

กล้องดิจิตอลเอสแอลอาร์ รุ่นใหม่ล่าสุด รวมสุดยอดเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของตระกูล EOS-1D
เต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพการทำงานสำหรับมืออาชีพ เพื่อภาพคุณภาพเยี่ยม
แคนนอนเปิดตัวกล้อง DSLR เรือธงรุ่นใหม่ Canon EOS-1DX Mark II ซึ่งเป็นรุ่นปรับปรุงของ EOS 1DX ทรงพลังด้วยฟีเจอร์ใหม่มากมาย รวบรวมนวัตกรรมล่าสุดของเทคโนโลยีการถ่ายภาพ และเทคโนโลยีชั้นเลิศของกล้องตระกูล EOS สู่กล้อง DSLR ระดับมืออาชีพ สำหรับช่างภาพมืออาชีพและผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเคลื่อนไหว ก้าวข้ามขีดจำกัดในการถ่ายภาพเพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่ดีที่สุด แม้ถ่ายในสถานการณ์ที่ต้องการความแม่นยำและใช้ความเร็วสูงอย่างการถ่ายภาพข่าว กีฬา และการถ่ายภาพชีวิตสัตว์ป่า
กล้อง Canon EOS-1DX Mark II ตอบโจทย์ความต้องการของช่างภาพมืออาชีพที่การถ่ายภาพช็อตสำคัญ ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว คือสิ่งสำคัญแม้ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีข้อจำกัดมากมาย กล้องรุ่นนี้จะช่วยให้ช่างภาพมืออาชีพสามารถสร้างสรรค์ผลงานการถ่ายภาพได้ตามต้องการ ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ อาทิ เซนเซอร์รับภาพ Dual Pixel CMOS AF การถ่ายภาพต่อเนื่อง 16 เฟรมต่อวินาทีในโหมด Live View และความสามารถของฟังก์ชัน 4K Frame Grab

จัดเต็มเพื่อการถ่ายภาพความเร็วสูงที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ
ความเร็วในเสี้ยววินาทีมีความหมายอย่างมากต่อช่างภาพมืออาชีพ โดยเฉพาะในวงการกีฬา การถ่ายภาพข่าวและชีวิตสัตว์ป่า นอกเหนือจากการเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้ได้ช็อตเด็ดที่สุดแล้ว ช่างภาพมืออาชีพจำเป็นจะต้องอาศัยอุปกรณ์ที่มีความเร็วสูงพอที่จะจับภาพได้ภายในเวลาเพียงเสี้ยววินาที เพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพไร้ที่ติ ด้วยการโฟกัสที่แม่นยำสำหรับภาพที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ Canon EOS-1DX Mark II สามารถทำได้ ด้วยระบบออโต้โฟกัสปรับปรุงใหม่แบบ 61 จุดที่มาพร้อมกับระบบออโต้โฟกัสแบบ cross type 41 จุด ซึ่งช่างภาพมืออาชีพจะได้ประโยชน์จากพื้นที่ออโต้โฟกัสที่กว้างขึ้น (ขยายพื้นที่ในแนวตั้งเพิ่มขึ้นประมาณ 24%) เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น EOS-1D X
ระบบออโต้โฟกัสตรงกลางภาพยังได้รับการปรับปรุงให้สามารถหาจุดโฟกัสได้ในระดับ EV-3 จึงสามารถทำงานได้ดีในสภาพแสงน้อยและคอนทราสต์ต่ำ กล้อง DSLR รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับ AI servo AF III+ ซึ่งเป็นอัลกอริธึมวิเคราะห์สถานการณ์การถ่ายภาพที่ช่วยให้ออโต้โฟกัสได้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับภาพการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและคาดไม่ถึง ด้วยระบบออโต้โฟกัส 61 จุด และขนาดรูรับแสงที่ f/8 หรือมากกว่า จึงสามารถออโต้โฟกัสได้แม้ใช้ Teleconverter กับเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มักใช้กันในการถ่ายภาพสัตว์ป่าหรือภาพกีฬา

