เนื้อหาวันที่ : 2017-02-21 17:00:51 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1703 views

          วารสารฉบับนี้เป็นฉบับแรกของปีกันอีกแล้ว ในโอกาสนี้ก็ขออนุญาตกล่าวคำว่าสวัสดีปีใหม่คุณผู้อ่านที่รักทุกท่านครับ สำหรับปีที่ผ่านมาเราได้ผ่านพ้นเรื่องราวอะไรมาอย่างมากมาย หลายคนอาจจะสมหวังบ้าง หรือผิดหวังบ้างกับภารกิจหรือประสบการณ์ต่าง ๆ และในปีใหม่นี้ก็คงเป็นอีกปีที่มีอะไรให้เราสู้กันต่อไป ก็ขออวยพรให้ทุกท่านได้มีพลังกาย พลังใจ พลังสติปัญญา เพื่อใช้ต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคที่อาจจะเข้ามาในปีนี้ และจงผ่านพ้นจากปัญหาและอุปสรรคดังกล่าวไปได้ด้วยดี พร้อมทั้งขอให้ทุกท่านจงประสบแต่ความสำเร็จทั้งในสิ่งที่คาดหวังและวางแผนไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหน้าที่การงาน การเงิน สุขภาพหรือการดำเนินชีวิต ก็ขอให้ทุกท่านมีความสุขตลอดปี 2560 ครับ

 

          ประเทศไทยในอดีตที่ผ่านมามีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่โมเดลประเทศไทย 1.0 ที่เน้นภาคการเกษตร ไปสู่ ประเทศไทย 2.0 ที่เน้นอุตสาหกรรมเบา และก้าวสู่โมเดลปัจจุบันคือ ประเทศไทย 3.0 ที่เน้นอุตสาหกรรมหนัก แต่ทว่า ภายใต้โมเดลปัจจุบันที่เป็นอยู่กันตอนนี้ต้องเผชิญกับดักสำคัญที่ไม่อาจนำพาประเทศพัฒนาไปมากกว่านี้ได้ หรือที่เรียกว่าติดกับดักของประเทศที่มีรายได้ปานกลาง (Middle Income Trap) จึงเป็นประเด็นที่รัฐบาลต้องสร้างโมเดลใหม่ขึ้นมา เพื่อปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศและนำพาประชาชนทั้งประเทศไปสู่โมเดล ประเทศไทย 4.0 หรือการเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่มีฐานะร่ำรวย (High Income Countries) โดยจะยกระดับรายได้ประชาชาติต่อหัวต่อปี เพิ่มจากปัจจุบัน 5,281 เหรียญสหรัฐฯ ให้กลายเป็น 15,000 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนของประเด็นดังกล่าวนี้เอง หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่ต้องสัมพันธ์สอดคล้องกับการสร้างนวัตกรรม การพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และเพิ่มมูลค่าของสินค้าในภาคอุตสาหกรรม

 

          สำหรับภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นพระเอกหลักของงานนี้ ก็กำลังจะก้าวสู่ยุคของ การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 หรือ Industry 4.0 ด้วยเช่นกัน และเมื่อย้อนกลับไปก่อนหน้านี้การปฏิวัติอุตสาหกรรมได้เกิดขึ้นมาแล้ว 3 ครั้ง โดยเริ่มต้นเมื่อประมาณ 230 ปีก่อนโดยชายที่ชื่อ เจมส์ วัตต์ ได้ปรับปรุงเครื่องจักรกลไอน้ำนิวโคแมนให้ใช้งานได้ดีขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 จากจุดนั้นเรียกได้ว่า เป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 1 เป็นยุคของการใช้พลังงานจากเครื่องจักรไอน้ำเข้ามาทดแทนการใช้แรงงานคน หรือสัตว์ หรือพลังงานธรรมชาติ ต่อมาการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น เป็นการเปลี่ยนจากยุคที่ใช้เครื่องจักรไอน้ำ มาใช้พลังงานไฟฟ้า เปลี่ยนระบบการผลิต เป็นระบบโรงงาน เกิดการผลิตสินค้าคราวละมาก ๆ (Mass Production) สินค้าดี มีคุณภาพ ราคาไม่แพง เกิดกระแสบริโภคนิยมไปทั่วโลก กระทั่งปัจจุบันที่อยู่ในยุคของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นยุคที่คอมพิวเตอร์เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน ในโรงงานต่าง ๆ เกิดสายการผลิตแบบอัตโนมัติขึ้น เป็นการใช้เครื่องจักรอัตโนมัติหรือหุ่นยนต์ในการผลิตแทนที่แรงงานมนุษย์มากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้สูงขึ้นอีกระดับหนึ่ง โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อลดต้นทุนการผลิต และต่อจากนี้ไป การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 หรือ Industry 4.0 จะมีบทบาทมากขึ้นจากการบูรณาการโลกของการผลิตเข้ากับการเชื่อมต่อทางเครือข่ายในรูปแบบ Internet of Things (IoT) ทุกหน่วยของระบบการผลิต ตั้งแต่วัตถุดิบ เครื่องจักร เครื่องมืออุปกรณ์ ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ จุดเด่น คือ สามารถเชื่อมความต้องการของผู้บริโภคแต่ละรายเข้ากับกระบวนการผลิตสินค้าได้โดยตรง กล่าวคือ โรงงาน 4.0 จะสามารถผลิตของหลากหลายรูปแบบแตกต่างกันตามความต้องการเฉพาะของผู้บริโภคแต่ละราย (Mass Customization) เป็นจำนวนมากในเวลาพริบตาเดียว โดยใช้กระบวนการผลิตที่ประหยัดและมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิตอลครบวงจรแบบ Smart Factory

 

          การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ซึ่งประเมินกันว่าจะเกิดขึ้นภายใน 20 ปีข้างหน้านี้ ทำให้หลายประเทศมีการตื่นตัวกับผลกระทบที่จะตามมา เนื่องจากปัจจุบันทุกประเทศบนโลกมีการเชื่อมต่อถึงกันอย่างไร้พรมแดนในทุกมิติ ทั้งความร่วมมือทางการค้า ความร่วมมือด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจและสังคม แน่นอนว่า ในอีกมุมหนึ่ง ย่อมเกิดการแข่งขันกันสูงขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุผลประการหลังนี้เอง หลายประเทศจำเป็นต้องปรับตัวสู่การพัฒนาในยุคอุตสาหกรรม 4.0 ตามกันไป เพื่อเพิ่มศักยภาพของตนเองในการแข่งขันในเวทีของตลาดโลกนั่นเองครับ

 

 

 

เศรษฐกาญจน์ อนุวัตรวงศ์

sedthakarn@se-ed.com

 

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 www.thailandindustry.com
Copyright (C) 2009 www.thailandindustry.com All rights reserved.

ขอสงวนสิทธิ์ ข้อมูล เนื้อหา บทความ และรูปภาพ (ในส่วนที่ทำขึ้นเอง) ทั้งหมดที่ปรากฎอยู่ในเว็บไซต์ www.thailandindustry.com ห้ามมิให้บุคคลใด คัดลอก หรือ ทำสำเนา หรือ ดัดแปลง ข้อความหรือบทความใดๆ ของเว็บไซต์ หากผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความนี้ไปใช้ ดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด