภทและจัดการต่าง ๆ ได้ในทันทีนั้น ช่วยแบ่งเบาภาระงานของลูกค้าและพาร์ตเนอร์อย่างเราได้มากเลยทีเดียว” Dan Russell ซีไอโอ บริษัท Pine Cove Consulting ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์ที่ได้รับการรับรองจาก Sophos กล่าว

สามารถสอบถามรายละเอียดของราคาผลิตภัณฑ์ได้จากพาร์ตเนอร์ของ Sophos ทั่วโลก ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันไฟร์วอลล์แบบ Next-Gen ของ Sophos สามารถเข้าเยี่ยมชมได้ที่ https://www.sophos.com/en-us/products/next-gen-firewall.aspx