ยิ่งไปกว่านั้น กระจกสะท้อนภาพของ Canon EOS-1DX Mark II ยังได้รับการติดตั้งพร้อมกลไกควบคุมแบบใหม่ที่ช่วยหยุดการสั่นไหวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้กล้องจับภาพได้ถึง 14 เฟรมต่อวินาทีเมื่อใช้ระบบออโต้โฟกัสและเปิดใช้งาน Auto-exposure tracking หรือที่ 16 เฟรมต่อวินาทีในโหมด Live View โดยที่หน้าจอไม่ดับ ทั้งยังบันทึกภาพได้อย่างรวดเร็วด้วยช่องใส่การ์ดหน่วยความจำ
CFast 2.0 จึงสามารถรองรับการถ่ายภาพฟอร์แมต RAW ติดต่อกันได้ถึง 170 ภาพ และฟอร์แมต JPEG ได้ไม่จำกัดในโหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง
ถ่ายวิดีโอคุณภาพสูงถึง 4K
กล้อง Canon EOS-1DC ที่ออกสู่ตลาดในปี ค.ศ. 2012 เป็นกล้องDSLRตระกูล EOS รุ่นแรกที่สามารถถ่ายวิดีโอแบบ 4K ได้ แต่ในปัจจุบันกล้อง Canon EOS-1DX Mark II ทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอ4K แบบ Motion JPEG ที่ความเร็ว 60p และ 50p จึงได้ฟุตเทจที่ราบรื่นเป็นธรรมชาติอย่างน่าทึ่ง อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ถ่ายวิดีโอแบบ Full HD พร้อมโหมด High Frame Rate ที่ทำให้ถ่ายได้ด้วยความเร็ว 120p และ100p ช่วยในการถ่ายวิดีโอแบบslow motion และที่สำคัญยังมีช่องใส่การ์ดหน่วยความจำ CFast ช่วยในการบันทึกภาพที่มีปริมาณข้อมูลมากๆ ได้อย่างรวดเร็ว
Canon EOS-1DX Mark II เป็นรุ่นแรกในซีรีส์ EOS-1D ที่มาพร้อมระบบออโต้โฟกัสแบบ Dual Pixel CMOS AF (DAF) ผู้ที่ใช้ phase detection ในโหมด Live View จึงทำให้การทำงานของระบบออโต้โฟกัสเร็วสุดขั้วและติดตามจับภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องของรูรับแสง กล้อง DSLR รุ่นนี้ยังสามารถใช้ออโต้โฟกัสได้ในที่แสงน้อยถึง EV-3 ภายในระยะเซนเซอร์เมื่อถ่ายวิดีโอแบบ 4K และเช่นเดียวกับรุ่น EOS 7D Mark II กล้อง EOS-1D X Mark II มีระบบปรับความเร็วออโต้โฟกัสและความไวแสง Movie Servo AF เพื่อความคล่องตัวในการถ่ายวิดีโอ รวมถึงฟังก์ชั่นปรับโฟกัส DAF ด้วยการสัมผัสหน้าจอLCDในโหมด Live View
กล้องรุ่นนี้ยังมีฟังก์ชั่น 4K Frame Grab ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกภาพนิ่งในฟอร์แมต JPEG ความละเอียดถึง 8.8 ล้านพิกเซลจากวิดีโอ 4K ที่ถ่ายไว้ในกล้องได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ (คุณภาพของภาพนิ่งอาจไม่เท่ากับภาพถ่ายปกติ) ความสามารถในการถ่ายวิดีโอที่ความเร็ว 60p ยังช่วยให้นักถ่ายภาพสั ตว์ป่าและกีฬาสามารถเลือกภาพนิ่งที่ต้องการจากวินาทีใดของวิดีโอก็ได้ จึงเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้เป็นอย่างมาก
ให้ภาพสวยคุณภาพระดับท็อป
Canon EOS-1DX Mark II สร้างปรากฏการณ์ใหม่ของกล้องตระกูล EOS ด้วยเซนเซอร์ 35mm full frame CMOS ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ชิปประมวลผลภาพ Dual DIGIC 6+ ความละเอียดสูงสุดถึง 20.2 ล้านพิกเซล และค่า ISO สูงสุดถึง 409,600 ซึ่งเหนือกว่ากล้องรุ่นก่อนหน้าคือ EOS-1D X ถึง 1 stop ผู้ใช้จึงสามารถถ่ายภาพได้ดียิ่งขึ้นในสภาพแสงน้อย อีกทั้งมีเซนเซอร์วัดแสง RBG+IR metering sensor ความละเอียด 360,000 พิกเซล และระบบ EOS iTR AF ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการติดตามภาพที่จะถ่าย สำหรับการถ่ายภาพในอาคารโดยใช้แสงจากหลอดไฟ ผู้ใช้ยังสามารถเปิดโหมดตรวจจับการกะพริบของแสง(Anti-flicker)เพื่อให้ได้สภาพแสงที่นิ่งมากขึ้น ช่วยลดความเพี้ยนของแสงและสีได้ดีขึ้น
Digital Lens Optimizer ที่ให้มาในตัวกล้องใช้ในการเพิ่มคุณภาพของภาพในฟอร์แมต RAW ได้ทันทีภายในกล้อง โดยไม่ต้องนำไปผ่านกระบวนการ post-production เหมือนเมื่อก่อน ฟังก์ชั่นตกแต่งภาพนี้ทำได้ทั้งการแก้ไขความคลาดเคลื่อนสี ระดับแสงบริเวณขอบภาพ และยังสามารถแก้ไขความเบลอของภาพจากการใช้รูรับแสงเล็กได้เป็นครั้งแรกของกล้องตระกูล EOS ฟังก์ชั่นเหล่านี้ทำให้ผู้ใช้ได้ภาพฟอร์แมต JPEG ที่มีคุณภาพดีขึ้นจากกล้องได้โดยตรงแบบไม่ต้องแต่งภาพด้วยคอมพิวเตอร์ ช่วยในการทำงานด้านภาพในสถานการณ์ที่ต้องแข่งกับเวลา นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น Fine Detail ที่ช่วยให้ภาพในฟอร์แมต JPEG มีความคมชัดสูงขึ้นด้วย

คงทนใช้ได้นาน
ทุกส่วนของ Canon EOS-1DX Mark II ตั้งแต่กระจกสะท้อนภาพไปจนถึงกลไกชัตเตอร์ถูกสร้างขึ้นให้มีความแข็งแกร่งทนทาน จึงมีอายุการใช้งานชัตเตอร์ถึง 400,000 ครั้ง บอดี้ของกล้องทำจากแมกนีเซียมอัลลอยกันน้ำและฝุ่น ช่างภาพจึงวางใจได้เมื่อนำไปใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการใช้งานกลางแจ้ง
ด้านการออกแบบ กริปและปุ่มปรับได้รับการปรับปรุงให้ใช้ง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้นสำหรับมือทุกขนาด ทั้งยังวางตำแหน่งปุ่มควบคุมต่างๆ ให้คล้ายกันทั้งแนวตั้งและแนวนอน ไม่ว่าจะจับกล้องแนวนอนเพื่อถ่ายภาพทิวทัศน์ หรือจับแนวตั้งเพื่อถ่ายภาพคนก็ไม่รู้สึกแตกต่างกัน
Canon EOS-1DX Mark II ใช้แบตเตอรี LP-E19 ซึ่งจุพลังงานได้มากขึ้น 10% เมื่อเทียบกับ แบตเตอรี LP-E4N ในกล้อง EOS-1DX จึงใช้งานกล้องได้นานกว่าเดิม
มี GPS ในตัวและอุปกรณ์ส่งไฟล์ไร้สายให้เลือกใช้
Canon EOS-1DX Mark II เป็นรุ่นแรกในตระกูล EOS-1D ที่มีระบบ GPS ในตัว จึงสามารถใส่แท็กรูปภาพพร้อมข้อมูลสถานที่และเวลาที่ถูกต้อง ช่วยในการจัดระเบียบภาพอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การถ่ายโอนไฟล์ภาพก็สามารถทำได้ง่ายด้วยอุปกรณ์ส่งไฟล์ไร้สาย WFT-E8 ที่มีให้เลือกใช้กับกล้องรุ่นนี้ อุปกรณ์ดังกล่าวรองรับการส่งไฟล์ความเร็วสูงผ่าน IEEE802.11a/b/g/n/ac (5 GHz และ 2.4 GHz) wireless LAN เมื่อนำมาติดตั้งเข้ากับตัวกล้องจะช่วยในการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับสมาร์ทโฟน ได้อย่างราบรื่น ผู้ใช้จึงสามารถควบคุมกล้องจากระยะไกลในการถ่ายภาพนิ่ง วิดีโอ รวมถึงแชร์ภาพไปยังสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชั่น Camera Connect ของแคนนอน EOS-1D X Mark II ยังมาพร้อมพอร์ต USB 3.0 เพื่อการส่งข้อมูลอย่างรวดเร็วอีกด้วย
ข้อมูลจำเพาะของ Canon EOS-1DX Mark II
ขนาด: 158 x 167.6 x 82.6 มม.
น้ำหนัก: 1,340 กรัม (เฉพาะตัวกล้อง)
เซนเซอร์ภาพ: 20.2 mega-pixel 35mm Full Frame CMOS sensor with Dual Pixel CMOS AF
ชิปประมวลผลภาพ: Dual DIGIC 6+
ค่า ISO: 100-51,200 (เพิ่มได้ถึง 409,600)
ความเร็วถ่ายภาพต่อเนื่อง: 16 fps (Live View), 14 fps (Viewfinder)
คุณภาพวิดีโอสูงสุด: 4K 60p (สูงสุด 30 นาที)
ระบบออโต้โฟกัส: 61-point High-Density Reticular AF System (41-point cross type)
การเชื่อมต่อแบบ Wi-Fi: ด้วยอุปกรณ์ WFT-E8 (Optional)
ระบบ GPS: มี
จอ LCD: กว้าง 3.2 นิ้ว (ความละเอียด 1.62 ล้านจุด)
ช่องใส่การ์ดหน่วยความจำ: CF + CFast 2.0
-----------------------------------------------------------------------------------
| EOS 1DX Mark II |

คุณสมบัติสุดล้ำ ความเร็วสุดขั้ว EOS-1D X Mark II คือการผสมผสานอย่างยอดเยี่ยมระหว่างนวัตกรรมและการพัฒนา สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ถึง 14 ภาพต่อวินาที (และ 16 ภาพต่อวินาทีในโหมด Live View ถ่ายภาพในฟอร์แมต RAW ได้ถึง 170 ภาพเมื่อใช้กับการ์ด CFast พร้อมระบบออโต้โฟกัส 61 จุดช่วยในการถ่ายภาพอย่างคมชัดและรวดเร็วแม้แสงน้อย ความสามารถในการถ่ายภาพเคลื่อนไหวที่เต็มประสิทธิภาพ
โดยสามารถถ่ายเคลื่อนไหวความละเอียด 4K ที่ความเร็ว 60 เฟรมต่อวินาทีได้อย่างราบรื่นและคมชัด เมื่อผนวกกับประสิทธิภาพของเซนเซอร์และช่วงความไวแสงที่ช่วยในการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย EOS-1D X Mark II จึงทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมและรวดเร็วในทุกที่ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพในสนามกีฬา ซาฟารี สตูดิโอ และอื่นๆ EOS-1D X Mark II คือกล้องที่รวมสุดยอดนวัตกรรมจากแคนนอน และเปิดศักราชใหม่ของกล้องถ่ายภาพตระกูล EOS
| ถ่ายภาพได้เร็วที่สุด ความเร็วสูงถึง 14 ภาพต่อวินาทีทั้งฟอร์แมต RAW และ JPEG และเร็วได้ถึง 16 ภาพต่อวินาทีในโหมด Live View ด้วยชิปประมวลผลภาพ Dual DIGIC 6+ ใหม่ล่าสุด |
ถ่ายภาพ Full-resolution RAW หรือ JPEG ได้ถึง 14 ภาพต่อวินาที และ 16 ภาพต่อวินาทีในโหมด Live View
EOS-1D X Mark II อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยในการทำงานอย่างรวดเร็วในทุกขั้นตอนของการถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็นกลไกกระจกสะท้อนภาพที่ออกแบบมาให้มีความแม่นยำสูงและลดการสั่นไหวแม้ใช้งานด้วยความเร็วสูง ส่วนชัตเตอร์ใช้งานได้ถึง 400,000 ครั้ง เซนเซอร์ CMOS อ่านสัญญาณภาพได้อย่างรวดเร็วเพื่อการถ่ายภาพอย่างฉับไว อีกทั้งยังมีระบบ AF/AE ที่รวดเร็ว ชิปประมวลผลภาพ Dual DIGIC 6+และบันทึกข้อมูลเร็วทันใจผ่านช่องใส่การ์ดหน่วยความจำ CFast จึงมั่นใจได้ว่ากล้องจะทำงานอย่างรวดเร็วและแม่นยำ

ชิปประมวลผลภาพ Dual DIGIC 6+

หัวใจของการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของ EOS 1D X Mark II คือชิป Dual DIGIC 6+ ซึ่งไม่เพียงแต่เปลี่ยนแสงที่ผ่านเซนเซอร์เข้ามาให้กลายเป็นภาพนิ่งและภาพวิดีโอคุณภาพสูงเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมของกล้องอีกด้วย โดยชิปได้รับการพัฒนาให้ประมวลผลได้เร็วขึ้น รองรับการถ่ายภาพนิ่งได้ถึง 16 ภาพต่อวินาที และวิดีโอ 4K/60p รวมถึงความสามารถในการแก้ไขอาการคลาดเคลื่อนต่างๆที่เกิดจากการทำงานของเลนส์ อาทิ การแก้อาการบิดเบี้ยวของภาพ ความสว่างบริเวณขอบภาพ อาการคลาดเคลื่อนสีและอาการภาพเบลอที่เกิดจากการใช้ค่ารูรับแสงที่แคบ ทั้งนี้สามารถทำงานได้ในระหว่างการใช้งานโดยแทบจะไม่ส่งผลต่อความเร็วของกล้อง รวมถึงบันทึกภาพอย่างรวดเร็วและคุณสมบัติอื่นๆ * ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องขึ้นอยู่กับรูรับแสง เลนส์ที่ใช้ และสภาพของสิ่งที่ถ่าย
| ถ่ายภาพฟอร์แมต RAW ต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 170 ภาพ ที่ความเร็ว 16 ภาพต่อวินาที ถ่ายวิดีโอ 4K บันทึกในการ์ด CFast ผ่านช่องการ์ด CFast 2.0 |
EOS-1D X Mark II ถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอจำนวนมากได้เร็วอย่างน่าทึ่ง เมื่อใช้การ์ดหน่วยความจำ CFast 2.0 จะสามารถบันทึกภาพในฟอร์แมต RAW แบบ full-size ได้ถึง 170 ภาพ และภาพฟอร์แมต JPEG ได้จนเต็มความจุของการ์ดด้วยความเร็ว 16 ภาพต่อวินาที การถ่ายวิดีโอ 4K/60p และ Full HD 120p ทำได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังรองรับฟอร์แมต exFAT อีกด้วย จึงถ่ายวิดีโอที่ไฟล์มีขนาดใหญ่กว่า 4GB ได้โดยไม่ต้องแบ่งไฟล์แล้วนำมารวมในภายหลัง ส่วนการบันทึกลงการ์ด CF ลบออกสามารถบันทึกไฟล์ full-size RAW ได้ถึง 73 ไฟล์ และ JPEG ได้จนเต็มความจุเมื่อบันทึกใน CF UDMA7

ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2016:

การ์ดหน่วยความจำต่างๆ อาจมีประสิทธิภาพไม่เท่ากัน การใช้งานยาวนานอาจส่งให้ความเร็วในการบันทึกข้อมูลลดลง ผู้ใช้จึงควร format และ refresh การ์ดอย่างสม่ำเสมอโดยใช้ "Full Format and Refresh Tool."
* แคนนอนได้รับอนุญาตในการใช้เครื่องหมายการค้า CFast 2.0™
| จุดสีรบกวน (noise) น้อยลงในภาพที่ใช้ค่า ISO สูง ด้วยเซนเซอร์ฟูลเฟรม CMOS ความละเอียด 20.2 ล้านพิกเซล ช่วง ISO ได้ตั้งแต่ 100-51200 เพิ่มได้ถึง ISO 409600 |
เซนเซอร์ Full-Frame CMOS ความละเอียด 20.2 ล้านพิกเซล

EOS-1D X Mark II ใช้เซนเซอร์ฟูลเฟรม CMOS ความละเอียด 20.2 ล้านพิกเซล ที่แคนนอนพัฒนาขึ้นเอง ซึ่งนอกจากจะช่วยให้บันทึกพิกเซลได้มากขึ้นแล้ว ยังมี gapless micro lenses เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ลดการ รวมถึงเพิ่มความไวแสงซึ่งทำให้ EOS-1D X Mark II จับภาพได้ด้วยความเร็วสูง เพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานเฟรมต่อเฟรม การถ่ายวิดีโอ 4K (60p/30p) และรวมถึงการเล่นภาพเคลื่อนไหวที่ถ่ายไว้จากตัวกล้อง ลบออก อีกทั้งยังเป็นเซนเซอร์ฟูลเฟรมตัวแรกของแคนนอนที่มีระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel CMOS AF เพื่อการโฟกัสอย่างรวดเร็วและแม่นยำระหว่างการถ่ายภาพนิ่งในโหมด Live View และการถ่ายภาพเคลื่อนไหว
ช่วงความไวแสง ISO 100-51200 ขยายได้ถึง ISO 409600

EOS-1D X Mark II มีหลายออปชั่นให้เลือกเพื่อการถ่ายภาพอย่างมีประสิทธิภาพในสภาพแสงที่หลากหลายหรือเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ด้วยค่า ISO มาตรฐานให้เลือกตั้งแต่ 100-51200 อัตราการเกิด noise ต่ำ และลดการเกิดจุดสีรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายภาพที่ความไวแสงต่ำถึง ISO 50 (L) หรือสูงถึง 102400 (H1) 204800 (H2) และ 409600 (H3) ได้อีกด้วย โดยสามารถตั้งค่า ISO อัตโนมัติได้ในเมนูสำหรับ ISO โดยเฉพาะ ซึ่งผู้ใช้สามารถตั้งค่า ISO สูงสุดและต่ำสุด หรือเลือกค่าที่ต้องการได้ รวมทั้งสามารถตั้งให้เป็นแบบออโต้หรือแมนนวลก็ได้
| ออโต้โฟกัสประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วยระบบ High Density Reticular AF II 61 จุด พร้อมโฟกัสแบบ cross-type 41 จุด เพิ่มความไวในการโฟกัสที่จุดกึ่งกลางภาพถึงระดับ -3 EV ที่ขนาดรูรับแสง f/8 |
การโฟกัสที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม
EOS-1D X Mark II ปรับปรุงประสิทธิภาพในการโฟกัสให้แน่นอนและแม่นยำ ทำงานเร็วและใช้ได้ในหลากหลายสถานการณ์มากขึ้น ด้วยระบบ High Density Reticular AF II 61 จุด พร้อมโฟกัสแบบ cross-type 41 จุด เพิ่มพื้นที่โฟกัสด้านบนและล่างของจุดโฟกัสกลางภาพขึ้นอีก 8.6% อีกทั้งเพิ่มพื้นที่โฟกัสด้านบนและล่างของกรอบภาพอีก 24% พื้นที่ที่เพิ่มขึ้นทำให้การติดตามโฟกัสในภาพที่มีการเปลี่ยนแปลงความเร็วและตำแหน่งของตัวแบบอย่างฉับพลันทำได้ง่ายขึ้น ระบบออโต้โฟกัสยังได้รับการปรับปรุงให้ทำงานได้ในสภาพที่มีปริมาณความสว่างของแสงต่ำถึง EV -3 และที่สำคัญโฟกัสทั้ง 61 จุด สามารถออโต้โฟกัสได้แม้เลนส์ที่ถ่ายภาพจะมีขนาดรูรับแสงที่กว้างสุดที่ f/8 อัลกอริธึมระบบออโต้โฟกัสของ EOS-1D X Mark II ยังได้รับการปรับปรุงโดยเพิ่มระบบ AI Servo AF III+ ซึ่งจะจดจำเส้นทางการโฟกัสและทำให้ติดตามโฟกัสได้แม่นยำมากขึ้น ไม่ว่าจะเลือกจุดโฟกัสแบบแมนนวล ใช้โหมด Large Zone AF หรือใช้โหมดการโฟกัสอัตโนมัติแบบอื่นๆ EOS-1D X Mark II ก็ทำได้ยอดเยี่ยมเหนือความคาดหมายเสมอ


ช่องมองภาพอัจฉริยะปรับปรุงใหม่ มองเห็นจุดโฟกัสได้ชัดเจนขึ้น
EOS-1D X Mark II มาพร้อมช่องมองภาพ Intelligent Viewfinder II เพื่อความสะดวกในการจัดองค์ประกอบภาพและเปลี่ยนการตั้งค่าโดยไม่ต้องละสายตาจากซับเจกต์ จอแอลซีดีของช่องมองภาพสามารถแสดงข้อมูลได้มากขึ้นและแสดงจุดโฟกัสด้วยสีแดง จึงมองเห็นได้ง่ายในที่มืดและที่ที่มีแสงรบกวนมาก ฟีเจอร์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นตัววัดระนาบอิเล็กทรอนิกส์ กริด ระบบตรวจจับการกะพริบของแสง สมดุลแสงสีขาว โหมดวัดแสง ข้อมูลโฟกัส ก็มองเห็นได้ง่ายโดยไม่ต้องละความสนใจจากสิ่งที่กำลังถ่าย
* ยกเว้นเมื่อใช้กับเลนส์ Canon EF 50mm f/2.5 Macro, EF 100mm f/2.8 Macro, EF 100mm f/2.8 Macro USM, EF 100mm f/2.8L Macro IS USM และ EF 28-80mm f/2.8-4L USM.
| ติดตามซับเจกต์ไม่มีหลุดโฟกัสทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ด้วย EOS Intelligent Tracking and Recognition AF และเซนเซอร์วัดแสง 360,000 พิกเซล |
EOS-1D X Mark II ใช้เซนเซอร์วัดแสงสุดล้ำสมัย RGB+IR 360,000 พิกเซล และตัวประมวลผลที่ช่วยให้ระบบโฟกัสทำงานได้อย่างน่าประทับใจทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ เซนเซอร์ความละเอียดสูงที่ไวต่อแสงอินฟราเรดและมีกลไกตรวจจับที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมนี้ช่วยให้ระบบ Intelligent Subject Analysis (iSA) ของกล้องสามารถตรวจจับสีสันและรูปร่างได้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังโฟกัส วัดแสงและชดเชยแสงได้เร็วและแม่นยำมากขึ้นอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ข้อมูลเกี่ยวกับแสงและซับเจกต์ที่เพิ่มมากขึ้นยังช่วยในการทำงานของระบบ Intelligent Tracking and Recognition AF (iTR) ให้สามารถรักษาระยะโฟกัสของซับเจกต์ที่กำลังเคลื่อนไหวได้อย่างสม่ำเสมอมากขึ้น
| รองรับงานถ่ายวิดีโอคุณภาพสูงระดับ 4K (4096 x 2160) ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 60 เฟรมต่อวินาที (59.94) พร้อมฟังก์ชั่น Frame Grab**** ให้ภาพนิ่งความละเอียด 8.8 ล้านพิกเซลจากไฟล์วิดีโอ 4K ที่ถ่ายไว้ในกล้องได้อย่างง่ายดาย ในโหมดสโลว์โมชั่นยังให้ชิ้นงานความละเอียดสูงระดับ Full HD 1080p ที่ความเร็วสูงสุดถึง 120 เฟรมต่อวินาที |
กล้อง EOS-1D X Mark II มาพร้อมกับความสามารถเหนือชั้นในการผลิตภาพยนตร์ ด้วยประสิทธิภาพอันยอดดเยี่ยมของชิปประมวลผลภาพ Dual DIGIC 6+ และเซนเซอร์พัฒนาใหม่ จึงสามารถถ่ายภาพวิดีโอความละเอียดสูงขนาดใหญ่ได้ถึงระดับ 4K (ในฟอร์แมต Motion JPEG) ที่ความเร็วสูงสุดถึง 60 เฟรมต่อวินาที และบันทึกไฟล์เก็บไว้ได้อย่างรวดเร็วด้วยเมมโมรีการ์ดแบบ CFastTM กล้อง EOS-1D X Mark II ยังถือเป็นกล้องตระกูล EOS รุ่นแรกที่สามารถบันทึกวิดีโอคุณภาพระดับ Full HD ที่ความเร็ว 120 เฟรมต่อวินาที ช่วยให้จับภาพรายละเอียดขนาดเล็กที่ตามนุษย์แทบมองไม่เห็นได้อย่างง่ายดาย และเหมาะกับการถ่ายวิดีโอแบบสโลว์โมชั่นเป็นอย่างยิ่ง ตัวกล้องติดตั้งหน้าจอระบบทัชสกรีนแบบใหม่ ช่วยให้เลือกจุดออโต้โฟกัสขณะถ่ายภาพได้คล่องตัวยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันฟังก์ชั่นจับภาพนิ่งความละเอียด 8.8 ล้านพิกเซล 4K Frame Grab* ยังช่วยให้ผู้ใช้เช็คตำแหน่งโฟกัสได้รวดเร็ว โดยสามารถเซฟภาพนิ่งที่เลือกเก็บไว้ดูได้ ขณะเดียวกันความสามารถในการจับภาพในสภาพแสงน้อยยังได้รับการปรับปรุงให้ดีเช่นกัน โดยในโหมดวิดีโอ 4K สามารถเลือกปรับ ISO ได้สูงสุดถึง 12800 และ 25600 ในโหมด Full HD นอกจากนี้ยังรองรับ HDMI output แบบไม่บีบอัดไฟล์ สำหรับงานวิดีโอระดับ Full HD ช่วยให้ขั้นตอนการตัดต่อวิดีโอทำได้ง่ายขึ้น ทำให้ชิ้นงานสูญเสียคุณภาพน้อยที่สุด นอกจากนั้นผู้ใช้ยังสามารถเลือกเซฟไฟล์วิดีโอในรูปแบบ MP4 ได้ด้วย สามารถนำไปเปิดเล่นบนอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ได้อย่างง่ายดาย


* ภาพนิ่งที่เซฟจากเฟรมภาพวิดีโอจะให้คุณภาพของชิ้นงานไม่เท่ากับภาพนิ่งที่ถ่ายในโหมดปกติ
| ถ่ายวิดีโอเหนือชั้นยิ่งขึ้นด้วยระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel CMOS AF และ Movie Servo AF ช่วยให้การออโต้โฟกัสต่อเนื่องเป็นไปได้ด้วยความเร็วสูง และให้ภาพในระบบ High Frame Rate |
แคนนอนได้ปฏิวัติระบบออโต้โฟกัสขนานใหญ่ ทำให้กล้อง EOS-1D X Mark II กลายเป็นอุปกรณ์ผลิตภาพยนตร์ขนาดพกพาประสิทธิภาพเยี่ยม ทั้งนี้ แม้จะอยู่ในโหมดวิดีโอ 4K ระบบออโต้โฟกัสแบบต่อเนื่องในตัวกล้องก็ยังทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะมีเทคโนโลยี Dual Pixel CMOS AF ซึ่งรองรับการทำงานร่วมกับเลนส์ EF ของแคนนอนได้ทุกรุ่น ผู้ใช้สามารถตั้งเลือกจุดโฟกัสได้ทั้งแบบออโต้และแมนนวลจากหน้าจอ LCD ระบบทัชสกรีนแบบใหม่ นอกจากนี้ยังสามารถยืนยันสัดส่วนพื้นที่โฟกัสที่ต้องการทั่วเฟรมได้ง่ายๆ เพียงแค่ขยายภาพนิ่งที่ได้จากไฟล์วิดีโอ ขณะเดียวกัน ฟังก์ชั่น Movie Servo AF ในตัวกล้องยังสามารถเปิดใช้ได้กับการถ่ายภาพทุกระดับเฟรมเรตและความละเอียด นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถตั้งค่าเลือกต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นความไวในการติดตามวัตถุ ความเร็วในการจับออโต้โฟกัส และการติดตามใบหน้า ฟีเจอร์พัฒนาใหม่เหล่านี้ทำให้ EOS-1D X Mark II เป็นกล้องที่มีความสามารถรอบด้านและสะดวกในการถ่ายภาพยนตร์คุณภาพสูงระดับ 4K และ Full HD อย่างแท้จริง
| เป็นไปได้ทุกสถานการณ์ทั้งภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหว ด้วยหน้าจอ LCD ระบบทัชสกรีน ขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียด 1.62 ล้านจุด |

กล้อง EOS-1D X Mark II มาพร้อมหน้าจอ TFT LCD ระบบทัชสกรีน ขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียด 1.62 ล้านจุด มีคุณสมบัติป้องกันแสงสะท้อน พร้อมเทคโนโลยี Clear View LCD II จากแคนนอน ช่วยให้มองเห็นภาพได้คมชัด สดใสในทุกสถานการณ์ ฟังก์ชั่นทัชสกรีนแบบใหม่ยังช่วยให้การเปลี่ยนตำแหน่งจุดโฟกัสและการขยายภาพทั้งในโหมด Live View และโหมดวิดีโอทำได้สะดวกยิ่งขึ้น แคนนอนออกแบบให้หน้าจอ LCD นี้สะดวกแก่ผู้ใช้ทั้งในการตั้งค่าและเช็คภาพ รวมถึงการถ่ายภาพในโหมด Live View ทั้งนี้ เมื่ออยู่ในโหมด Live View ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้กล้องแสดงภาพพร้อมเส้นตารางได้ทั้งแบบ 9 ช่องและ 24 ช่อง หรือจะเลือกแสดงเป็นแบบ 9 ช่องพร้อมเส้นทแยงมุมก็ทำได้ รวมถึงแสดงตัววัดระดับความเอียงอิเล็กทรอนิกส์แบบแกนคู่ (dual-axis electronic level) ซึ่งช่วยในการวัดระดับแนวนอนของตัวกล้องได้อย่างแม่นยำ โดยจะแสดงความโน้มเอียงขึ้นลงของกล้องทุก 1 องศา ในส่วนของการดูภาพ กล้อง EOS-1D X Mark II มาพร้อมปุ่ม Magnify/Reduce ช่วยให้การซูมภาพเข้าและออกเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่กดปุ่มนี้พร้อมกับหมุนปุ่ม Main Dial ก็สามารถซูมภาพได้ตามต้องการทันที (ขยายได้สูงสุด 10 เท่า) นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถเลือกล็อคภาพป้องกันมิให้ภาพถูกลบโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือจะเลือกลบภาพก็ทำได้รวดเร็ว ทั้งแบบทีละภาพหรือแบบกลุ่ม ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถเลือกแสดงภาพแบบสไลด์โชว์ได้ โดยจัดกลุ่มภาพที่ต้องการตามเงื่อนไขต่างๆ เช่น วันที่ แฟ้มภาพ ภาพวิดีโอ ภาพนิ่ง ภาพที่ถูกล็อคไว้ หรือเรตติ้งของภาพ ตัวกล้องยังมีฟังก์ชั่น Featured Guide ช่วยอธิบายประโยชน์การใช้งานในเมนูต่างๆ ซึ่งสามารถเลือกเปิดปิดได้ตามต้องการ
| ภาพละเอียดคมชัดยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยี Digital Lens Optimizer ใหม่ติดตั้งในตัวกล้อง แก้ปัญหาความคลาดเคลื่อนของสีที่เกิดจากเลนส์ถ่ายภาพและปัญหาภาพเบลอที่เกิดจากรูรับแสงที่แคบเกินไป |
เพื่อป้องกันมิให้คุณภาพความคมชัดของภาพลดลงจากปัญหาความคลาดเคลื่อนของสีที่เกิดจากเลนส์และรูรับแสง แคนนอนจึงติดตั้งฟังก์ชั่นที่ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้มากับกล้อง EOS-1D X Mark II มากมายเพื่อให้ภาพออกมาสมบูรณ์และคมชัดมากที่สุด และช่วยแก้ปัญหาภาพสีเพี้ยนในตัวกล้องได้ทันที กล้อง EOS-1D X Mark II ไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาขอบภาพสีเพี้ยนและความคลาดเคลื่อนของสีเท่านั้น แต่นี่ยังเป็นครั้งแรกที่กล้องตระกูล EOS มีฟังก์ชั่นช่วยแก้ปัญหาภาพบิดเบี้ยว (Distortion Correction) และปัญหาภาพเบลอจากรูรับแสง (Diffraction Correction) มารวมไว้ในตัวกล้องด้วย โดยฟังก์ชั่น Distortion Correction นี้สามารถแก้ปัญหาภาพเบี้ยวได้ทั้งแบบส่วนกลางของภาพบิดเบี้ยวในลักษณะที่เพิ่มขึ้น (barrel) และส่วนกลางของภาพบิวเบี้ยวในลักษณะยุบตัว(pincushion) ขณะที่ฟังก์ชั่น Diffraction Correction ช่วยแก้ปัญหาภาพเบลอที่มักเกิดขึ้นเมื่อใช้รูรับแสงที่มีขนาดเล็กเกินไปได้ถึงเกือบ 100% ชิปประมวลผลภาพ Dual DIGIC 6+ ที่มากับกล้องยังช่วยให้ฟังก์ชั่นเหล่านี้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำให้การทำงานของกล้องช้าลง นอกจากนี้ เทคโนโลยี Digital Lens Optimizer จากแคนนอน ยังช่วยให้การประมวลผลภาพในฟอร์แมต RAW ทำได้รวดเร็วทันทีในตัวเครื่อง ไม่เพียงช่วยให้ภาพมีคุณภาพสูงขึ้น แต่ยังช่วยให้ช่างภาพทำงานได้อย่างมั่นใจแม้อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

| มีระบบ GPS ในตัว***** ติดข้อมูลของภาพแสดงข้อมูลทางภูมิศาสตร์ รวมถึงเวลาสากลเชิงพิกัดที่ซิงก์ข้อมูลโดยอัตโนมัติผ่านระบบดาวเทียม |
ระบบ GPS แสดงข้อมูลสถานที่และเวลาได้กลายมาเป็นหนึ่งในขั้นตอนการทำงานที่ขาดไม่ได้ของมืออาชีพ โดยเฉพาะช่างภาพที่ต้องไปทำงานนอกสถานที่ และถ่ายภาพเป็นจำนวนมากต่อวัน กล้อง EOS-1D X Mark II มาพร้อมระบบ GPS ในตัว* ไม่เพียงช่วยให้ผู้ใช้ติดแท็กภาพแสดงข้อมูลสถานที่ ยังสามารถปรับข้อมูลเวลาและแสดงเวลาที่ต้องการลงในภาพได้โดยอัตโนมัติ และด้วยระบบ GPS ในตัว* รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi ผ่านอุปกรณ์เสริมสำหรับส่งไฟล์ไร้สายรุ่น WFT-E8A กล้อง EOS-1D X Mark II จึงสามารถใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติทั้งสองประการนี้ได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้อัปโหลดข้อมูลภาพปริมาณมหาศาลได้อย่างรวดเร็วแม้จะอยู่ในสถานที่ห่างไกลก็ตาม ทั้งนี้ ระบบ GPS ในกล้องรุ่นนี้รองรับการทำงานได้ทั้งกับดาวเทียม GPS ของสหรัฐฯ ดาวเทียม GLONASS ของรัสเซีย และดาวเทียม Michibiki ของญี่ปุ่น ข้อมูล GPS ที่ได้จึงแม่นยำเชื่อถือได้ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนก็ตาม
* ในบางประเทศและภูมิภาค การใช้ระบบ GPS อาจมีข้อจำกัด ควรศึกษาข้อมูลทางกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของประเทศหรือภูมิภาคนั้นๆ ก่อนใช้งาน และโปรดระมัดระวังเมื่อเดินทางออกนอกประเทศ และเนื่องจากระบบนี้จำเป็นต้องมีการรับสัญญาณจากดาวเทียม GPS โปรดใช้งานอย่างระมัดระวังเมื่ออยู่ในสถานที่ที่ห้ามใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
| รองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมส่งไฟล์ผ่านระบบเครือข่ายไร้สาย WFT-E8A รุ่นใหม่ ผ่านอุปกรณ์เน็ตเวิร์คไร้สาย IEEE 802.11ac/n/a/g/b (ใช้ได้ทั้งกับช่องสัญญาณ 2.4 GHz และ 5 GHz) |
อุปกรณ์ส่งไฟล์ผ่านระบบเครือข่ายไร้สาย WFT-E8A เป็นอุปกรณ์เสริมรุ่นใหม่สำหรับกล้อง EOS-1D X Mark II ที่มาพร้อมกับความสามารถในการถ่ายโอนไฟล์ภาพอย่างรวดเร็ว และมีฟีเจอร์ใหม่อีกหลายอย่างที่ช่วยให้การถ่ายภาพระบบไร้สายทำได้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว รองรับการถ่ายโอนไฟล์ภาพความเร็วสูงมาตรฐาน 802.11ac ที่ความถี่ 5 GHz พร้อมยูสเซอร์อินเตอร์เฟสปรับโฉมใหม่ ช่วยให้การตั้งค่าระบบเครือข่ายไร้สายและการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android** ทำได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ อุปกรณ์ส่งไฟล์ไร้สาย WFT-E8A ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้สมาร์ทโฟนทำหน้าเสมือนเป็นรีโมทคอนโทรล ควบคุมการทำงานของตัวกล้องจากระยะไกลได้ทั้งการจับภาพนิ่งและวิดีโอ หรือแม้แต่โอนไฟล์ภาพที่ถูกบันทึกไว้แล้วกลับมาเพื่อดูบนหน้าจอกล้อง ก็ทำได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ อุปกรณ์เสริมดังกล่าวยังมีขนาดกะทัดรัดและทนทาน ป้องกันฝุ่นและน้ำได้ดีเยี่ยมเหมาะสำหรับการใช้งานในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

* รองรับการใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการ iOS เวอร์ชั่น 7.1/8.4/9.0 สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 4.0/4.1/4.2/4.3/4.4/5.0/5.1 อาจมีค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้ข้อมูลในการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นฟรี Canon Camera Connect ซึ่งแอพฯนี้จะช่วยให้คุณสามารถอัปโหลดภาพขึ้นไปยังเว็บบริการโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้ และโปรดระลึกไว้ว่าไฟล์ภาพเหล่านี้อาจมีข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้ แคนนอนไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อการนำภาพเหล่านี้ไปใช้ของคุณ และแคนนอนจะไม่มีการเก็บรวบรวมหรือนำภาพและข้อมูลที่อยู่ในภาพเหล่านี้ ซึ่งถูกอัปโหลดผ่านแอพฯ Canon Camera Connect ไปใช้ประโยชน์แต่อย่างใด
** รองรับการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น4.0/4.1/4.2/4.3/4.4/5.0/5.1
| ตัวกล้องทำจากแมกนีเซียมอัลลอยที่แข็งแรง กันฝุ่นและทนทานต่อสภาพอากาศ เพื่อการใช้งานทุกสถานการณ์ |
สำหรับช่างภาพอาชีพที่ต้องการอุปกรณ์ที่ดีที่สุด EOS-1D X Mark II ได้รับการออกแบบให้ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมทุกเวลา แม้ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยง บอดี้ของกล้องทำจากแมกนีเซียมอัลลอยที่แข็งแรงทนทานเพื่อการใช้งานอย่างสมบุกสมบัน จับถือได้ง่ายไม่เมื่อยมือ ม่านชัตเตอร์ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา ถ่ายภาพได้ 16 ภาพต่อวินาที ใช้งานได้มากถึง 400,000 ครั้ง ตัวกล้อง EOS-1D X Mark II และอุปกรณ์เสริม เช่น อุปกรณ์ส่งข้อมูลไร้สาย WFT-E8A มีการป้องกันอย่างครอบคลุมเพื่อให้กันน้ำและฝุ่นได้ดียิ่งขึ้นแม้ในบริเวณรอยต่อ